เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาจะลดขนาดและระยะเวลาในการซ้อมรบประจำปีร่วมกันให้สั้นลง หลังจากบรรยากาศความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือในห้วงเวลานี้มีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น โดยสำนักข่าวยอนฮัปอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวทางทหารระบุว่า การซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ประจำปีของเกาหลีใต้และสหรัฐ ในชื่อรหัส “คีย์รีโซล์ฟแอนด์โฟลอีเกิล” ซึ่งมีขึ้นเป็นประจำในทุกฤดูใบผลิของปีและมีกำลังทหารเข้าร่วมฝึกซ้อมจำนวนหลายหมื่นนาย แต่ในปีนี้การซ้อมรบดังกล่าวที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเมษายนนี้จะมีการลดขนาดลงและจากที่ปกติใช้เวลาราว 2 เดือน จะลดลงเหลือ 1 เดือน โดยยังจะไม่มีอาวุธยุทธภัณฑ์สำคัญของสหรัฐ เช่น เครื่องบินทิ้งระเบิดบี-1บี และกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีที่มักถูกส่งมาประจำการในคาบสมุทรเกาหลีในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดสูง เข้าร่วมในการซ้อมรบครั้งนี้แต่อย่างใด
ยอนฮัปยังอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้บอกกับผู้แทนรัฐบาลเกาหลีใต้ที่เยือนกรุงเปียงยางเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาจะเข้าใจ หากมีการเดินหน้าการซ้อมรบขึ้น
ทั้งนี้การซ้อมรบร่วมประจำปีของกองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้มักจุดความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจให้แก่เกาหลีเหนือมาโดยตลอด ที่รัฐบาลเปียงยางประณามว่าเป็นการเตรียมการรุกรานเกาหลีเหนือและขู่จะตอบโต้ต่อการกระทำยั่วยุดังกล่าวของอีกฝ่าย
ทว่าหลังจากปีใหม่ที่ผ่านมาที่เกาหลีเหนือยอมส่งคณะผู้แทนระดับสูงมาเจรจากับผู้แทนของเกาหลีใต้ และนำไปสู่การที่เกาหลีเหนือส่งคณะผู้แทนและนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พยองชางเกมส์ ที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้บรรยกาศความสัมพันธ์ปรับดีขึ้น ตามมาด้วยการประกาศจะจัดประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือและใต้ขึ้นในเดือนเมษายน และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยังมีกำหนดจะพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่คาดว่าจะมีขึ้นในปลายเดือนพฤษภาคมที่จะถึงด้วย
