เมื่อวันที่ 28 มีนาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พิพิธภัณฑ์ศิลปะเดนเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ได้ส่งคืนรูปสลักพระรามส่วนลำตัว ที่มีอายุย้อนไปในช่วงศตวรรษ 10 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 แห่งอาณาจักรพระนคร ซึ่งถูกปล้นไปจากกัมพูชาในช่วงสงครามกลางเมือง คืนให้แก่รัฐบาลกัมพูชาแล้วในวันเดียวกันนี้
ยิม นอลซอน เจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา กล่าวในพิธีรับมอบรูปสลักพระราม สมบัติล้ำค่าของชาติกลับคืนมาว่า เรารู้สึกยินดีที่รูปสลักพระรามในส่วนลำตัวได้กลับคืนสู่แผ่นดิน ทว่ายังคงมีส่วนเศียรที่ยังคงสูญหายและไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด และว่า รัฐบาลกัมพูชาขอให้พิพิธภัณฑ์ทุกแห่งและนักสะสมทุกคนทั่วโลกปฏิบัติตามตัวอย่างอันดีนี้ในการนำเศียรรูปสลักพระรามคืนแก่กัมพูชา โดยการส่งคืนโบราณวัตถุล้ำค่าชิ้นนี้คืนแก่กัมพูชามีขึ้นหลังจากทางพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งดังกล่าวได้พิสูจน์ถึงแหล่งที่มาของโบราณวัตถุชิ้นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ามาจากกัมพูชา
ข่าวระบุว่า รูปสลักพระรามที่สลักขึ้นจากหินทรายในส่วนลำตัวนี้มีขนาด 62 นิ้ว ได้ถูกปล้นไปจากปราสาทเจน ในนครเกาะแกร์ เมืองหลวงเก่าแก่ในจังหวัดพระวิหาร ในช่วงทศวรรษ 1970 โดยรูปสลักพระรามชิ้นนี้อยู่ในความครอบครองของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเดนเวอร์มาตั้งแต่ปีค.ศ.1986 ส่วนเศียร กร และบาทยังคงสูญหาย
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินความพยายามติดตามทวงคืนสมบัติล้ำค่าของชาติหลายชิ้นที่ถูกปล้นไปในอดีตจากแหล่งโบราณคดีสำคัญอย่างเช่นที่ นครเกาะแกร์ของกัมพูชา โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าถูกลักลอบนำไปขายในต่างประเทศโดยผิดกฎหมายและไปตกอยู่ในความครอบครองของพิพิธภัณฑ์ชาติตะวันตกและเหล่านักสะสม ในกระบวนการติดตามนำสมบัติของชาติกลับคืนมาของทางการกัมพูชา บางชิ้นได้คืนมาผ่านกระบวนการเจรจาและอีกหลายชิ้นต้องมีการต่อสู้คดีกันทางกฎหมาย
