สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากภายในทำเนียบขาว แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศเมื่อวันที่ 1 มีนาคมว่า จะกำหนดพิกัดอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าประเภทเหล็กและอลูมิเนียม เป็นท่าทีที่เป็นไปได้ว่าจะทำให้เกิดสงครามการค้ากับผู้ผลิตสินค้าประเภทนี้รายใหญ่อาทิ จีน
นายทรัมป์ยุติข่าวลือต่างๆ นานาเกี่ยวกับความตั้งใจของฝ่ายบริหารของเขาโดยระบุว่า สัปดาห์หน้า เขาจะลงนามในมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ผลิตของสหรัฐ
หลังการพบปะหารือกับผู้แทนของอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าดังกล่าวที่ทำเนียบขาว นายทรัมป์ประกาศว่าจะกำหนดพิกัดอัตราภาษีศุลกากรต่อเหล็ก 25 เปอร์เซ็นต์ และต่ออลูมิเนียม 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทั้ง 2 อย่างถือเป็นวัสดุที่เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการผลิต
“เรากำลังจะกำหนดพิกัดอัตราภาษีศุลกากรในสัปดาห์หน้า” นายทรัมป์กล่าวและว่า “สิ่งนี้จะบังคับใช้เป็นช่วงระยะเวลายาวนาน”
ในช่วงเวลาที่วอลสตรีทสั่นคลอนอยู่แล้ว ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นสหรัฐร่วงลงโดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ สูญเสียมูลค่าไปมากถึง 2.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงตามในช่วงเปิดการซื้อขายภาคเช้าเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ทั้งตลาดหุ้นโตเกียว ฮ่องกง ซิดนีย์ และโซล
การประกาศเรื่องดังกล่าวนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างเกรี้ยวกราดจากพันธมิตรสำคัญของสหรัฐ อาทิแคนาดา สหภาพยุโรป (อียู) และเม็กซิโก นอกจากนี้ ช่วงเวลาในการประกาศเรื่องนี้ยังถือว่าเป็นการยั่วยุต่อจีน โดยเกิดขึ้นในเวลาที่นายหลิว เหอ ทูตระดับสูงด้านการค้าของจีนอยู่ในกรุงวอชิงตันและมีกำหนดการหารือกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
รัฐบาลกรุงปักกิ่งเคยเตือนก่อนหน้านี้ว่า พร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้หากฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ประกาศใช้พิกัดอัตราภาษีศุลกากร ขณะที่นายณอง โคล้ด ยุงเคอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรปประกาศว่า อียู “จะมีมาตรการตอบโต้ที่แข็งกร้าว” เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน
นายฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ ชองปาญ รัฐมนตรีการค้าแคนาดาระบุว่าพิกัดอัตราภาษีศุลกากรเป็นเรื่องที่ “รับไม่ได้” ด้าน “กานาเซโร” สมาคมอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของเม็กซิโกเรียกร้องให้รัฐบาลเม็กซิโก “ตอบสนองอย่างเหมาะสมโดยทันที” นอกเสียจากว่า ผู้ผลิตของเม็กซิโกจะได้รับการยกเว้น
ด้านผู้ผลิตรถยนต์ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและอุตสาหกรรมอื่นๆ เรียกร้องไม่ให้ประธานาธิบดีทรัมป์กำหนดกำแพงภาษีใหม่ต่อการนำเข้าโลหะ โดยเตือนว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้ราคาสินค้าประเภทนี้เพิ่มขึ้นและเชื้อเชิญให้เกิดการแก้แค้นแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจโดยรวม
