สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 20 เมษายนว่า เงินบาทต่อดอลลาร์เช้านี้อ่อนค่าลงตามสกุลเงินภูมิภาค หลังนักลงทุนเข้าซื้อคืนดอลลาร์ และขายทำกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง
ดีลเลอร์คาดว่าเงินบาทวันนี้จะมีแนวต้านที่ 31.20 และแนวรับที่ 31.30
ดอลลาร์อยู่ที่ 107.67 เยนในช่วงเช้าวันนี้ แข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานนี้ (19 เม.ย.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ไม่ได้ยื่นข้อเรียกร้องใหม่ใดๆ ในการประชุมระหว่างเขากับนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่นในช่วงต้นสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 89.980 ในช่วงเช้าวันนี้ขยับขึ้นจาก 89.940 ในช่วงท้ายเมื่อวานนี้
เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอกย้ำว่ากองทุนสำรองแห่งรัฐหรือธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยตลาดมองว่าความเชื่อมั่นในสหรัฐจะช่วยหนุนเฟดให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้
เงินปอนด์อังกฤษเคลื่อนตัวใกล้จุดต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ โดยถูกกดดันจากถ้อยแถลงของนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และข้อมูลค้าปลีกของอังกฤษ
นายคาร์นีย์ กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่า บีโออีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,610 ล้านบาท ขณะที่ซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยทุกช่วงอายุ 309.11 ล้านบาท แต่ถ้านับเฉพาะตราสารหนี้อายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป ซื้อสุทธิ 811.47 ล้านบาท
“ดอลลาร์ยังอยู่ในช่วงของการดีดตัวกลับในระยะสั้นๆ และมีแรงเทขายทำกำไรพวกสินทรัพย์เี่ยงออกมาบ้างออกมาบ้าง แต่แนวโน้มก็ยังไม่ได้มีอะไร ยังคงแกว่งเป็นช่วง” ดีลเลอร์รายหนึ่งกล่าว