ผู้เขียน | เสกขภูมิ วรรณปก [email protected] |
---|
อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มีนาคมว่า สหรัฐอยู่บนเส้นทางที่ดีที่จะทำได้ตามเป้าของความตกลงปารีสว่าด้วยสภาพอากาศ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนที่จะถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวก็ตาม
กูแตร์เรสระบุว่าแผนลดการปล่อยมลพิษที่ ธุรกิจอเมริกัน รัฐบาลท้องถิ่นและเมืองต่าง ๆ เริ่มต้นนำไปปฏิบัติหมายถึงว่าเป้าหมายของรัฐบาลในอดีตของสหรัฐ ที่ตั้งไว้ในการลงนามในข้อตกลงเมื่อปี 2016 อยู่ในข่ายที่จะประสบความสำเร็จ
กูแตร์เรสเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์ก สหรัฐว่า “เราได้เห็นในหลายๆ เมือง และในหลายๆ รัฐ ถึงพันธสัญญาที่เข้มแข็งมากที่มีต่อข้อตกลงปารีส ในระดับที่สัญญาณบ่งชี้บางอย่างนั้นเคลื่อนที่ไปได้เป็นอย่างดีมากกว่าที่เห็นในอดีตที่ผ่านมา”
“มีความคาดหวังว่าฝ่ายบริหารที่มีจุดยืนอย่างอิสระ อาจทำให้สหรัฐ สามารถบรรลุพันธสัญญาที่ให้ไว้กับในความตกลงปารีสได้สำเร็จในฐานะประเทศ
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้สัญญาว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศลงให้ได้ 26 ถึง 28เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าระดับของปี 2005 ให้ได้ภายในปี 2025
เกือบ 200 ประเทศและเขตแดนทั่วโลกได้ลงนามในข้อตกลงประวัติศาสตร์หลังจากการเจรจาต่อรองอย่างเข้มข้นในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ที่ทุกชาติให้สัญญาถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยสมัครใจไปจนถึงปี 2030
ข้อตกลงดังกล่าวพุ่งเป้าว่าจะจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิของโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส แต่กูแตร์เรส เตือนว่าจำเป็นต้องมีการปฏิบัติมากกว่านี้ในปี 2020 เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ทรัมป์ต้องเผชิญกับเสียงประณามเมื่อเขาประกาศในเดือนมิถุนายน 2017 ว่าสหรัฐจะถอนตัวโดยระบุว่าความตกลงดังกล่าวเป็น “ข้อตกลงที่เลวร้าย”สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ
ภายใต้ข้อตกลงสหรัฐสามารถยื่นแจ้งความจำนงค์อย่างเป็นทางการถึงแผนที่จะถอนตัวในปี 2019 สามปีหลังจากความตกลงมีผลบังคับใช้และการถอนตัวจะมีผลในปี 2020
กูแตร์เรสอธิบายว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็น “ภัยคุกคามต่อมนุษยชาติที่เป็นระบบมากที่สุด” พร้อมระบุด้วยว่า สภาพอากาศสุดโต่งที่ได้เห็นในปี 2017เต็มไปด้วย ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย
“ปี 2018 ก็จะเป็นเช่นเดิม” เขากล่าว และว่าความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ และเสถียรภาพทั้งหมดอยู่ในสถานะใกล้ที่จะล่มสลาย