เมื่อวันที่ 1 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เรืออพยพของชาวโรฮีนจา ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในพม่า ต้องแวะจอดเทียบชายหาดเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในตอนเช้าวันเดียวกันนี้ เพื่อหลบพายุคลื่นลมแรง ก่อนที่จะเดินทางกลับออกไปมุ่งหน้าไปยังประเทศมาเลเซียตามที่ต้องการต่อไป โดยมีภาพเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ชาวโรฮีนจาเหล่านั้นบริเวณหาดก่อนปล่อยกลับลงเรือไป
ม.ล. กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ยืนยันว่า คนทั้งหมดบนเรือลำดังกล่าวเป็นชาวโรฮีนจา แต่ไม่รู้ว่าเริ่มต้นออกเดินทางมาจากที่ใด ตามรายงานเบื้องต้นที่ได้รับ เรือลำดังกล่าวแวะเทียบท่าใกล้เกาะลันตา เพื่อหลบพายุ โดยระบุว่าต้องการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย โดยย้ำว่า คนบนเรือซึ่งมีทั้งหมด 56 คนมีทั้งผู้หญิง ผู้ชายและเด็ก กลับขึ้นเรืออีกครั้งและออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง
ทั้งนี้นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วชาวโรฮีนจาหลบหนีการปราบปรามของทางการพม่าในรัฐยะไข่ ข้ามแดนไปใช้ชีวิตอยู่ในค่ายลี้ภัยชั่วคราวในชายแดนบังกลาเทศเกือบ 700,000 คน จนทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลกันว่า สภาพแออัดของค่ายจะทำให้ชาวโรฮีนจาหลบหนีออกมาทางเรือเพื่อมุ่งหน้าไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซียอีกครั้ง โดยเอเอฟพีระบุว่า เมื่อปี 2558 เคยเกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยทำนองนี้มาแล้ โดยผู้อพยพทางเรือส่วนใหญ่ไปลงเอยอยู่ในมาเลเซียและอินโดนีเซีย เนื่องจากไทยยืนยันนโยบายไม่รับผู้ลี้ภัยทางเรือเหล่านี้ และจนถึงขณะนี้ยังมีโรฮีนจาอีกเกือบ 70,000 คนรอลี้ภัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย
