เมื่อวันที่ 2 มกราคม นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการให้ความช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์ในต่างประเทศในปี 2560 ที่ได้รวบรวมจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกทั้ง 97 แห่ง ว่า มีคนไทยขอรับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่รวม 10,216 ราย ลดลงกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบปี 2559 ที่มีจำนวน 14,481 ราย
นายชาตรีกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือที่พบมากที่สุดคือ การให้ความช่วยเหลือในเรื่องการตกทุกข์ทั่วไป อาทิ การทำหนังสือเดินทางสูญหาย การส่งคืนทรัพย์สินสูญหายที่ต่างประเทศคืนเจ้าของในประเทศไทย การเจ็บป่วยของคนไทย และการส่งตัวคนไทยตกทุกข์เดินทางกลับประเทศไทย โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 36 จากการให้ความช่วยเหลือทั้งหมด อันดับที่ 2 คือการช่วยเหลือแรงงานไทยตกทุกข์ โดยคิดเป็นร้อยละ 30 และอันดับที่ 3 คือการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุมโดยเฉพาะกลุ่มหญิงไทยที่ทำงานโดยใช้วีซ่าผิดประเภท คิดเป็นร้อยละ 18 ขณะที่ภูมิภาคที่มีผู้ขอรับความช่วยเหลือมากที่สุดคือตะวันออกกลาง โดยปัญหาที่พบเป็นส่วนใหญ่คือปัญหาหญิงไทยที่ไปลักลอบทำงานเป็นพนักงานนวดสปา
อธิบดีกรมการกงสุลกล่าวว่า แม้การให้ความช่วยเหลือในปีนี้จะลดลง แต่ปัญหาคนไทยตกทุกข์ในต่างประเทศก็ยังน่าห่วงกังวลและยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหลายอย่างต้องแก้ไขปมปัญหาในประเทศก่อนด้วย จึงขอฝากข้อเตือนและคำแนะนำสำหรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำงานในต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศขอให้ทำประกันการเดินทางไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพหรืออุบัติเหตุเพราะการรักษาพยาบาลที่ต่างประเทศมักมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งนี้ กรมการกงสุลจะได้พูดคุยหารือสมาคมประกันภัยเพื่อให้ข้อมูลเรื่องประกันภัยประเภทต่างๆ ให้ผู้เดินทาง ตลอดจนการอำนวยความสะดวกในการซื้อประกันภัยดังกล่าวต่อไป
นายชาตรีกล่าวว่า สำหรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศจะต้องตรวจสอบสัญญาว่าจ้างงานอย่างรอบคอบและควรศึกษาข้อมูลพื้นฐาน อาทิ กฎหมาย ระเบียบ ประเพณี ของประเทศปลายทาง นอกจากนี้ ควรบันทึกเบอร์สายด่วนฮอตไลน์ของสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลประเทศหรือเมืองที่จะเดินทางไป โดยสามารถค้นข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอพพลิเคชั่น Thai Consular ซึ่งรองรับได้ ทั้งระบบ IOS และ Android ซึ่งเป็นบริการที่กรมการกงสุลได้จัดทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศได้อย่างปลอดภัย ตามนโยบาย “การทูตเพื่อประชาชน ทุกแห่งหน เราดูแล”
