สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกา ล้มเหลวที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการปิดทำการสำนักงานของรัฐบาลกลางบางส่วน หรือกัฟเวิร์นเมนต์ชัตดาวน์ ก่อนหน้าวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ในวันจันทร์ที่ 22 มกราคม หลังจากมีการเลื่อนการลงมติที่ตึงเครียดในวุฒิสภาท่ามกลางการเจรจากันแบบมาราธอน
แม้ว่าแกนนำพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และฝ่ายค้านพรรคเดโมแครตระบุว่า มีความคืบหน้าในการเจรจาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่พวกเขาได้เลื่อนเวลาในการลงมติออกไปอีก 11 ชั่วโมง จากกำหนดเดิม 01.00 น. ของวันที่ 22 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น มาเป็น 12.00 น.วันเดียวกัน (ตรงกับ 00.00 น.ย่างเข้าวันที่ 23 น. ตามเวลาไทย) ทำให้การชัตดาวน์ยืดเวลาออกมาเป็นวันที่ 3 แล้ว
การชัตดาวน์ครั้งนี้ที่นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2556 ได้ทอดเงาปกคลุมการเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปี การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายทรัมป์เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา
นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา พรรครีพับลิกันเสนอทางออกให้แกนนำพรรคเดโมแครตเมื่อคืนวันที่ 21 มกราคม โดยให้สัญญาว่า จะนำร่างกฎหมายผู้อพยพมาอภิปรายในเดือนกุมภาพันธ์หากประเด็นดังกล่าวยังไม่สามารถหาทางออกได้เมื่อถึงเวลานั้น
ทั้งนี้ แกนกลางสำคัญในข้อเรียกร้องของพรรคเดโมแครตคือ การขยายเวลามาตรการผ่อนผันเพื่อผู้อพยพปฐมวัย หรือดากา ซึ่งปกป้องคุ้มครองผู้อพยพที่เข้าสหรัฐผิดกฎหมายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก หรือที่เรียกคนกลุ่มนี้กันว่า “นักล่าฝัน” โดยมีคนกลุ่มนี้อยู่ที่ราว 700,000 คน และจำนวนมากเป็นวัยรุ่นที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตอยู่ในสหรัฐ
