เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สำนักข่าวเบอร์นามา ของทางการมาเลเซียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งกำลังจำนวนหนึ่งเข้าไปปิดล้อมเส้นทางเข้าออกบ้านพักส่วนตัวของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีบริเวณย่าน จาลันดูตา ซึ่งเป็นพื้นที่ร่มรื่นใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีการจัดตั้งสถานีตำรวจเคลื่อนที่ขึ้นในบริเวณดังกล่าว ห่างจากบ้านพักส่วนตัวของนายนาจิบออกมาราว 200 เมตร รวมทั้งกำหนดจุดตรวจสอบยวดยานและบุคคลที่เข้าออกพื้นที่ปิดล้อมอย่างถี่ถ้วน โดยห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปในบริเวณดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงนายหนึ่งอ้างว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการตรวจสอบด้านความมั่นคงเท่านั้น
การปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ยืนยันว่า ได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้นายราจิบ และนาง รอสมาห์ มันซอร์ ภริยา เดินทางออกนอกประเทศ ด้วยเหตุที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคนทั้งสองเข้ามามากมาย และจำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะไม่ต้องการปวดหัวกับปัญหาส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอื่นในภายหลัง
ด้าน มัซลัน ลาซิม ผู้บังคับการสำนักงานตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ออกมายืนยันชัดเจนว่า ทางตำรวจไม่ได้บุกตรวจค้นอพาร์ตเมนท์หรูของบุคคลในครอบครัวนายนาจิบ ในอพาร์ตเมนท์ พาวิลเลียน เรสซิเดนท์ ตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาแต่อย่างใด โดยยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการดังกล่าว และกำลังตรวจสอบและสืบสวนกรณีที่มีรายงานข่าวดังกล่าวออกมาอยู่ในเวลานี้ แต่เชื่อว่าเป็นข่าวที่ได้จากแหล่งข่าวซึ่งไม่น่าเชื่อถือ หรืออาจเป็นคำบอกเล่าของบุคคลที่สาม ซึ่งไม่เพียงเป็นการละเมิดจรรยาบรรณยังเป็นการกระทำผิดกฎหมายอีกด้วย
ผู้บังคับการสำนักงานตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ระบุว่าเจ้าหน้าที่เพียงเข้าไปนำเอาเทปโทรทัศน์วงจรปิดของอาคารออกมาเพื่อใช้ในการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ซึ่งไม่น่าเรียกว่าเป็นการบุกตรวจค้นได้
ก่อนหน้านี้รอยเตอร์อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงหลายนาย ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 20 นายเข้าไปตรวจค้นอพาร์ตเมนท์ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบหาเอกสารที่เป็นหลักฐานสำคัญในคดีทุจริตเงินในกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐ หรือ 1เอ็มดีบี หลังจากที่มีการร้องเรียนจากแกนนำยุวชนพรรคร่วมรัฐบาล ปากาตัน ฮารัปปัน ว่ามีรถตู้ติดตราสำนักนายกรัฐมนตรีลำเลียงกล่องหลายสิบกล่องเข้าไปยังล็อบบีของอพาร์ตเมนท์ดังกล่าว กล่องดังกล่าวนั้นเป็นกล่องที่ทำขึ้นสำหรับใส่กระเป๋า เบอร์กิน กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงถึงใบละ 200,000 ดอลลาร์หรือราว 6.4 ล้านบาท โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์ว่า ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปตรวจสอบเพราะมีผู้สงสัยว่ากำลังจะมีการลักลอบนำเอกสารสำคัญออกนอกประเทศ ไม่ได้ตรวจสอบกรณีกระเป๋าแต่อย่างใด
