สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม บรรดาผู้นำประเทศและผู้บริหารระดับสูงทางธุรกิจระดับยักษ์ใหญ่ของโลก ที่ร่วมอยู่ในการประชุมเวิร์ลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญด้านเศรษฐกิจประจำปีของโลก แสดงความชื่นชมต่อนาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีและนายเอ็มมานูแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยการแสดงความยินดีที่ผู้นำยุโรปทั้งสองก้าวขึ้นมาแบกรับการเป็นผู้นำโลกใหม่หลังเกิดปรากฏการณ์เบร็กซิทและการประกาศนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ที่ประชุมยินดีที่นางแมร์เคิลและนายมาครงมีโลกทัศน์ไปในทิศทางเดียวกันจนสื่อขนานนามว่า “แมร์ครง” และยกย่องให้เป็นผู้มีอิทธิพลต่อโลกคู่ใหม่ ทั้งนี้นายอเล็กซานเดอร์ สตุบบ์ รองประธานธนาคารวาณิชธนกิจแห่งยุโรป ซึ่งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ ระบุว่า รู้สึกยินดีที่มีคนเข้ามาแบกรับภาระการเป็นผู้นำในระดับนานาชาติใหม่ที่จำเป็นต้องมี ในขณะที่นาง ดาเลีย ไกรโบสไคเต ประธานาธิบดีลิธัวเนีย ระบุว่าการแสดงออกของผู้นำทั้งสองทำให้บรรดาชาติในยุโรปและอื่นๆมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และการเมืองโลกจะมีเสถียรภาพต่อไป ส่วนนิวยอร์กไทมส์ ชื่นชมนายมาครงเป็นพิเศษระบุว่า ได้แสดงตัวเป็นผู้นำโลกเสรีคนใหม่ไปแล้ว
นายมาครงและนางแมร์เคิลยืนยันให้การสนับสนุนการค้าเสรีและการรักษากฏเกณฑ์ระหว่างประเทศ และแม้ยอมรับว่าที่ผ่านมาโลกภิวัฒน์ก่อให้เกิดวิกฤตเพราะอยู่ในรูปแบบที่ไม่ได้ผลอีกต่อไป แต่การปรับแก้ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่สอดประสานกันทั่วโลกต้องใช้วิธีการในเชิงพหุภาคีเท่านั้นจึงสามารถยับยั้งการระบาดของลัทธิประชานิยมและการกีดกันทางการค้าได้
นาย โรเบิร์ต แคแพลน นักวิชาการจากศูนย์ศึกษาความมั่นคงใหม่แห่งอเมริกาในวอชิงตัน เชื่อว่า ผู้นำยุโรปทั้งสองกลายเป็นจุดศูนย์รวมความสนใจแทนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งจะเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ปิดท้ายการประชุมในวันที่ 26 มกราคมนี้ไปแล้ว
