การมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่าในตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเพราะรัฐบาลพรรคสังคมนิยมชุดใหม่ของสเปนเกิดขึ้นมาจากขบวนการเคลื่อนไหวของ “เฟมินิสต์” หรือกลุ่มสิทธิสตรีอันเข้มแข็งที่แทรกซึมอยู่ในทุกพื้นที่ของสังคม
รัฐบาลสเปนชุดใหม่นำโดย เปโดร ซานเชซ ผู้ขับมารีอาโน ราฆอย นักการเมืองอนุรักษนิยมที่มีประสบการณ์ยาวนานออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
ฝ่ายบริหารชุดนี้ของสเปนมีสัดส่วนของผู้หญิงมากกว่าทุกประเทศในยุโรป โดยจากรัฐมนตรี 17 ตำแหน่ง เป็นผู้หญิง 11 คนและพวกเธอล้วนแต่ควบคุมกระทรวงที่ดูแลงานสำคัญ ทั้งเศรษฐกิจ การคลัง ยุติธรรม แรงงาน การศึกษาและสาธารณสุข
ซานเชซยังตัดสินใจปัดฝุ่นนำกระทรวงเพื่อความเท่าเทียมที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 ในสมัยของรัฐบาลพรรคสังคมนิยมของนายกรัฐมนตรีโฆเซ หลุยส์ โรดริเกซ ซาปาเตโร ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2011 ให้กับราฆอย กลับมาใหม่
ขณะที่กระทรวงกลาโหมได้รับการดูแลโดยผู้หญิงมาตลอดในช่วงหลายปีหลัง โดยอดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุด มาร์การิตา โรบเลส เป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของซานเชซ
อนา ปาสตอร์ นักการเมืองอนุรักษนิยมยังได้รับตำแหน่งประธานรัฐสภา ที่มีอำนาจมากเป็นอันดับสามในฝ่ายบริหารของประเทศอีกด้วย
อนา มาเรีย โอเบเฆโร ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญเชื่อว่า การเลือกผู้หญิงถือเป็นย่างก้าวสำคัญ แม้ว่ารัฐบาลของซานเชซจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีช่องให้ขยับปรับเปลี่ยนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นโอเบเฆโรยกตัวอย่างที่ การ์เมน กัลโบ รัฐมนตรีเพื่อความเท่าเทียมยังได้ควบตำแหน่งที่มีบทบาทสูงอย่างรองนายกรัฐมนตรีด้วย
ซึ่งน่าจะทำให้มีช่องทางมากขึ้นในการผลักดันนโยบายเรื่องความเท่าเทียมกันของค่าจ้าง จำนวนผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ และการต่อสู้กับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่