Live Update : เหตุระเบิดสนามบิน – สถานีรถไฟในกรุงบรัสเซลส์ ตาย-เจ็บเพียบ!
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งที่อาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินนานาชาติซาเวนเต็มในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 22 มีนาคม โดยภาพจากสถานีโทรทัศน์อาร์ทีบีเอฟของทางการเบลเยียมแสดงให้เห็นกลุ่มควันลอยขโมงขึ้นมาจากอาคาร ขณะที่กระจกหน้าต่างแตกกระจาย
https://youtu.be/PRwVQBADL4w
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเบลเยียม ระบุว่า เหตุระเบิดที่สนามบินซาเวนเต็ม เป็นการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาในไทย อยู่ที่ 13 ราย และบาดเจ็บ 35 คน

สถานีโทรทัศน์อาร์ทีบีเอฟ ระบุว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลาหลัง 08.00 น. เล็กน้อยตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 14.00 น. ในไทย) และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบพื้นที่แล้ว ขณะที่มีรายงานว่า พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดและมีเสียงตะโกนเป็นภาษาอาหรับ ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นบริเวณเคาน์เตอร์ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส ภายในอาคารผู้โดยสารขาออก
ขณะที่ยูโรคอนโทรล หน่วยงานควบคุมการบินของยุโรป เปิดเผยว่า สนามบินบรัสเซลส์จะปิดทำการจนกว่าจะมีการแจ้งความเปลี่ยนแปลงและเที่ยวบินทั้งหมดได้ถูกยกเลิก ขณะที่ทางการเบลเยียมประกาศยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายขึ้นสู่ระดับสูงสุดทั่วประเทศ


เมื่อเวลา 15.30 น สำนักข่าวเอบีซีนิวส์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค ในกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของสหภาพยุโรป (อียู) โดยมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดรถไฟใต้ดินหลายคน ขณะที่ทางการเบลเยียมได้สั่งปิดสถานีรถไฟทุกแห่งในกรุงบรัสเซลส์แล้ว
This was the scene a short while ago, between the Arts-Lois and Maelbeek metro stations in Brussels. pic.twitter.com/aTZjqsF7Gt
— Evan Lamos (@evanlamos) March 22, 2016
คลิปวิดีโอเหตุการณ์วุ่นวายภายในสถานีรถไฟมาลบีค หลังเกิดระเบิด

รายงานระบุว่า ทางการเบลเยียมได้ประกาศให้ประชาชนทุกคน “อยู่ในที่ที่ตัวเองอยู่” ด้านอียูประกาศให้เจ้าหน้าที่ทุกคนอยู่แต่ภายในอาคารหรือที่อยู่อาศัยของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ทางการเบลเยียมเพิ่งจับกุมตัวนายซาเลาะห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศสเชื้อสายโมรอกโก หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่หลบหนีไปได้หลังเหตุวินาศกรรมโจมตีกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 130 รายได้ระหว่างปฏิบัติการตรวจค้นในย่านโมเลนบีค กรุงบรัสเซลส์ขณะที่ยังมีผู้ต้องสงสัยอีกรายคือนายโมฮัมเหม็ด อบรินี ที่ยังหลบหนีไปได้
เมื่อเวลา 16.18 น. เอเอฟพีรายงานว่า เบลเยียมได้ยกเลิกการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมด ทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟ รถราง และบริการรถโดยสารในกรุงบรัสเซลส์
16.21 น. เอเอฟพีรายงานว่า สนามบินแกตวิก ในกรุงลอนดอน ของอังกฤษ ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยขึ้นเป็นกรณีพิเศษหลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงบรัสเซลส์ ขณะที่นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมเรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีทั้งหมด เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีครั้งนี้ พร้อมกันนั้น ได้ประกาศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและการลาดตระเวนทั่วสนามบินทุกแห่งในอังกฤษ ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า ยูโรสตาร์ประกาศระงับการเดินรถไปและกลับจากกรุงบรัสเซลส์ทั้งหมดหลังเหตุระเบิด
16.25 น. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการเนเธอร์แลนด์ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มมาตรการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยบริเวณสนามบินและเข้มงวดกับการตรวจสอบบริเวณชายแดนให้มากขึ้น ขณะที่ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สำนักงานสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประกาศยกเลิกการประชุมทั้งหมดตลอดช่วงเช้าวันเดียวกันนี้
16.29 น. รอยเตอร์อ้างทวิตเตอร์ของนายอเล็กซานเดอร์ เดอครู รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีความร่วมมือด้านการพัฒนาด้านดิจิตอลและโทรคมนาคม ระบุว่า เครือข่ายโทรศัพท์ในกรุงบรัสเซลส์ใช้การไม่ได้ ให้ประชาชนใช้การสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ เช่น เฟซบุ๊ก, วอทส์แอพพ์ และอื่นๆ พร้อมกับขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์
16.52 น. นายชาร์ลส์ มิเชล นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ประกาศเตือนชาวเบลเยียม ผ่านทางทวิตเตอร์ ขอให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นชั่วขณะ หากมีอะไร ให้แจ้งที่เบอร์โทร.ฉุกเฉิน 1771 ขณะที่มีรายงานว่า มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาเสริมกำลังเพื่ออารักขาทำเนียบนายกรัฐมนตรีเบลเยียม
16.55 น. บรัสเซลส์แอร์ไลน์ส สายการบินแห่งชาติของเบลเยียม ออกแถลงการณ์ระบุว่า สืบเนื่องจากเหตุระเบิดในกรุงบรัสเซลส์ ทางสนามบินบรัสเซลส์ จะปิดบริการจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นในเบลเยียม ดังนั้นเที่ยวบินทั้งหมดจนกว่าจะถึงเวลาดังกล่าวจำเป็นต้องถูกยกเลิก
16.58 น. รอยเตอร์อ้างรายงานจากสำนักข่าวเบลกา สำนักข่าวท้องถิ่นของเบลเยียม อ้างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในสนามบินซาเวนเต็ม 11 ราย ด้านผู้สื่อข่าวการ์เดียน รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า ผู้โดยสารที่รอขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟกาดูนอด์ เพื่อรอรถไฟไปกรุงบรัสเซลส์ ได้รับแจ้งให้ลงจากรถไฟ และประกาศให้ทราบว่า รถไฟในเส้นทางระหว่างประเทศที่เดินทางไปเบลเยียมทั้งหมด ถูกระงับ สืบเนื่องจากเหตุระเบิด
17.03 น. บีบีซีรายงานว่า สำนักงานอัยการแห่งรัฐเบลเยียม แถลงยืนยันว่า เหตุระเบิดที่สนามบินซาเวนเต็ม เป็นผลจากการปฏิบัติการของมือระเบิดฆ่าตัวตายเพียงคนเดียว
17.07 น. เอเอฟพีรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเบลเยียมระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดทั้งที่สนามบินและสถานีรถไฟรวม 21 ราย โดยเป็นผู้เสียชีวิตที่สนามบิน 11 ราย และที่สถานีถไฟ 10 ราย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกนำตัวออกจากพื้นที่แล้ว
17.10 น. สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศส ระบุว่า มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินและสถานีรถไฟทั้งในกรุงปารีส และทั่วประเทศ หลังเหตุระเบิดในกรุงบรัสเซลส์ เช่นเดียวกับที่เยอรมนีรายงานว่าสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ของเยอรมนี ได้ยกระดับมาตรการความปลอดภัยหลังเกิดระเบิดในเบลเยียมเช่นกัน
17.14 น. ด้านสถานทูตสหรัฐอเมริกา ในกรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม ออกประกาศเตือนชาวอเมริกันในเบลเยียม ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง และขอให้อยู่แต่ภายในอาคาร รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินทางไปตามที่สาธารณะ พร้อมระบุว่า เบลเยียมยังอยู่ในสถานะมีภัยคุกคามระดับ 4 ซึ่งเป็นสถานะที่เป็นไปได้สูงที่จะมีการโจมตี และมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ขณะที่นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป ออกมาประณามการก่อเหตุระเบิดในบรัสเซลส์ ว่า ถือเป็นพฤติกรรมต่ำช้าอีกครั้งหนึ่งของผู้ก่อการร้าย
“ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจอย่างลึกซึ้ง ต่อญาติมิตรของเหยื่อที่เสียชีวิต การกระทำครั้งนี้ถือเป็นการลงมือต่ำช้าอีกครั้งหนึ่งของผู้ก่อการร้าย ที่ตอบสนองต่อความเกลียดชังและความรุนแรง” นายทัสก์กล่าว
17.20 น. นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่สนามบินในกรุงบรัสเซลส์ ทั้งนี้เที่ยวบินทีจี 934 ของสายการบินไทย ได้ลงจอดก่อนเกิดเหตุ ซึ่งได้รับรายงานว่าผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย ในส่วนของระเบิดที่สถานีรถไฟสถานทูตกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบหรือไม่
นายเสขกล่าวว่า อย่างไรก็ดีกระทรวงจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสถานทูตได้แจ้งคนไทยในบรัสเซลส์ให้ใช้ความระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้อาศัยในกรุงบรัสเซลส์สามารถติดต่อเบอร์ฉุกเฉินของสถานทูตได้ที่ +32470859667 สำหรับญาติพี่น้องในไทยที่มีความห่วงกังวลสามารถติดต่อเบอร์สายด่วนกรมการกงสุลที่หมายเลข 025728442 ทั้งนี้ในเบลเยียมมีคนไทยอาศัยอยู่ 4,000 คน อยู่ในกรุงบรัสเซลส์ประมาณ 1,000 คน
17.35 น. โฆษกท่าอากาศยานนานาชาติฮีธโรว์ ของอังกฤษ แถลงว่า “ทางสนามบินยึดถือเอาความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ร่วมงานทุกคนเป็นเรื่องจริงจังอย่างยิ่ง หลังเกิดเหตุขึ้นที่สนามบินในบรัสเซลส์ เราได้ทำงานร่วมกับทางการตำรวจให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณท่าอากาศยานฮีธโรว์ และคาดว่าเที่ยวบินที่จะเดินทางสู่สนามบินในบรัสเซลส์ จะได้รับผลกระทบทั้งหมด ขอให้ผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางไปยังสนามบินดังกล่าวตรวจสอบสถานะของเที่ยวบินกับทางสายการบินของตนเองอย่างต่อเนื่อง”
ขณะที่ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่ายังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายใดๆ ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ระเบิดในบรัสเซลส์ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้แสดงความยินดีต่อเหตุระเบิดบนโลกออนไลน์ และดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นเชื่อว่า ไอเอสจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงครั้งนี้ ผู้สนับสนุนบางรายใช้ แฮชแท็ก ภาษาอาหรับ ว่า “บรัสเซลส์ออนไฟร์” เพื่อทวีตข้อความแสดงความชื่นชมต่อการก่อเหตุครั้งนี้ คล้ายคลึงกับแฮชแท็ก “ปารีสออนไฟร์” ซึ่งมีขึ้นขณะที่ไอเอสฉลองการโจมตีในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ที่น่าสังเกตคือ กลุ่มผู้สนับสนุนขบวนการก่อการร้ายอัลเคด้า ไม่มีความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ ในช่วงหลังเกิดเหตุระเบิดในเบลเยียม
17.42 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบุษยา มาทแล็ง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมเปิดเผยว่า เหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินในกรุงบรัสเซลส์ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เหตุระเบิดในสถานีรถไฟใต้ดินเกิดเมื่อเวลาประมาณ 09.11 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเหตุการณ์ที่สนามบิน สถานทูตได้ตรวจสอบกับทางสนามบินและบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่าผู้โดยสารที่เป็นชาวไทยทั้งหมดได้รับการอพยพออกมาทันเวลา โดยขณะที่เกิดเหตุระเบิดอาคารผู้โดยสารขาออก ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางมาด้วยเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 934 กำลังรอรับกระเป๋าอยู่ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบลเยียมได้อพยพคนไทยส่วนนี้และผู้โดยสารทั้งหมดออกจากสนามบินดังทันที
นางบุษยากล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ได้ติดต่อประสานงานผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ไปยังคนไทยและชุมชนชาวไทยในเบลเยียมทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีคนไทยเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่สนามบิน ส่วนเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินนั้นอยู่ห่างจากสำนักงานของสหภาพยุโรป(อียู) เพียง 1 สถานมีรายงานข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 10 คน ทั้งนี้สถานทูตกำลังตรวจสอบว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีคนไทยเสียชีวิตหรือบาดเจ็บเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตไทยได้เปิดโทรศัพท์สายด่วนติดตามสถานการณ์ดังกล่าวได้ที่หมายเลข +32470859667 และหมายเลขโทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ +32 26406810 ต่อ 002 และ 003 ถ้าคนไทยที่ต้องการติดต่อสอบถามสามารถโทรศัพท์มาได้ทันที
นางบุษยา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โดยรวมในกรุงบรัสเซลส์ขณะนี้ ทางการเบลเยียมได้ปิดโรงเรียนและปิดระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศห้ามประชาชนออกจากบ้าน ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตขอเตือนให้คนไทยทุกคนอยู่ในบ้าน ห้ามออกไปในที่สาธารณะ
17.44 น. มาร์ค โรว์ลีย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจนครบาลลอนดอน ประเทศอังกฤษ แถลงว่า มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพิเศษเพื่ออารักขาจุดสำคัญๆทั่วประเทศอังกฤษ ในถ้อยแถลงตอนหนึ่งระบุว่า สถานที่ตั้งแต่ชุมทางคมนาคมรวมทั้งสถานที่สำคัญอื่นๆ มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจและคุ้มครองสาธารณชน แต่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวกรองจำเพาะเจาะจงแต่อย่างใด
นายโรว์ลีย์กล่าวตอนหนึ่งว่า เรากำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการเบลเยียมและจะติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ภัยคุกคามต่ออังกฤษจากกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 หมายความว่า การโจมตียังคงมีความเป็นไปได้สูงมาก ดังนั้นขอให้ทั้งประชาชนทั่วไปและหน่วยงานธุรกิจมีความตื่นตัว แต่ต้องไม่ตื่นตระหนก และให้รายงานข้อสงสัยที่พบเห็นไปยังสายด่วนต่อต้านการก่อการร้าย
17.55 น. ซีเอ็นเอ็นรายงานล่าสุดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดที่สถานีรถไฟมาลบีค เพิ่มขึ้นเป็น 15 ราย ด้านบริษัท ลาสติบ ผู้บริหารรถไฟใต้ดินในบรัสเซลส์แถลงยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 15 รายที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค จากเหตุระเบิด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 55 คน ขณะที่นายชาร์ลส์ มิเชล นายกรัฐมนตรีเบลเยียม แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ ประณามการโจมตีครั้งนี้ว่า เป็นการโจมตีที่มืดบอด รุนแรง และขี้ขลาด พร้อมระบุว่า เราต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งนี้ ด้วยความสามัคคีเป็นเอกภาพไปด้วยกัน
“เรากลัวว่าจะมีการเกิดโจมตีด้วยการก่อการร้ายขึ้น ตอนนี้สิ่งที่เรากลัวเกิดขึ้นแล้ว มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เราจำเป็นจะต้องเพิ่มระดับภัยคุกคามความมั่นคงขึ้นสู่ระดับ 4”
18.00 น. ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูต ณกรุงบรัสเซลส์ได้ตรวจสอบกับ บมจ. การบินไทยแล้วไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่สนามบินกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งการบินไทยแจ้งว่าเที่ยวบินการบินไทยที่ TG 935 เส้นทางกรุงบรัสเซลส์-กรุงเทพฯ ที่มีกำหนดออกเดินทางเวลา 13.10 น.จะเลื่อนไปจนกว่าท่าอากาศยานกรุงบรัสซลส์จะให้บริการได้ตามปกติ โดยสถานการณ์ล่าสุดตำรวจเบลเยียมได้สั่งปิดและงดการเข้าพื้นที่สนามบินฯ นอกจากนี้ ทางการเบลเยียมได้ยกระดับเตือนภัยการก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด (คือระดับ 4)ทั่วประเทศ พร้อมสั่งปิดระบบรถไฟใต้ดิน รถเมล์ และรถราง ทั้งหมดในกรุงบรัสเซลส์ ในชั้นนี้ ทางการเบลเยียมขอให้คนที่อยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ หากไม่มีความจำเป็นควรอยู่ที่บ้าน และคนที่อาศัยอยู่นอกกรุงบรัสเซลส์ควรหลีกเลี่ยงการเข้าเมืองเช่นกัน
18.04 น. รอยเตอร์รายงานว่า มีผู้ได้ยินเสียงระเบิดบริเวณถนนรูเดอลาลัว ซึ่งเป็นถนนที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟมาลบีค ในกรุงบรัสเซลส์ อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นของเบลเยียมระบุว่า เป็นเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิด ทำลายระเบิดที่หลงเหลืออยู่ทิ้ง
ด้านนายแบร์นาร์ กาเซเนิฟ รัฐมนนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส แถลงว่า ได้จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่กำลังเสริมพิเศษ 1,600 นาย ไปประจำการตามแนวชายแดนติดกับเบลเยียม บริเวณสถานีรถไฟ สนามบินและท่าเรือ ขณะที่การใช้บริการขนส่งมวลชนทั่วฝรั่งเศสจะมีการเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยประชาชนจะต้องมีตั๋วโดยสารและบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบ พร้อมเรียกร้องให้ยุโรปเพิ่มความร่วมมือกันมากขึ้นในการต่อสู้กับการก่อการร้าย
บีบีซีรายงานจากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระบุว่า สำนักงานตำรวจนิวยอร์ก ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณจุดที่เป็นชุมทางขนส่งมวลชน สะพาน อุโมงค์ และสถานที่สำคัญๆอื่นๆ
ทั่วโลกประณาม
หลังเกิดเหตุโจมตีช็อกโลกอีกครั้ง ประชาคมโลกต่างพากันออกมาประณามการก่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทวีตข้อความระบุว่า “ผมช็อกและห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือ” และว่า ตนจะประชุมคณะกรรมาธิการคอบร้าที่เป็นคณะทำงานเพื่อตอบสนองภาวะวิกฤตในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้
ด้านนายสเตียฟาน เลิฟเวียน นายกรัฐมนตรีสวีเดน กล่าวว่า เหตุระเบิดที่สนามบินในกรุงบรัสเซลส์เป็นการโจมตียุโรปที่เป็นประชาธิปไตย เราจะไม่ยอมรับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่มีต่อสังคมเปิดของเรา ขณะที่นายกรัฐมนตรีลาร์ส ลอกเก ราสมุสเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ทวีตข้อความประณามเหตุโจมตีที่กรุงบรัสเซลส์ว่าเป็น “การโจมตีที่ต่ำช้า”
ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ ของฝรั่งเศส ได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรี หลังจากที่ทางการฝรั่งเศสได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยในประเทศเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดเหตุโจมตีในกรุงบรัสเซลส์
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น”การกระทำที่ป่าเถื่อน” พร้อมแสดงความเสียใจกับชาวเบลเยียมและให้ความเชื่อมั่นแด่กษัตริย์ฟิลิปป์แห่งเบลเยียม ถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้
นางเฟเดริกา โมห์เกรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป(อียู) แถลงต่อผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาว่า เหตุระเบิดที่กรุงบรัสเซลส์ถือเป็นวันที่น่าเศร้าใจยิ่งสำหรับยุโรปจากการที่ยุโรปและเมืองหลวงของยุโรปกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดเดิมๆที่ภูมิภาคนี้ได้เรียนรู้อยู่ในทุกๆวัน
ขณะที่นายแฟรงก์ การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีสายความมั่นคง ออกมาให้ความเห็นเชิงวิพากษ์ว่า ไม่แปลกใจที่เกิดเหตุโจมตีขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ แต่รู้สึกตกใจมากกว่าที่ลงมือทำสำเร็จ โดยนับจากเกิดเหตุโจมตีที่สำนักงานชาร์ลีเอ็บโดในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ก็มีเซลก่อการร้ายจำนวนหนึ่งที่ลอยนวลอยู่ซึ่งยังได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส)และยังเข้าถึงอาวุธและวัตถุระเบิดต่างๆได้ ทว่าการที่หน่วยข่าวกรองของเบลเยียมติดตามไล่ล่าผู้ก่อการร้าย แต่กลับไม่ได้มีระบบการแบ่งปันข้อมูลร่วมกันกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดีแต่อย่างใด การโจมตีในอังกฤษหลายครั้งได้รับการป้องกันจากชุมชนมุสลิมที่รายงานพฤติกรรมที่น่าสงสัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สิ่งนั้นยังไม่ได้เกิดขึ้นที่นี่ในเบลเยียม
18.21 น. นายปีเตอร์ เบอร์เกน นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของซีเอ็นเอ็น ระบุว่า ชนิดของระเบิดที่ใช้ในเหตุระเบิดครั้งนี้จะเป็นเครื่องบ่งชี้สำคัญว่าเป็นฝีมือของกลุ่มไอเอสและเป็นปฏิบัติการแก้แค้นของกลุ่มนายอับเดสลามหรือไม่ นายเบอร์เกนระบุว่า ถ้าหากระเบิดครั้งนี้ถูกระบุว่าเป็นระเบิด “ทีเอทีพี” ซึ่งเป็นระเบิดทำเองที่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นสารประกอบสำคัญ ก็จะเป็นที่แน่ชัดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้โยงกับเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีส เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพราะเป็นระเบิดชนิดเดียวกัน และระเบิดชนิดนี้ทำไม่ได้ง่ายๆ ต้องได้รับการฝึกเพราะระเบิดมีความละเอียดอ่อนและเกิดระเบิดขึ้นได้ง่ายมากระหว่างการประกอบ
เบอร์เกนระบุว่าระเบิดชนิดนี้เคยนำมาใช้ในเหตุการณ์ก่อการร้ายรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอน ปี 2548 และมีการนำมาใช้อีกครั้งในการโจมตีที่กรุงปารีส ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 130 คน ระเบิดชนิดนี้เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของกลุ่มอัลเคด้าและไอเอส โดยอัลเคด้านำมาใช้ก่อน แล้วไอเอสจึงได้นำมาใช้ในภายหลัง
18.30 น. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นางอานน์ อีดัลโก นายกเทศมนตรีนครปารีส ระบุว่า ทางการปารีสจะเปิดไฟเป็นสีธงชาติเบลเยียมที่หอไอเฟล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนเบลเยียม
18.38 น. บีบีซีรายงานว่า จากข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่ทราบในเวลานี้ ชี้ให้เห็นว่าเหตุระเบิดที่สนามบินบรัสเซลส์เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะถึงจุดตรวจตามมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่เป็นพื้นที่เปิดทั่วไป ดังนั้น กรณีนี้ไม่น่าจะเกิดจากการบกพร่องของมาตรการความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จุดตรวจและเครื่องสแกนของสนามบิน ผู้สื่อข่าวบีบีซีระบุว่า การโจมตีในลักษณะนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยับยั้งได้ และทำได้อย่างจำกัดมาก วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการหาข่าวกรองให้รู้แผนการก่อการร้ายล่วงหน้า
18.45 น. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดทั้งที่สนามบินและสถานีรถไฟในกรุงบรัสเซลส์ เพิ่มขึ้นเป็น 26 รายและบาดเจ็บรวม 130 คน
19.42 น. ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่อย่างน้อย 34 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่สนามบิน 14 ราย ที่สถานีรถไฟใต้ดิน 20 ราย บาดเจ็บ 187 คน แบ่งเป็นที่สนามบิน 81 คน ที่สถานีรถไฟใต้ดิน 106 คน ด้านเอเอฟพีระบุว่า ทางการเบลเยียมโดยสำนักงานอัยการแห่งรัฐได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สื่อของเบลเยียมงดเว้นการรายงานข่าวเรื่องกระบวนการสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าอาจเป็นการรบกวนหรือทำให้กระบวนการในการสืบสวนสอบสวนเสียหายได้ โดยนายดิดิเยร์ เรยน์เดอร์ส รัฐมนตรีต่างประเทศเบลเยียมเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ยังมีความกังวลว่าผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุโจมตีสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินของเบลเยียมในครั้งนี้จะยังมีบางรายที่หลบหนีลอยนวลไปได้
เมื่อเวลา 22.00 น. เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกา ประณามการโจมตีที่ “โหดร้าย” ในกรุงบรัสเซลส์ โดยระบุว่าสหรัฐจะทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้เพื่อไล่ล่าผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษ
“เราต้องร่วมมือกันโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะเป็นสัญชาติ เชื้อชาติหรือความเชื่อแบบไหนในการต่อสู้กับหายนะที่เกิดจากการก่อการร้าย เราสามารถและเราจะเอาชนะผู้ที่คุกคามความปลอดภัยและความมั่นคงของผู้คนทั่วโลก” โอบามาซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนคิวบา กล่าวที่กรุงฮาวานาเมืองหลวงของคิวบา และว่า “ความคิดคำนึงและการสวดอ้อนวอนของชาวอเมริกันมีให้กับประชาชนของเบลเยียมและเราจะยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเขาในการประณามการโจมตีที่ร้ายแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์”
โอบามากล่าวด้วยว่า เราจะทำทุกอย่างที่จำเป็นในการให้การสนับสนุนเบลเยียมที่เป็นเพื่อนและพันธมิตรของเราในการนำตัวผู้ก่อเหตุมาเผชิญกับความยุติธรรม และนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เตือนใจว่าโลกนี้จะต้องเป็นเอกภาพ”
ด้านกระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ระบุว่า “ตามที่เกิดเหตุระเบิดที่ท่าอากาศยานนานาชาติซาเวนเต็ม และสถานีรถไฟใต้ดินมาลบีค ในกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 มีนาคม 2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รัฐบาลไทยขอประณามเหตุการณ์การก่อการร้ายอันโหดร้ายนี้ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ในนามของประชาชนชาวไทยขอภาวนาและส่งกำลังใจให้แก่ประชาชนชาวเบลเยียมในห้วงเวลาแห่ง การสูญเสียนี้”
“ทั้งนี้ รัฐบาลไทยขอยืนยันด้วยว่าพร้อมจะร่วมมือกับประชาชนชาวเบลเยียมและประชาคมโลกในการต่อสู้อย่างเต็มที่กับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่หฤโหดผิดมนุษยธรรมอย่างร้ายแรงเช่นนี้”
เมื่อเวลา 22.24 น. รอยเตอร์รายงานอ้างสำนักข่าวเอเอ็มเอคิวที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายระบุว่า กองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมากล่าวอ้างแล้วว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ โดยระบุว่า “นักรบไอเอสได้ปฏิบัติการก่อเหตุโจทตีด้วยการใช้ระเบิดแบบเข็มขัดคาดไว้กับร่างกายเข้าโจมตีเป้าหมายที่สนามบินและสถานีรถไฟใจกลางกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม”