‘สุรเกียรติ์’ถก’ซูจี’ดันสานเสวนา-โมเดลแอฟริกาใต้แก้ยะไข่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี  ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาการนำข้อเสนอของนายโคฟี่ อานัน เรื่องรัฐยะไข่ไปปฏิบัติได้จัดประชุมคณะที่ปรึกษา ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-1 เมษายน

คณะที่ปรึกษาได้พบกับเอกอัครราชทูตอาเซียนประจำเมียนม่า ผู้แทนกลุ่มศาสนาทุกศาสนาในเมียนมา และคณะผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆของสหประชาชาติที่ทำงานในพื้นที่รัฐยะไข่ เพื่อรับฟังข้อมูลความเห็นต่างๆ ประกอบการให้คำปรึกษากับรัฐบาลเมียนมา

ศ.สุรเกียรติ์ได้กล่าวว่า ในวันนี้ (วันที่ 2 เมษายน) คณะที่ปรึกษาได้ร่วมประชุมกับนายวิน เมียด อาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคม ในฐานะผู้รับผิดชอบในการนำข้อเสนอของนายโคฟี่ อันนัน ไปปฏิบัติและนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาที่กรุงเนปิดอว์

คณะที่ปรึกษาได้เสนอต่อนางออง ซาน ซูจี ให้มีการจัดกระบวนการสานเสวนาระหว่างชุมชนต่างๆ ที่มีความขัดแย้งกันในรัฐยะไข่ โดยอาจเรียนรู้จากประสบการณ์ของประเทศแอฟริกาใต้ รวมทั้งคัดเลือกผู้นำชุมชนไปสานเสวนาเรียนรู้ประสบการณ์การอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ และห่างไกลจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพื่อป้องกันไม่ให้โครงการพัฒนาต่างๆ ที่ทุกฝ่ายจะเข้าไปช่วยเหลือประสบปัญหาหากมีการปะทะกันอีก 

Advertisement

นอกจากนั้น คณะที่ปรึกษาได้เสนอให้รัฐบาลเมียนมาพิจารณาจัดโครงการนำร่องด้านการพัฒนาในหมู่บ้านต่างๆ ในรัฐยะไข่ เช่น การสร้างงาน สร้างอาชีพ อนามัย คลินิกเคลื่อนที่ การศึกษา การอาชีวะเพื่อให้ทุกคนในหมู่บ้านเข้าถึงบริการได้ โดยหน่วยงานของไทยยินดีจะช่วยในด้านต่างๆ ข้างต้นร่วมกับอาเซียน โดยเฉพาะโครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์”

ศ.สุรเกียรติ์ได้กล่าวว่า คณะที่ปรึกษาได้แสดงความห่วงใยต่อฤดูมรสุมที่จะมาถึงที่เมืองคอกซ์บาซาร์ ในประเทศบังคลาเทศ ที่มีผู้พลัดถิ่นอยู่จำนวนครึ่งล้านคนและอาจประสบอุทกภัยเป็นวิกฤตใหม่ขึ้นมา จึงขอให้เมียนม่าเร่งชี้แจงถึงความพร้อมในฝั่งเมียนม่าที่จะรับผู้พลัดถิ่นกลับมา รวมทั้งหาทางเร่งรัดความร่วมมือกับบังกลาเทศในการสนับสนุนให้ผู้พลัดถิ่นกลับมายังชุมชนของตนในรัฐยะไข่ด้วย

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 3 เมษายน คณะที่ปรึกษาจะพบหารือกับนายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ในฐานะที่สิงคโปร์เป็นประธานอาเซียนในปีนี้ เพื่อหารือถึงความช่วยเหลือจากอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ในเรื่องการพัฒนารัฐยะไข่ในด้านต่างๆ และหารือถึงแนวทางในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ว่าความขัดแย้งไม่ได้มาจากประเด็นด้านศาสนา แต่เป็นกลุ่มคนที่มีความคิดสุดโต่งบางกลุ่มและโยงใยกับการเมืองที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันในชุมชนต่างๆ ในรัฐยะไข่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image