สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับนายมิเกล วาร์กัส รัฐมนตรีต่างประเทศของสาธารณรัฐโดมินิกัน ว่าด้วยการสานสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้สาธารณรัฐโดมินิกัน กลายเป็นประเทศล่าสุดที่หันหลังให้กับไต้หวัน ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของจีนที่มีอำนาจมากขึ้น ทำให้ไต้หวันเหลือประเทศที่ยอมรับความเป็นรัฐบาลของไต้หวันแค่ 19 ประเทศ
แถลงการณ์ของทางการโดมินิกัน ระบุว่า รัฐบาลโดมินิกันเชื่อว่าการหันไปสานสัมพันธ์กับจีนจะเกิดผลดีอย่างมากสำหรับอนาคตของประเทศ และสาธารณรัฐโดมินิกันจะยอมรับว่า มี “จีนเดียว” บนโลกนี้ และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่อย่างที่แยกกันไม่ได้
ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งประกาศว่า จีนกับโดมินินจะมีการตั้งทูตประจำประเทศของกันและกันในเร็วๆนี้
ด้านนายโจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวัน ได้จัดการแถลงข่าวฉุกเฉิน แสดงความเสียใจอย่างแรงต่อการที่สาธารณรัฐโดมินิกันและจีนเริ่มสานสัมพันธ์ทางการทูตกันตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พร้อมกับประณามจีนอย่างรุนแรงที่ใช้การทูตทางการเงิน ในการเปลี่ยนใจพันธมิตรของไต้หวันให้ไปสานสัมพันธ์กับจีนแทน โดยระบุด้วยว่า จีนใช้เงินในการหลอกล่อสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งไต้หวันจะไม่ยอมต่อแรงกดดันจากรัฐบาลปักกิ่ง ขณะที่ความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรอื่นๆของไต้หวันยังคงมั่นคงอยู่ และยังไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของไต้หวันกับวาติกัน
