เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนถูกเสริมเขี้ยวเล็บในการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง โดยการสวมแว่นกันแดดที่ติดอุปกรณ์จดจำใบหน้าที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่างๆ เช่นที่สถานีรถไฟในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของประเทศจีน ที่มีนายตำรวจหญิงสวมแว่นกันแดดไฮเทคชนิดนี้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังในช่วงเวลานี้ที่ประชาชนชาวจีนจำนวนมากต่างพากันมุ่งหน้าเดินทางกลับบ้านเพื่อไปฉลองเทศกาลตรุษจีนหรือวันปีใหม่ของจีน
พีเพิลส์เดลีอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเจิ้งโจวกล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่นี้ได้ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายได้แล้ว 7 คนที่ก่อคดีต่างๆรวมถึงคดีค้ามนุษย์และชนแล้วหนี นอกจากนี้ยังทำให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยอีก 26 คนที่ใช้บัตรประชาชนปลอม
อุปกรณ์ไฮเทคนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของทางการจีนที่จะนำระบบตรวจจับแบบดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่สามารถใช้ข้อมูลทางชีวภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่ ภาพถ่าย การสแกนม่านตา ไปจนถึงลายนิ้วมือ เพื่อตรวจตราสอดส่องความเคลื่อนไหวของประชาชนที่อาจนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้าย
โดยแว่นกันแดดชนิดนี้จะติดกล้องที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์คล้ายสมาร์ทโฟนที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถถ่ายรูปใบหน้าของผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายได้เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลในดาต้าเบสที่มีอยู่ของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ยังมีการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อตรวจสอบข้อมูลสำคัญของผู้ต้องสงสัย เช่น ชื่อนามสกุล เชื้อชาติ เพศและที่อยู่ รวมถึงตรวจจับสถานที่อยู่และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับใช้อินเตอร์เน็ตของผู้ต้องสงสัยรายนั้นๆด้วย
อย่างไรก็ดีการนำเทคโนโลยีชั้นสูงอย่างแว่นกันแดดจดจำใบหน้าชนิดนี้มาใช้ ยังถูกวิจารณ์ต่อต้านอย่างหนักจากกลุ่มองค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มที่มองว่าอาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
