แอมเนสตี้เผยเวียดนามปราบปรามผู้เห็นต่าง คุมขังนักโทษทางความคิดเกือบ 100 คน

แถลงการณ์ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 เผย เวียดนามจับกุมคุมขังนักโทษทางความคิดเกือบ 100 คน ในบริบทที่มีการปราบปรามผู้เห็นต่างรุนแรงขึ้น โดยนักโทษทางความคิดอย่างน้อย 97 คนถูกคุมขังในเวียดนาม หลายคนถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก ถูกควบคุมตัวในสภาพที่เลวร้าย และมักถูกทรมานหรือปฏิบัติอย่างโหดร้าย

แอมเนสตี้ ได้ตีพิมพ์เผยแพร่รายชื่อดังกล่าวก่อนวันที่นักกิจกรรมหกคน ต้องเข้ารับการไต่สวนที่ไม่เป็นธรรมในข้อหา “พยายามโค่นล้มรัฐบาลของประชาชน” ซึ่งถูกกุขึ้นมา โดยห้าคนเป็นสมาชิกจากกลุ่มภราดรภาพเพื่อประชาธิปไตย ทั้งหมดเสี่ยงจะได้รับโทษจำคุกเป็นเวลานาน

“เวียดนามเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นิยมคุมขังนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวอย่างสงบ ถือเป็นสิ่งที่น่าอับอาย และไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง จากข้อมูลที่เรามีอยู่ นักโทษด้านความคิด 97 คน ล้วนเป็นผู้หญิงและผู้ชายผู้กล้าหาญ ซึ่งถูกพรากเสรีภาพของตนเองไป เพียงเพราะทำงานส่งเสริมสิทธิมนุษยชน” เจมส์ โกเมซ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าว

“ที่เลวร้ายกว่านั้นดูเหมือนว่าตัวเลขนี้น่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง แต่เราไม่สามารถรู้ตัวเลขที่แท้จริงได้ เนื่องจากทางการเวียดนามเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นความลับ”

Advertisement

รายชื่อนักโทษทางความคิด 97 คนประกอบด้วย นักกฎหมาย บล็อกเกอร์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และผู้รณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ทั้งหมดล้วนแต่เคลื่อนไหวด้วยวิธีการอันสงบทั้งสิ้น หลายคนได้รับโทษจำคุกเป็นเวลานาน หลังการไต่สวนของศาลในเวียดนามที่ดูเหมือนละครตลก

ในปี 2560 ทางการเวียดนามเร่งปราบปรามผู้เห็นต่างจากรัฐบาล ทั้งที่เป็นฝ่ายค้านทางการเมืองจริงๆ หรือที่ทางการคิดเอาเอง และพยายามควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างเข้มงวด โดยมีการจับตาบล็อกเกอร์และผู้ใช้โซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด เหงียนง็อกกูยิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แม่น้ำ” (แม่ของลูกชื่อ “น้ำ” ซึ่งในภาษาเวียดนามแปลว่า “เห็ด”) ได้รับโทษจำคุก 10 ปีเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 จากข้อหา “ทำการโฆษณาชวนเชื่อ” สุขภาพของเธอเลวร้ายลงอย่างรวดเร็วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทางการปฏิเสธไม่ให้เธอได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเพียงพอเทียบกับการเจ็บป่วยของเธอ

นักโทษทางความคิดเผชิญสภาพชีวิตที่เลวร้ายในเรือนจำ โดยมักถูกขังเดี่ยว และไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อทนายความและครอบครัว เรือนจำเวียดนามมักเกิดเหตุซ้อมทรมาน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลสามารถเก็บข้อมูลนักโทษที่ถูกทุบตีด้วยไม้ สายยาง ถูกต่อยและถูกเตะ ถูกช็อตด้วยไฟฟ้า และถูกบังคับให้อยู่ในท่วงท่าที่อึดอัด

Advertisement

การพิจารณาคดีของนักกิจกรรมหกคน
ในวันที่ 5 เมษายน 2561 นักเคลื่อนไหวอย่างสงบอีกหกคน ต้องเข้ารับการพิจารณาคดีที่กรุงฮานอยซิตี้ โดยห้าคนเป็นสมาชิกกลุ่มภราดรภาพเพื่อประชาธิปไตยซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับรัฐ ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นนักกิจกรรมชื่อเหงียนบักตรูเยน

ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา “ล้มล้างรัฐบาล” เนื่องจากการจัดกิจกรรมทางการเมืองอย่างสงบ เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานระหว่างประเทศรณรงค์ในประเด็นสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายกับเกษตรกรและคนงาน หากศาลตัดสินว่ามีความผิด พวกเขาอาจได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษประหาร

“การปราบปรามอย่างต่อเนื่องต่อผู้เห็นต่างในเวียดนามต้องยุติลงในทันที ทางการควรเริ่มต้นด้วยการยกเลิกการดำเนินคดีที่เหลวไหลต่อนักกิจกรรมหกคน ซึ่งจะเข้ารับการพิจารณาคดีในวันพรุ่งนี้ และให้ปล่อยตัวพวกเขาเป็นอิสระโดยไม่มีเงื่อนไข” เจมส์ โกเมซกล่าว “หลังจากนั้นควรมีการปล่อยตัวนักโทษทางความคิดทั้ง 97 คนอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้ยกเลิกกฎหมายใด ๆ ที่เอาผิดความเห็นต่างอย่างสงบ”

“หากรัฐบาลเวียดนามไม่เปลี่ยนแนวทางและยุติการปฏิบัติมิชอบด้วยกฎหมายที่มุ่งคุมขังและคุกคามฝ่ายค้านอย่างสงบ รายชื่อนักโทษทางความคิดก็จะเพิ่มขึ้นอีกในเวลาไม่นาน เวียดนามต้องปล่อยตัวทุกคนที่ถูกคุมขังเพียงเพราะการแสดงความเห็นอย่างสงบโดยทันที และต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่จะต้องเคารพสิทธิมนุษยชนของทุกคนอย่างจริงจัง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image