สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ทีมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่เดินทางเยือนบังกลาเทศให้สัญญาเมื่อวันที่ 30 เมษายนว่า จะทำงานหนักเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายแสนคนที่อพยพข้ามพรมแดนหนีความรุนแรงมาจากการปราบปรามนำโดยกองทัพพม่า
คณะนักการทูตที่เดินทางเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยและจุดผ่านแดนซึ่งชาวโรฮีนจานับ 700,000 คนใช้เป็นที่พักเปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะได้เห็นสถานการณ์ด้วยตนเอง
นายดมิทรี โปลียานสกี อัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นเปิดเผยว่า ทีมของเขาจะไม่ละเลยวิกฤตหลังการลงพื้นที่ครั้งนี้ แต่เตือนว่าไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ง่าย
นายกุสตาโว อดอลโฟ เมซา กวาดรา เวลาสเกซ ทูตเปรูประจำยูเอ็นกล่าวว่า คณะทำงานชุดนี้พร้อมที่จะ “ทำงานหนัก” และ “เป็นกังวล” อย่างมากกับวิกฤตครั้งนี้ ขณะที่นางคาเรน เพียร์ซ ทูตอังกฤษประจำยูเอ็นเปิดเผยว่า ยูเอ็นเอสซีจะเดินหน้าทำงานเพื่อให้ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจากลับไปยังพม่าได้แต่จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ปลอดภัยเท่านั้น
คณะนักการทูตที่ประกอบไปด้วยผู้แทนจาก 5 ชาติสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี คือจีน ฝรั่งเศส รัสเซีย อังกฤษและสหรัฐ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ชาติได้พูดคุยกับผู้อพยพราว 120 คน ซึ่งรวมถึงเหยื่อที่ถูกข่มขืน และจะเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนบังกลาเทศเป็นเวลา 3 วันในวันดังกล่าวนี้และมีกำหนดเดินทางเยือนพม่าเพื่อพบปะกับนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของพม่าต่อไป