เมื่อวันที่ 17 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การค้า “กิมจิ” ของเกาหลีใต้ ผักดองที่เป็นอาหารขึ้นชื่อจากภูมิปัญญาของชาวเกาหลีและมักถูกเสิร์ฟแกล้มอาหารในทุกมื้อ ได้ประสบภาวะขาดดุลการค้าอย่างหนักมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากถูกกิมจินำเข้าจากจีนที่มีราคาถูกกว่าเข้ามาเจาะตลาดในประเทศในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
จากการเปิดเผยของสำนักงานศุลกากรเกาหลี(เคซีเอส)ระบุว่า ในปีที่แล้วเกาหลีใต้ได้นำกิมจิจากต่างประเทศเข้ามาทั้งสิ้นจำนวนกว่า 275,000 ตัน ในจำนวนนี้มากถึง 99 เปอร์เซ็นต์ เป็นกิมจิที่นำเข้ามาจากจีน ขณะที่เกาหลีใต้มีการส่งออกกิมจิไปเพียง 24,000 ตัน
ขณะที่การขาดดุลการค้ากิมจิของเกาหลีใต้ในปีที่แล้วมีมูลค่า 47.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,513 ล้านบาท ซึ่งขาดดุลเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 11 เปอร์เซ็นต์ และยังเป็นการขาดดุลการค้ากิมจิมากที่สุดเท่าที่เคซีเอสเริ่มเก็บข้อมูลด้านการค้ากิมจิมาในปี 2543
โคเรีย เอโกร-ฟิชเชอรีส์ แอนด์ ฟู้ด เทรด คอร์ป ชี้ว่า ราคาเป็นตัวแปรสำคัญทางด้านการค้าที่ทำให้เกิดการขาดดุล โดยขณะที่กิมจินำเข้าในปี 2559 มีราคาอยู่ที่เพียงแค่กิโลกรัมละ 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ แต่กิมจิส่งออกของเกาหลีใต้ที่ส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นหลักมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 3.36 ดอลลาร์
ด้านสถาบันกิมจิโลกของเกาหลีใต้ระบุว่า 89.9 เปอร์เซ็นต์ของกิมจิที่ภัตตาคารร้านอาหารในเกาหลีใต้ซื้อไปในปี 2559 นั้นเป็นกิมจิที่นำเข้ามาจากประเทศจีน
ข่าวแจ้งว่า เกาหลีใต้เริ่มขาดดุลการค้ากิมจิมาตั้งแต่ปี 2549 ที่ก่อให้เกิดถกเถียงและเป็นประเด็นข่าวใหญ่ในประเทศนับจากนั้น ขณะที่ในปี 2556 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) ได้พิจารณาให้กิมจิขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยระบุว่ากิมจิเป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารเกาหลี ที่มีรสชาติและลักษณะที่เป็นแบบฉบับไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้แนบแน่นด้วย
