สรุปสถานการณ์ล่าสุดเหตุวินาศกรรมกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย และบาดเจ็บอีกราว 230 คน ในการโจมตีที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าเป็นผู้ลงมือ โดยเกิดการระเบิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้ง 2 ครั้งแรกเกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติซาเวนเต็มทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงบรัสเซลส์ เมื่อเวลาราว 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ระเบิดครั้งที่ 3 เกิดขึ้นที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลเบค บนถนนรูเดอลาลัว ใกล้กับอาคารสำนักงานใหญ่ของสหภาพยุโรป (อียู)

ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ 2 รายที่ใส่เสื้อสีดำและใส่ถุงมือดำที่มือซ้ายข้างเดียวซึ่งเชื่อว่าเป็นการซ่อนอุปกรณ์จุดชนวนระเบิด ถูกกล้องวงจรปิดของสนามบินจับภาพไว้ได้ โดยนายเฟรเดอริก ฟานเลอูว์ อัยการเบลเยียม เปิดเผยว่า เชื่อว่าทั้ง 2 คน “มีแนวโน้มสูงมากว่าจะจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย” ขณะที่ตำรวจเบลเยียมกำลังตามล่าผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 (ขวาสุดในภาพ) ที่คาดว่าจะอยู่ระหว่างการหลบหนีหลังก่อเหตุ
ทางการเบลเยียมยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 รายเป็นใคร โดยตำรวจได้เผยแพร่ภาพออกสู่สาธารณะเพื่อให้ช่วยกันระบุชื่อผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย
วีทีเอ็มทีวี สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในกรุงบรัสเซลส์รายงานว่า คนขับแท็กซี่ที่รับผู้ต้องสงสัย 3 รายมาส่งที่สนามบินได้พาตำรวจมายังบ้านพักหลังหนึ่งในย่านชาร์เบคทางตอนเหนือของกรุงบรัสเซลส์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นและพบวัตถุระเบิดที่มีตะปูอยู่ข้างใน วัตถุเคมี และธงไอเอส
รายงานข่าวในสื่อบางส่วนระบุว่ามีกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งที่ไม่สามารถนำใส่ในรถแท็กซี่ได้ และผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระเป๋าใบดังกล่าวขณะเข้าตรวจค้น โดยคนขับแท็กซี่เปิดเผยด้วยว่า ทั้ง 3 ไม่ยอมให้ตนช่วยในการยกกระเป๋าใส่รถ

เหยื่อรายแรกที่ทราบชื่อคือ อเดลมา ทาเปีย รูอิซ หญิงชาวเปรูวัย 37 ซึ่งเสียชีวิตที่สนามบิน โดยรายงานข่าวระบุว่าเธอเดินทางมาเพื่อขึ้นเครื่องบินกับสามีชาวเบลเยียม คริสตอฟ เดลกองบ์ และลูกสาวฝาแฝดวัย 4 ปี โมรีนและอลงดรา ที่ทั้ง 3 รอดชีวิต

ขณะที่ลูกเรือของสายการบินเจ็ตแอร์เวย์สที่ได้รับบาดเจ็บ และถูกถ่ายภาพไว้หลังเกิดเหตุในสภาพชุดเครื่องแบบสีเหลืองฉีกขาดและเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดคือ นิธี ชาเพการ์ ชาวอินเดีย

นายชาร์ลส์ มิเชล นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ประกาศให้ไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน มีการจัดพิธีจุดเทียนรำลึกขึ้นในหลายเมืองทั่วโลกรวมถึงที่ปลาสเดอลาบูร์ส อาคารที่ทำการตลาดหลักทรัพย์เบลเยียมด้วย
ด้านสนามบินซาเวนเต็มประกาศว่า สนามบินยังคงปิดทำการและจะยังไม่มีเที่ยวบินไหนเดินทางออกจากสนามบินในวันที่ 23 มีนาคม และขอให้ผู้โดยสารติดต่อกับทางสายการบินเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่บริการรถไฟใต้ดินจะมีเพียงบางส่วน ทว่าโรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติ
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกประกาศเตือนชาวอเมริกันในยุโรปให้ใช้ความระมัดระวังในสถานที่สาธารณะหรือเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ด้านทางการเบลเยียมขอให้อียูเรียกประชุมฉุกเฉินในเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าการประชุมจะมีขึ้นในเช้าวันที่ 24 มีนาคม