เมื่อวันที่ 15 เมษายน สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสำทับซ้ำต่อรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ของซีเรียว่า สหรัฐยังคงบรรจุกระสุนขึ้นลำและเล็งเป้าไว้พร้อมแล้ว เพื่อการถล่มซีเรียใหม่อีกครั้งหากยังคงใช้อาวุธเคมีในการปราบปรามฝ่ายกบฏในสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาต่อเนื่องกว่า 7 ปี หลังจากสหรัฐอเมริกา ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส ยิงมิสไซล์กว่า 100 ลูกถล่ม 3 เป้าหมายใน 2 เมืองใหญ่ของซีเรีย เมื่อคืนวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นางนิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยคำเตือนดังกล่าวของทรัมป์เมื่อวันที่ 14 เมษายนระหว่างการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เพื่อพิจารณาร่างมติของรัสเซีย ที่ขอให้ประณามการกระทำของสหรัฐอเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศสว่าเป็นการ “ก้าวร้าวรุกราน” และขอมติให้ห้าม ทั้ง 3 ชาติใช้กำลังทหารปฏิบัติการต่อซีเรียในอนาคต ในที่ประชุมเกิดการถกเถียงกันอย่างหนักในหลายประเด็นเกี่ยวเนื่องกับเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่เรื่องการใช้อาวุธเคมีจริงหรือไม่, ความถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศของการโจมตีครั้งนี้ เรื่อยไปจนถึงประเด็นว่าด้วยสาเหตุของการไร้ประสิทธิภาพของยูเอ็นในการแก้ปัญหาซีเรียโดยรวม โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันอย่างดุเดือด
เอพีระบุว่า ที่ประชุมลงมติท่วมท้น 8-3 ปฏิเสธร่างมติของรัสเซีย โดยในสมาชิกถาวรและสมาชิกสมทบของยูเอ็นเอสซี 15 ชาติ มีเพียงจีนกับโบลิเวียเท่านั้นที่สนับสนุนร่างมติ อีก 8 ชาติประกอบด้วย สหรัฐ,อังกฤษ,ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, คูเวต, โปแลนด์ และไอวอรีโคสต์ ปฏิเสธ และมี 4 ชาติงดออกเสียง ทำให้นายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรรัสเซียประจำยูเอ็นถึงกับระบุว่า ถือเป็นวันน่าเศร้าที่สุดของโลก ไม่เคยมีวันไหนที่น่าเศร้ามากไปกว่าวันที่กฎบัตรยูเอ็นถูกละเมิดแล้วยูเอ็นเอสซีหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับผิดชอบอีกแล้ว
เอพีรายงานว่า นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวย้ำอีกครั้งว่าสิ่้งที่จำเป็นต้องทำในเวลานี้มากที่สุดก็คือการป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามออกไปนอกเหนือการควบคุม และเปิดเผยว่า ได้ขอให้ นายสตัฟฟาน เดอ มิสทูรา ทูตพิเศษของเลขาธิการยูเอ็นด้านกิจการซีเรีย เดินทางมายังสำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนิวยอร์กโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหารือถึง วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเร่งรัดกระบวนการเจรจาสันติภาพซีเรีย
