สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน สมาชิกสภานิติบัญญัติพม่าที่มาจากสัดส่วนของกองทัพระบุว่า แผนการที่จะเพิ่มอำนาจให้นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) วัย 70 ปี ด้วยการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ขัดกับรัฐธรรมนูญ ในการต่อสู้กันระหว่างกองทัพกับรัฐบาลพลเรือน ไม่กี่วันหลังการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ
พม่าอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพมาเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมาที่พรรคเอ็นแอลดีของนางซูจีขึ้นครองอำนาจอย่างเป็นทางการ
นางซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่พรรคของเธอชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ประกาศว่าจะเป็นผู้ปกครองประเทศแม้ว่ารัฐธรรมนูญจะระบุห้ามเธอรับตำแหน่งประธานาธิบดี
และในย่างก้าวอันน่าประหลาดใจตั้งแต่เริ่มแรกในรัฐสภาภายใต้รัฐบาลใหม่ พรรคเอ็นแอลดีได้เสนอร่างกฎหมายแต่งตั้งนางซูจีให้ดำรงตำแหน่งเป็น “ที่ปรึกษาแห่งรัฐ” ที่หากว่าร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านสภาจะทำให้นางซูจีที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่แล้ว 4 กระทรวงในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ มีอำนาจเหนือรัฐสภา
สัญญาณความขัดแย้งในเรื่องนี้ระหว่างพรรคเอ็นแอลดีและกองทัพที่ยังคงมีอิทธิพลอยู่ปรากฏขึ้นในการอภิปรายในวุฒิสภาวันเดียวกันนี้ โดยพ.อ.มินต์ ส่วยระบุว่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้ “ประธานาธิบดีและที่ปรึกษามีอำนาจอยู่ในระดับเท่าเทียมกัน” ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดรัฐธรรมนูญ และควรจะมีการปรับแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
ด้านพ.อ.ฮลา มิน อ่อง สมาชิกสภาอีกรายจากกองทัพประณามร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยระบุว่าจะเป็นการทำลายดุลอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ
ข่าวระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการรับรองของวุฒิสภาแล้ว แต่ยังต้องรอการลงมติรับรองจากสภาผู้แทนราษฎร และรวมทั้ง 2 สภาอีกรอบ ที่คาดว่าไม่น่ามีปัญหาเนื่องจากพรรคเอ็นแอลดีครองเสียงข้างมากในทั้ง 2 สภาอยู่แล้ว
นาย ซอว์ มิน ประธานวุฒิสภาจากพรรคเอ็นแอลดีระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าเรื่องดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยระบุว่าเรื่องนี้ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่เป็นผู้ตัดสิน