สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า รายงานขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ระบุว่า ยังมีทารกในแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลางจำนวนมากที่ต้องตายลงหลังลืมตาดูโลกไม่นานทุกๆ ปี ในอัตราเฉลี่ยสูงถึง 2.6 ล้านคนต่อปี โดยถือว่าเป็น “โศกนาฏกรรมที่ซ่อนเร้น” สำหรับแม่และเด็ก
รายงานของยูนิเซฟระบุว่า 10 ประเทศที่อันตรายที่สุดในโลกสำหรับเด็กเกิดใหม่ อยู่ในเขตซับ-ซาฮาราแอฟริกาถึง 8 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, โซมาเลีย, เลโซโท, กินี-บิสเซา, ซูดานใต้, ไอวอรีโคสต์, มาลี และชาด โดยมีทารกที่ต้องเสียชีวิตหลังลืมตาดูโลกไม่ถึงเดือนมากถึง 50 เท่าหากเทียบกับประเทศญี่ปุ่นหรือไอซ์แลนด์ ซึ่งมีอัตราการตายของเด็กเกิดใหม่น้อยที่สุดในโลก 2 อันดับแรก และสตรีมีครรภ์ทุกๆ 1 ใน 16 คนในภูมิภาคนี้มีปัญหาทารกตายในครรภ์ หรือคลอดออกมาแล้วเสียชีวิตหลังคลอดไม่ถึง 1 เดือน ส่วนใหญ่เกิดจากการคลอดก่อนกำหนด, เกิดภาวะแทรกซ้อน หรือเกิดการติดเชื้อซึ่งล้วนเป็นการตายที่สามารถป้องกันได้ทั้งสิ้น
ลอรองต์ ฮิฟเฟลอร์ จากกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน กล่าวกับรอยเตอร์ว่า หลายปีที่ผ่านมากลุ่มบรรเทาทุกข์ได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กที่อายุไม่เกิน 5 ปีในภูมิภาคนี้ ซึ่งพบว่าลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อัตราการเสียชีวิตของทารกในช่วงเดือนแรกหลังคลอดก็ยังคงอยู่ในระดับสูง
“อัตราการตายของเด็กแรกเกิดแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของระบบ ซึ่งยากที่จะเข้าไปจัดการ เนื่องจากจะต้องมีการดูแลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงตอนคลอด แต่กลับถูกละเลยอย่างร้ายแรงจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมซ่อนเร้นเช่นในเวลานี้” ฮิฟเฟลอร์กล่าว
รายงานของยูนิเซฟระบุด้วยว่า มีผู้หญิงเพียง 1 ใน 2 คนในภูมิภาคนี้เท่านั้นที่คลอดลูกในสถานที่ถูกต้องตามสุขอนามัย อีกครึ่งคลอดในสถานที่ไม่เหมาะสม อาจจะเนื่องจากสถานพยาบาลมีอยู่น้อย และอยู่ห่างไกล ทำให้ไม่มีเงินที่จะเดินทางไปคลอดตามสถานพยาบาลดีๆ
ฮิฟเฟลอร์กล่าวว่า แม้แต่สตรีที่สามารถเข้าถึงสถานพยาบาลได้ก็ยังคงเจอปัญหา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลได้รับการฝึกฝนมาน้อย และอุปกรณ์การแพทย์ก็ขาดแคลน ซึ่งกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนได้พยายามจัดฝึกอบรม สอนเทคนิคในการคลอดลูกง่ายๆ ให้สามารถทำได้เองที่บ้าน อย่างเช่น การใช้น้ำสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทักษะในการกู้ชีพ และการให้นมแม่แก่ทารกโดยเร็วภายในชั่วโมงแรกหลังคลอดและให้มารดากับทารกสัมผัสซึ่งกันและกันโดยตรง เพื่อสร้างความอบอุ่นต่อทารกที่คลอดก่อนกำหนด เป็นต้น
ทั้งนี้ ประเทศที่มีอัตราการตายของทารกน้อยที่สุดในโลก คือ ญี่ปุ่น ต่อด้วยไอซ์แลนด์, สิงคโปร์, ฟินแลนด์, เอสโทเนีย และสโลวีเนีย, ไซปรัส และเบลารุส ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ และเกาหลีใต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีระบบการศึกษาที่ดีและมีระบบสาธารณสุขที่ดี
