ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ตัดสินให้เอทีแอนด์ที ได้รับชัยชนะ และอนุมัติการเข้าซื้อกิจการของไทม์วอร์เนอร์มูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในข้อตกลงที่มีการให้สัญญาว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของวงการสื่อใหม่
หลังการไต่สวนเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ผู้พิพากษาริชาร์ด ลีออน ตัดสินว่ารัฐบาลล้มเหลวที่จะพิสูจน์ว่าข้อตกลงนี้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดและวิพากษ์วิจารณ์คดีนี้ในความคิดเห็นของตนเองด้วยการใช้คำที่แข็งกร้าวมากกว่าปกติ
ผู้พิพากษาลีออนตำหนิกระทรวงยุติธรรม (ดีโอเจ) จากการขอร้องตนให้พักการตัดสินคดีนี้ไว้ก่อนในขณะที่ดีโอเจพิจารณาว่าจะขอยื่นอุทธรณ์ โดยระบุว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นความ “ไม่เป็นธรรมอย่างชัดเจน” เนื่องจากจะส่งผลให้การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ล้มเหลว
เอทีแอนด์ทีแสดงความยินดีต่อคำพิพากษาที่ออกมาและประกาศว่าจะดำเนินการให้บรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 20 มิถุนายน ที่หมายความว่า เอชบีโอ ซีเอ็นเอ็น วอร์เนอร์บราเธอส์ และแบรนด์อื่นๆ ของไทม์วอร์เนอร์จะเปลี่ยนเจ้าของในสัปดาห์หน้า
ข้อตกลงนี้ยังจะทำให้เกิดการรวมกันระหว่างรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ของไทม์วอร์เนอร์กับระบบการจัดจำหน่ายที่มหึมาของไทม์วอร์เนอร์ที่รวมถึงช่องทางโทรศัพท์มือถือและเครือข่ายผ่านดาวเทียม
เอทีแอนด์ทีระบุว่าจำเป็นต้องได้ไทม์วอร์เนอร์เพื่ออยู่รอดในภูมิทัศน์การแข่งขันของสื่อที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อต่อสู้กับยักษ์ใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์และอเมซอน
แต่แผนกต่อต้านการผูกขาดของดีโอเจยื่นฟ้องศาลให้หยุดข้อตกลงนี้ โดยโต้แย้งว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะส่งผลร้ายต่อการแข่งขันและเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้กับผู้บริโภค
