สื่อวิเคราะห์’ฮาร์วีย์’มีโอกาสรอดคุก เหมือนจำเลยดังในอดีตที่ต่าง’รอดคุก’มาแล้ว

ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน กำลังเซ็นรับทราบข้อหา โดยมีนายเบนจามิน ทนายอยู่ข้างๆ (เอเอฟพี)

ถึงแม้การเดินทางเข้ามอบตัวที่ศาลอาญาแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ของนายฮาร์วีย์ ไวน์สตีน อดีตโปรดิวเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการฮอลลีวู้ด เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อต่อสู้คดีล่วงละเมิดทางเพศที่เขาตกเป็นจำเลย จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แต่จากรายงานข่าวของเอเอฟพีก็ว่า จากสถิติในอดีตที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าคดีแบบนี้ มีคนดังนักต่อนักที่สุดท้ายก็ “พ้นผิด”

เพราะชื่อเสียงและความมั่งคั่ง ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลย อยู่ในฐานะที่ได้เปรียบผู้กล่าวหา หรือโจทก์ โดยเฉพาะในคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเพศ ไม่ต้องดูอื่นไกล แค่วันแรกที่เดินทางเข้ามอบตัว หลังจากเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา นายไวน์สตีนวัย 66 อดีตผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเดอะ ไวน์สตีน คัมปานี ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ก็วางเงินประกันตัวไป 1,000,000 ดอลลาร์ หรือราว 32.1 ล้านบาท สามารถเดินออกไปใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเหมือนเดิมแม้จะต้องถูกยึดหนังสือเดินทาง เพื่อป้องกันการเดินทางหนีออกนอกประเทศ และต้องสวมอุปกรณ์ติดตามตัว

 

(เอเอฟพี)

ด้วยฐานะที่ร่ำรวย ยังทำให้ไวน์สตีนสามารถจ้างทนายความชื่อดังอย่างเบนจามิน บราฟแมน ที่เคยว่าความช่วยให้คนดังหลายคนที่เคยถูกฟ้องในคดีล่วงละเมิดทางเพศ หลุดพ้นจากคดีที่ถูกฟ้องมาแล้วหลายคน ไม่ว่าจะเป็นไมเคิล แจ๊กสัน อดีตราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับ, นายโดมินิก สเตราส์ คาห์น อดีตกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ และฌอน “พี ดิดดี้” โคมส์ นักร้องแร็ปเปอร์ ในคดีใช้อาวุธทำร้ายผู้อื่น และติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ

Advertisement

ในรายงานข่าวของเอเอฟพีได้พูดถึง “ข้อได้เปรียบ” ที่ไวน์สตีนได้เปรียบบรรดาหญิงคู่ความของเขา ซึ่งยังมีนักแสดงหญิงชื่อดังอีกมากมายที่เคยออกมาแฉพฤติกรรมน่ารังเกียจของนายไวน์สตีน อาทิ แอชลีย์ จัดด์, โรส แม็คโกแวน ฯลฯ ว่า เพราะอำนาจและชื่อเสียงของไวน์สตีน ทำให้กว่าสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับหญิงที่ตกเป็นเหยื่อจะถูกแฉ และเป็นคดีถึงศาล ก็ใช้เวลานานกว่า 20 ปี กระทั่งโรส แม็คโกแวน นักแสดงหญิงวัย 44 ซึ่งกล่าวหาไวน์สตีนข่มขืนเธอเมื่อปี 2540 ยังออกปากว่า “ฉันไม่เชื่อเลยว่า วันนี้จะมาถึง”

 

โรส แม็คโกแวน (รอยเตอร์)

แม็คโกแวนยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ไวน์สตีนได้ “สิทธิพิเศษ” ที่ถูกจับเมื่อวันศุกร์ เพราะเป็นวันแรกของช่วงวันหยุดยาววันระลึกถึงทหารผ่านศึก ซึ่งคนอเมริกันจะไม่ค่อยได้สนใจอ่านข่าว ดูข่าวกัน

Advertisement

นอกจากนั้นในเอเอฟพียังกล่าวด้วยว่า ด้วยฐานะที่ร่ำรวย ยังทำให้ไวน์สตีนได้เปรียบและอาจไม่ต้องต่อสู้คดีในศาล เนื่องจากระบบกฎหมายของสหรัฐเปิดช่องว่างอยู่มากให้ผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาสามารถเจรจาตกลงกัน และจากอดีตที่ผ่านมา 9 ใน 10 ของคดีทางอาญาสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันระหว่างทนายความและผู้กล่าวหา มากกว่าจะไปถึงการตัดสินคดีของคณะลูกขุน

และในคดีนี้ เบนจามิน บราฟแมน ได้ประกาศชัดต่อหน้าสื่อให้รับทราบกันเมื่อวันที่ลูกความของเขาเดินทางไปมอบตัวแล้วว่า ไวน์สตีนจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อีกทั้งหากดูจากตัวอย่างคดีความในคดี ก็ทำให้รู้สึกว่า ไวน์สตีนน่าจะเป็นต่อ คดีตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือ คดีของโอเจ ซิมป์สัน อดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อก้องระดับตำนาน ที่จ้างทีมทนายระดับหัวแถวของประเทศสู้คดีที่เขาตกเป็นจำเลยในคดีฆาตกรรม แล้วซิมป์สันก็ชนะ

ทั้งเงิน และการมีทีมทนายที่เก่งฉกาจ ยังเปิดโอกาสให้บรรดาคนดังไม่ต้องสู้ความในศาล ด้วยการใช้เงินเป็นเครื่องมือต่อรองให้คู่ความยอมเซ็นสัญญายอมจบคดี และไม่ไปพูดอะไรต่ออีก

นอกจากนั้น เงินยังทำให้คนดังสามารถว่าจ้างนักสืบเอกชนไปตามขุดคุ้ยประวัติของคู่ความ เพื่อหวังนำมาเป็นข้อมูลที่จะลดความน่าเชื่อถือของคู่ความ ซึ่งเป็นวิธีที่นายทอม เมสเซอโรว์ ทนายชื่อดัง ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในทีมทนายของไมเคิล แจ๊กสัน กำลังใช้สู้คดีให้แก่บิล คอสบี นักแสดงตลกระดับตำนานของสหรัฐที่ตกเป็นจำเลยในคดีข่มขืน ที่มีผู้หญิงหลายคนเป็นโจทก์

แต่ถึงกระนั้น ชาวอเมริกันส่วนมากก็ยังฝากความหวังไว้กับกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image