คาดนักบินสื่อสารหอบังคับการบินผิดพลาด ทำบินบังกลาเทศตก

AFP PHOTO / PRAKASH MATHEMA

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม เว็บไซต์บีบีซีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูเอส-บังกลา ของบังกลาเทศ ที่ประสบเหตุตกที่สนามบินนานาชาติตรีภูวัน ใกล้กับกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนเปาล เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 49 คน มีผู้รอดชีวิต 22 คน ขณะที่บนเครื่องบินที่มีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่รวมทั้งสิ้น 71 คน และเดินทางมาจากบังกลาเทศ ซึ่งนับเป็นอุบัติภัยทางอากาศที่ร้ายแรงที่สุดของเนปาลในรอบเกือบ 30 ปี

โดยผู้สื่อข่าวบีบีซีในเนปาลได้สัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตหลายราย อย่างนายชาริน อาเหม็ด ผู้รอดชีวิตชาวบังกลาเทศ เปิดเผยว่า มีไฟลุกไหม้ที่ด้านนอกและมีควันพวยพุ่งออกมา ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น ขณะที่นายบาซันทา โบโฮรา เปิดเผยว่า เครื่องบินเกิดการสั่นอย่างรุนแรง ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้น ด้านนายซานัม ชัคยา ที่สามารถหนีออกมาทางหน้าต่างได้ บอกกับเอเอฟพีว่า เครื่องบินบินขึ้นๆลงๆ และแกว่งไปมา จึงนึกว่าเป็นเรื่องของปัญหาการจราจรทางอากาศ

ทั้งนี้ ผู้รอดชีวิต 22 คน เป็นชาวเนเปาล 11 คน และชาวบังกลาเทศ 11 คน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นมีรายงานว่า นักบินกับหอบังคับการบินมีการสื่อสารที่ผิดพลาดเกิดขึ้น ก่อนที่เครื่องบินจะประสบเหตุตก

โดยเอเอฟพีรายงานว่า จากบันทึกเสียงสนทนาระหว่างหอควบคุมการบินกับนักบินพบว่า มีความสับสนเกิดขึ้นระหว่างจะนำเครื่องลงจอดบนรันเวย์ ซึ่งเป็นรันเวย์เดียว โดยหอควบคุมแจ้งว่า เครื่องบินกำลังมุ่งหน้าไปยังรันเวย์ 20 ซึ่งหมายถึงตอนเหนือสุดของลานบิน แต่มีความสับสนเกิดขึ้นหลังจากนั้นก่อนที่เครื่องบินจะตก โดยนักบินเตรียมที่จะลงจอดบนรันเวย์ แจ้งว่าจะลงจอดที่รันเวย์ 20 หลังจากนั้น แจ้งใหม่ว่า “รันเวย์02” ซึ่งหมายถึงตอนใต้สุดของลานบิน

Advertisement

บีบีซีรายงานว่า เหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ถือเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดของเนปาลในรอบหลายปี และสนามบินนานาชาติตรีภูวัน เคยเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ตกมาแล้วกว่า 70 ครั้ง นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีเครื่องบินลงจอดที่สนามบินแห่งนี้ ส่วนใหญ่อุบัติเหตุเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย นักบินขาดประสบการณ์ และการบำรุงรักษาไม่ดีพอ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image