เพื่อเติมเต็มแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ และให้กำลังใจน้องๆ ม.ปลาย ในการเรียนต่อชั้นอุดมศึกษา กิจกรรมแรกในทริปนี้ น้องๆ จึงได้ร่วมพบปะพูดคุย และรับฟังเรื่องราวความประทับใจในรั้วจุฬาฯ จากรุ่นพี่ชื่อดัง ในสเปเชียล ทอล์ก ‘ร้อยเรื่องราว ร้อยห้าปีจุฬาฯ’
ทั้ง คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ ศิษย์เก่าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เจ้าของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษครูสมศรี และ และติวเตอร์ในโครงการ ‘MRT พาน้องพิชิต TCAS 14 by BEM’ คุณณปสก สันติสุนทรกุล ศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์เด็กดี และ ผศ.ดร. พีรศรี โพวาทอง อาจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่น พ.ศ. 2562 ที่รับบทรุ่นพี่ ร่วมพูดคุย ให้ความรู้ และร่วมเดินทางด้วยกันในทริปนี้
หลังจากรับฟังเรื่องราวความประทับใจจากรุ่นพี่กันแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวชมจุฬาฯ ซึ่งยังไม่ต้องไปไหนไกล เพราะอยู่ในห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่เดียวกับสเปเชียล ทอล์ก นั่นเอง
ลบภาพห้องสมุดเดิมๆ ออกไปได้เลย เพราะที่นี่ออกแบบให้มีความสวยงาม ทันสมัย โดนใจผู้เรียนยุคนี้ ที่ไม่ได้ต้องการความเงียบในการอ่านหนังสืออย่างเดียว แต่ยังมีโมเมนต์ที่อยากระดมไอเดียกับเพื่อนๆ ในห้องสมุดจึงมีทั้งโซนหนังสือ และโซนที่สามารถมาพูดคุยกันได้ ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเรียนรู้ ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์ จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 หมวด Library : Best of Year Awards 2019 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ที่ศูนย์การประชุมเจคอบ เค. จาวิตส์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มาครอง
ออกจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มาไม่ไกลนัก ผศ.ดร. พีรศรี ก็พาน้องๆ ไปถึง พระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล สถานที่สำคัญของชาวจุฬาฯ เพราะเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
นอกจากนั้น น้องๆ ยังได้ร่วมค้นหา ‘ต้นจามจุรีทรงปลูก’ 5 ต้น ที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปลูกด้วยพระองค์เอง บริเวณด้านหน้าหอประชุมจุฬาฯ อีกด้วย
เพื่อพาน้องๆ ไปรู้จักจุฬาฯ ให้มากขึ้น คงไม่มีที่ไหนจะรวบรวมเกร็ดประวัติของสถานที่แห่งนี้ได้ดีไปกว่า พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย
แหล่งรวบรวมข้อมูลและจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับจุฬาฯ ที่สะท้อนความเป็นมาของปัญญาแผ่นดิน ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน
ไม่เพียงรับฟังเรื่องราวต่างๆ ของจุฬาฯ จากวิทยากร แต่น้องๆ ยังได้ทำความรู้จักจุฬาฯ มากขึ้น ผ่านนิทรรศการ ‘100 เรื่องจามจุรี 100 ปีจุฬาฯ’ ที่จัดแสดงในรูปแบบ ‘Modern and Narrative Museum’ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ โดยน้องๆ ทุกคน ต่างให้ความสนใจกระตือรือร้น ค้นหาเรื่องราวมหาวิทยาลัยในฝันกันอย่างสนุกสนาน
ตลอดระยะเวลากิจกรรม ‘แคมปัส ทัวร์ จุฬาฯ ร้อยห้าปี’ เราต่างสัมผัสได้ถึงความใฝ่รู้ของน้องๆ ทุกคน ต่อทุกเรื่องที่วิทยากรบอกเล่า แต่ที่มากไปกว่าการตั้งใจรับฟังความรู้ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือการที่น้องๆ ได้คิด ได้ตั้งคำถาม และซักถามประเด็นที่สงสัย ตลอดการเดินทางอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสิ่งดังกล่าวล้วนมีประโยชน์ เพราะสามารถนำกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวไปปรับใช้ในการเรียนได้ต่อในอนาคต
ศึกษาประวัติจุฬาฯ ใน พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย กันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเปลี่ยนคาบเรียน มาสัมผัสบรรยากาศความอบอุ่นของที่นี่ให้มากขึ้น ผ่านการซึมซับกลิ่นอายวิถีชีวิตของรุ่นพี่เมื่อหลายสิบปีก่อนกันที่ ตึกจักรพงษ์ ซึ่งเคยใช้เป็นสโมสรส่วนกลางของนิสิตและองค์การบริหารนิสิต หรือ ‘คลับเฮาส์’ ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง
ตึกจักรพงษ์ นับเป็นหนึ่งใน hidden gem ที่น่าสนใจของจุฬาฯ เพราะสถานที่แห่งนี้ประดิษฐานพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ (รูปเขียนเหมือนบุคคลจริงของพระมหากษัตริย์) พระบรมราชูปถัมภกแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทุกพระองค์ พระเกี้ยวจำลอง สัญลักษณ์ของจุฬาฯ ซึ่งน้องๆ ต่างเดินชมด้วยความสนใจ พร้อมรับฟังเรื่องราว เกร็ดสนุกๆ ของบรรดารุ่นพี่ ที่สร้างวีรกรรมกันไว้ที่นี่กันอย่างเพลิดเพลิน
มาถึงสถานที่ไฮไลต์ที่น้องๆ หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ และ อาคารมหาวชิราวุธ ที่ชาวจุฬาฯ เรียกขานทั้ง 2 อาคารรวมกันว่า ‘เทวาลัย’ เพื่อศึกษาความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ ที่เป็นอาคารเรียนหลังแรกๆ ในรั้วจามจุรี ทั้งยังเต็มไปด้วยความงดงามด้านสถาปัตยกรรม ตลอดจนเรื่องราวของผู้คนชาวจุฬาฯ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาใช้ชีวิต มาศึกษาหาความรู้ ตลอดจนสำเร็จการศึกษาออกไปพัฒนาบ้านเมืองตามเป้าประสงค์ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ
สถานที่แห่งนี้จึงไม่ใช่กลุ่มอาคารเก่า แต่หมายถึง ‘ชุมชนจินตกรรม’ ที่ยึดโยงความรู้สึกของชาวจุฬาฯ เข้าหากัน ดั่งสายสัมพันธ์ที่แม้ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องที่สนิท ไม่รู้จัก หรือไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน แต่กลับมีสำนึกว่าเป็นคนกลุ่มก้อนเดียวกันอย่างเหนียวแน่น
ส่งท้ายความประทับใจกับ ‘Happy Journey with BEM’ ทริปที่ 3 สถานีสามย่าน ‘แคมปัส ทัวร์ จุฬาฯ ร้อยห้าปี’ ด้วยการพาน้องๆ มาพักผ่อนรับประทานอาหารอร่อยๆ เคล้าเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง ที่ร้านคาเฟ่ โทเรโด้ (Cafe’ Toreador) ร้านอาหารและคาเฟ่ข้างคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่มีที่นั่งทั้งอินดอร์รับแอร์เย็นๆ และพื้นที่เอาต์ดอร์ท่ามกลางสีเขียวร่มรื่น
เป็นที่น่าประทับใจว่า ตลอดเส้นทางการเดินทางภายในรั้วจุฬาฯ ครั้งนี้ เต็มไปรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของน้องๆ ผู้ร่วมทริป ที่ได้มารู้จักกับเพื่อนใหม่ ได้มารู้จักกับรุ่นพี่ ได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเองสนใจร่วมกัน ภายใต้บรรยากาศความร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ปลูกรายล้อมอยู่ทั่วมหาวิทยาลัย
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นภาพประทับใจที่เกิดภายใต้กิจกรรม ‘Happy Journey with BEM’ ในรั้วจุฬาฯ แห่งนี้
แม้ว่าทริป ‘แคมปัส ทัวร์ จุฬาฯ ร้อยห้าปี’ จะจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เชื่อว่า ภาพความประทับใจยังคงฝังแน่นตราตรึงอยู่ในความทรงจำ และเป็นแรงบันดาลใจในการใฝ่รู้ต่อไป ให้เหล่าอนาคตของชาติที่ได้มาร่วมเดินทางกับ ‘Happy Journey with BEM’ กันไม่มากก็น้อย
ผู้ที่พลาดโอกาสในการร่วมขบวน 3 ทริปแรก ไม่ต้องเสียใจ เพราะ ‘Happy Journey with BEM’ ยังมีอีก 2 ทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้เที่ยว แวะ แชะ ชิมกันแบบฟรีๆ !!
📌 สถานีหัวลำโพง ‘Street Photo Walk เดิน ถ่าย ทัวร์’ วันที่ 8 ตุลาคม 2565
📌 สถานีอิสรภาพ ‘ตามรอยพระเจ้าตากสิน เที่ยวฝั่งธน’ วันที่ 17 ธันวาคม 2565
ปักหมุดให้พร้อม ติดตามรายละเอียดและร่วมสนุก เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดีเข้าร่วมทริป ‘Happy Journey with BEM’ ได้ที่ เฟซบุ๊ก: MRT Bangkok Metro ทวิตเตอร์: MRT Bangkok Metro อินสตาแกรม: mrt_bangkok และ โมบายแอปพลิเคชัน Bangkok MRT “เดินทางปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ด้วยรถไฟฟ้า MRT”
