สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์รายงานว่า การเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียมีขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการแข่งขันกันครั้งสำคัญระหว่างนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กับนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในอายุ 92 ปี ที่หวนกลับมาชิงชัยในสนามการเมืองมาเลเซียอีกครั้ง
รายงานข่าวระบุว่า คูหาเลือกตั้งเริ่มเปิดขึ้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. และปิดลงในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในมาเลเซีย ซึ่งจะเร็วกว่าเวลาในไทย 1 ชั่วโมง โดยเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซียแจ้งว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นการออกมาใช้สิทธิมากกว่าปกติในช่วงเช้า โดยนายโมฮัมหมัด ฮาชิม อับดุลลาห์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งแถลงว่า การที่ประชาชนรีบออกมาใช้สิทธิในช่วงเช้าจำนวนมาก อาจจะเป็นเพราะมีการพยากรณ์ว่าจะเกิดฝนตกในช่วงบ่าย ขณะที่มีการส่งข้อความลูกโซ่บนโลกโซเชียล เตือนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมาแอบอ้างใช้สิทธิของตัวเอง ซึ่งนายโมฮัมหมัด ฮาชิม กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าสนใจข้อความดังกล่าวที่ต้องการจะสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นเท่านั้น
โดยนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด แกนนำของพันธมิตรฝ่ายค้านมาเลเซีย ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรแห่งความหวัง หรือปากาตัน ฮาราปัน เดินทางไปลงคะแนนเสียงที่เมืองอลอร์สตาร์ เมืองเอกของรัฐเคดะห์ และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังการลงคะแนนว่า มีความเชื่อมั่นอย่างสูงต่อการที่ประชาชนออกมาเลือกตั้ง และประชาชนจะแสดงออกเพื่อประชาชน
ทั้งนี้ นายมหาธีร์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอยู่นานถึง 22 ปี จนถึงปี 2546 และกลับมาสู่วงการการเมืองอีกครั้ง ร่วมมือกับฝ่ายค้านเพื่อขับไล่นายนายนาจิบ ราซัค หลังจากนายนาจิบมีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่นในคดีกองทุน 1 เอ็มดีบี โดยครั้งหนึ่งนายนาจิบเคยเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของมหาธีร์และนายมหาธีร์ผลักดันขึ้นมาจนได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ด้านนายนาจิบ ราซัค ออกไปลงคะแนนเสียงที่เมืองเปกัน ก่อนจะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้เลวร้ายอย่างมาก มีการโจมตีส่วนบุคคล ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงภาวะประชาธิปไตยที่สุกงอม พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวมาเลเซียออกมาลงคะแนนเสียงโดยอ้างอิงจากหลักความจริง นโยบาย และเลือกจากคนที่จะสามารถบริหารได้ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติและประชาชน
