เมื่อวันที่ 27 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เงินบาทต่อดอลลาร์เช้านี้ทรงตัวจากเมื่อวานนี้ แต่ยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงสั้นๆ จากแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่กลับเข้ามา
ดีลเลอร์ คาดว่า เงินบาทวันนี้จะมีแนวต้านที่ 31.10 และแนวรับที่ 31.20 เยนร่วงลงในช่วงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่า สหรัฐกับจีนจะเริ่มการเจรจาทางการค้ากัน และความคาดหวังนี้ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้า และเพิ่มความต้องการเสี่ยงของนักลงทุน
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 89.101 ช่วงเช้าวันนี้ ขยับขึ้นจาก 89.027 ช่วงท้ายวานนี้
ดอลลาร์อยู่ที่ 105.63 เยนในช่วงเช้าวันนี้ แข็งค่าขึ้นจาก 105.40 เยนในช่วงท้ายวานนี้ ขณะที่ยูโรอยู่ที่ 1.2446 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ ใกล้เคียงกับ 1.2442 ดอลลาร์ในช่วงท้ายเมื่อวาน
ตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบในสัปดาห์ที่แล้ว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเกิดสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน กล่าวเมื่อวันที่ 26 มีนาคมว่า จีนและสหรัฐยังคงเจรจากัน และเขาย้ำว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจของสหรัฐในการเข้าถึงตลาดจีน
นักลงทุนลดความกังวลเรื่องสงครามการค้า และปัจจัยนี้กระตุ้นให้นักลงทุนต้องการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม
ยูโรได้แรงหนุนจากความเห็นของนายเยนส์ ไวด์มันน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) ซึ่งมีแนวโน้มจะได้เป็นประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คนต่อไป
นายไวด์มันน์กล่าวว่า การคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีหน้านั้น ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง
เมื่อวาน (26 มี.ค.) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2.19 พันล้านบาท ขณะที่ซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยทุกช่วงอายุ 190.24 ล้านบาท แต่ถ้านับเฉพาะตราสารหนี้อายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป ขายสุทธิ 2.58 พันล้านบาท
“ตลาดยังค่อนข้างจะผันผวนตามข่าวข้างนอก วันนี้กลับมาเป็นพร้อมที่จะรับความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นหลังตลาดกังวลเรื่องสงครามการค้าลดลง ตลาดหุ้นก็ปรับขึ้นกันหมด วันนี้ถ้าให้มอง ก็น่าจะเป็นไปในทางแข็งค่า” ดีลเลอร์รายหนึ่งกล่าว
