สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน จีนบังคับใช้พิกัดอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้า 128 ชนิดของสหรัฐอเมริกามูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงผลไม้กับเนื้อหมู เป็นการตอบโต้ต่อการกำหนดกำแพงภาษีต่อเหล็กและอะลูมิเนียมที่จีนระบุว่า ล่วงละเมิดต่อผลประโยชน์ของจีนอย่างร้ายแรง
การเคลื่อนไหวของจีนที่สำนักข่าวซินหัวของทางการระบุว่าเป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการด้านภาษีศุลกากรของสภาแห่งรัฐ มีขึ้นตามมาหลังจากช่วงเวลาหลายสัปดาห์ของวาทกรรมที่สร้างความกลัวว่าจะเกิดสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก
ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ระบุว่ากำแพงภาษีของตนพุ่งเป้าไปที่การนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงภายในของสหรัฐ ทว่ากระทรวงพาณิชย์จีนระบุวันเดียวกันนี้ว่า เหตุผลดังกล่าวเป็นการ ล่วงละเมิด ต่อแนวปฏิบัติขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)
แถลงการณ์บนเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่ามาตรการของสหรัฐ พุ่งเป้าไปที่ไม่กี่ประเทศเท่านั้น เป็นการฝ่าฝืนหลักการเรื่องการไม่เลือกปฏิบัติที่เป็นเสาหลักของระบบการค้าพหุภาคีซึ่งล่วงละเมิดต่อผลประโยชน์ของจีน
นายทรัมป์ได้กล่าวโจมตีจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องการได้ดุลการค้ามหาศาลจากสหรัฐ และให้สัญญาระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีว่า จะมีมาตรการเพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐที่มีต่อจีน
รัฐบาลจีนได้เตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่า จะพิจารณากำหนดกำแพงภาษี 15 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ต่อผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่รวมถึงไวน์ ถั่ว และชิ้นส่วนซากอะลูมิเนียม ซึ่งสำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างแถลงการณ์ของรัฐบาลจีนว่ามีผลบังคับใช้แล้วในวันดังกล่าวนี้
ทว่าจนถึงขณะนี้รัฐบาลจีนยังคงยับยั้งการเก็บภาษีสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐ อาทิ ถั่วเหลือง หรือเครื่องบินโบอิ้ง ซึ่งหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สแนะนำว่าเป็นสิ่งที่จีนควรพุ่งเป้าเล่นงาน
โกลบอลไทม์ส หนังสือพิมพ์ชาตินิยมระบุในบทบรรณาธิการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จีน ใกล้ที่จะจัดทำรายการกำแพงภาษีต่อสินค้าสหรัฐที่เป็นการตอบโต้เสร็จสิ้นแล้ว และจะตีพิมพ์เผยแพร่ในเร็วๆ นี้
วันเดียวกันนี้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลของนายทรัมป์จะเปิดเผยรายการสินค้านำเข้าของจีนที่สหรัฐกำหนดกำแพงภาษีพุ่งเป้าเล่นงาน เป็นการลงโทษจีนในเรื่องนโยบายการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งเป็นย่างก้าวที่จะทำให้ความตึงเครียดด้านสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติพุ่งสูงขึ้นอีก โดยรายการสินค้าที่จะมีมูลค่าในการนำเข้าระหว่าง 50,000-60,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี คาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ไฮเทค และจะประกาศออกมา 2 เดือนก่อนหน้าการบังคับใช้จริง อันเป็นท่าทีที่นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐระบุว่าเป็นมาตรการใหม่ต่อเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ที่เป็นการโหมโรงไปสู่การเจรจา
ทั้งนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐจะต้องเปิดเผยบัญชีสินค้าดังกล่าวภายในวันที่ 6 เมษายนนี้ ภายใต้ประกาศเรื่องการกำหนดพิกัดอัตราภาษีศุลกากรที่นายทรัมป์ลงนามไปเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา
