เมื่อวันที่ 4 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกากำลังเจอกับพายุฤดูหนาวรุนแรง จนทำให้รัฐฟลอริดามีหิมะตกเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี โดยสำนักงานอากาศแห่งชาติของสหรัฐเตือนว่า พายุฤดูหนาวครั้งนี้จะทำให้มีทั้งหิมะและน้ำแข็งเกิดขึ้นตั้งแต่ทางตะวันออกเฉียงใต้ จากรัฐฟลอริดา ไปจนถึงตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 3 ถึงวันที่ 4 มกราคม
ขณะที่มีรายงานว่า ที่นครนิวยอร์ก กำลังเผชิญกับพายุฤดูหนาว โดยคาดว่าปริมาณหิมะตั้งแต่คืนวันที่ 3 จนถึงวันที่ 4 มกราคม จะอยู่ที่ประมาณ 8-15 เซนติเมตร ส่วนที่เมืองแทลลาแฮสซี เมืองเอกของรัฐฟลอริดา ซึ่งอยู่ตอนเหนือของรัฐ มีรายงานว่ามีหิมะตกลงมาในช่วงเช้าวันที่ 3 มกราคม อยู่ที่ประมาณ 0.1 นิ้ว ซึ่งถือเป็นหิมะแรกของรัฐฟลอริดานับตั้งแต่ปี ค.ศ.1989 เป็นต้นมา ทำให้ชาวฟลอริดา ที่ปกติจะเจอแต่พายุเฮอริเคน ต่างพากันออกมาสัมผัสกับหิมะแรกในรอบหลายสิบปี และโพสต์ภาพของหิมะที่ปกคลุมไปทั่วบนโลกสังคมออนไลน์ และคาดว่าในช่วงดึกอุณหภูมิในเมืองแทลลาแฮสซีในช่วงสัปดาห์นี้จะลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
สำนักงานอากาศแห่งชาติ ยังเตือนด้วยว่า ความกดอากาศต่ำที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วบริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกของรัฐฟลอริดา กำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และจะทำให้เกิดหิมะตกบริเวณชายฝั่งตอนกลางของแอตแลนติก ก่อนจะไปยังนิวอิงแลนด์ และมุ่งหน้าไปยังแคนาดาในวันที่ 5 มกราคม