สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือประกาศต่อคณะนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรผู้มีส่วนในการประสบความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ฮวาซง-15 ให้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มเติม ในระหว่างพิธีประดับอิสริยาภรณ์สูงสุดให้คณะผู้รับผิดชอบเหล่านั้น ทั้งนี้นายคิมกล่าวว่า ทีมงานทั้งหมดจะยังคงการผลิตอาวุธและยุทโธปกรณ์ทันสมัยล่าสุดต่อเนื่องต่อไปเพื่อเพิ่มพูนอานุภาพนิวเคลียร์ของประเทศทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ทั้งนี้นายคิมเป็นผู้ประดับอิสริยาภรณ์สูงสุด “ออร์เดอร์ ออฟ คิม อิล ซุง” และ “ออร์เดอร์ ออฟ คิม จอง อิล” ให้กับบรรดาผู้ที่มีส่วนในความสำเร็จของการ “สร้างและทดสอบยิงขีปนาวุธไอซีบีเอ็ม ฮวาซง-15 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเกียรติภูมิและพลานุภาพของรัฐที่ทรงอานุภาพของเราให้เป็นที่ประจักษ์กันทั่วโลกอีกครั้ง”
รายงานของเคซีเอ็นเอระบุว่าผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือประกาศอย่างจริงจังในวันสุดท้ายของการประชุมว่าด้วยอุตสาหกรรมสรรพาวุธและเครื่องกระสุนของเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมาว่าการพัฒนา ระเบิดนิวเคลียร์ ระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์(เอชบอมบ์) และขีปนาวุธข้ามทวีป ฮวาซง-15 เป็นการพัฒนาระบบอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่ทำให้ประเทศบรรลุถึงเป้าหมายครอบครองอานุภาพทางนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ “ถือเป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ของพรรคและประชาชนของประเทศนี้” ซึ่งจะยังคงมีการพัฒนาต่อไปและเกาหลีเหนือจะประสบชัยชนะในการเผชิญหน้ากับจักรวรรดินิยมและสหรัฐอเมริกา
เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธฮวาซง-15 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ซึ่งแสดงให้เห็นสมรรถนะว่าสามารถครอบคลุมถึงจุดใดก็ได้บนแผ่นดินใหญ่สหรัฐอเมริกาและทำให้เกาหลีเหนือกลายเป็นชาตินิวเคลียร์ใหม่ขึ้นมา อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เกาหลีเหนืออาจยังขาดเทคโนโลยีสำหรับการรีเอนทรีกลับลงสู่ชั้นบรรยากาศสำหรับหัวรบนิวเคลียร์ของตน
