สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตั้งแต่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ไปถึงนครลอสแองเจลิส นักศึกษาในสหรัฐอเมริกาวอล์กเอาต์ออกจากห้องเรียนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ในการประท้วงต่อต้านความรุนแรงที่เกิดจากอาวุธปืนครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยเรียกร้องให้มีมาตรการในการแก้ปัญหา 1 เดือน หลังเกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดาที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย
วัยรุ่นหลายร้อยคนจากโรงเรียนในพื้นที่กรุงวอชิงตัน รวมตัวอยู่หน้าทำเนียบขาวถือป้ายที่มีข้อความว่า “เอาหนังสือไม่เอากระสุนปืน” และ “ปกป้องประชาชนไม่ใช่ปืน” ก่อนที่จะเดินขบวนไปยังแคปิตอลฮิลล์หรืออาคารรัฐสภาสหรัฐ
น.ส.เบรนนา เลวิตัน นักศึกษาวัย 17 ปี บอกว่า “พาร์กแลนด์จะเป็นการกราดยิงครั้งสุดท้ายในโรงเรียน”
ข่าวระบุว่านักศึกษาในอีกหลายร้อยโรงเรียนในเมืองอื่นๆ ทั้ง 50 รัฐในสหรัฐ จัดการเดินขบวนประท้วงลักษณะคล้ายกันนี้ รวมถึงมีการยืนสงบนิ่งเพื่อรำลึกถึงนักศึกษา 14 ราย และเจ้าหน้าที่ 3 รายที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาที่โรงเรียนมาจอรีสโตนแมนดักลาสไฮสคูล ในเมืองพาร์กแลนด์ รัฐฟลอริดา
ในกรุงวอชิงตัน ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดการประท้วงขึ้น สภาผู้แทนสหรัฐลงมติ 407-10 เสียง เพื่อให้ทุนสนับสนุนมาตรการป้องกันความรุนแรงในโรงเรียน รวมถึงการยกระดับการรักษาความปลอดภัย การคัดกรองด้านสุขภาพจิตและจัดตั้งระบบการแจ้งเหตุแบบปกปิดตัวผู้รายงานเพื่อให้นักศึกษาสามารถระบุเตือนภัยคุกคามได้
