“วันนี้เราอยากจะชวนทุกท่านเที่ยววัดวัง ชมย่านเก่า ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์และเกร็ดประวัติของพระเจ้าตากสิน…”
ถ้าบอกรายละเอียดของการท่องเที่ยวเพียงเท่านี้ เชื่อว่าหลายคนอาจมีคำถามว่า เอ๊ะ…จะต่างจากทริปประวัติศาสตร์ทริปอื่นๆ ยังไง แต่เราขอบอกว่า ลืมภาพการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แบบเดิมๆ ไปได้เลย! เพราะ ‘Happy Journey with BEM’ ทริปที่ 5 สถานีอิสรภาพ ‘ตามรอยพระเจ้าตากสิน เที่ยวฝั่งธน ยลฝั่งพระนคร’ จะพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้
ชวนไปเปิดพงศาวดารฟังเรื่องราวของพระเจ้าตากสิน แบบเกาะชิดติดขอบสถานที่จริง ชี้ให้เห็นเหตุการณ์สำคัญกันแบบจะจะ กับเรื่องราวฉากสุดท้ายของกรุงธนบุรีและพระเจ้าตากสิน ผ่าน 3 สถานที่ไฮไลต์ ทั้ง พระราชวังเดิม (พระราชวังกรุงธนบุรี) ,วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) และ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร
ร้อยเรียงความเป็นไปได้ของเรื่องราวสุดเข้มข้น ที่มีทั้งดราม่า แอคชัน ชิงไหวชิงพริบเกมการเมือง ครบรสชาติ ในเวอร์ชันที่ถึงจะไม่ได้เป็นนักเรียนประวัติศาสตร์ ทุกคนก็สนุกไปด้วยกันได้
ผ่านลีลาการเล่าแบบเจาะลึก โดยวิทยากรผู้รู้จริงอย่าง คุณปรามินทร์ เครือทอง นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ หรือจะเรียกว่าเป็นแฟนพันธ์ุแท้พระเจ้าตากก็คงไม่เกินเลย เพราะเขาคือเจ้าของผลงาน พระเจ้าตากเบื้องต้น, ปริศนาพระเจ้าตากฯ, ชำแหละแผนยึดกรุงธนบุรี และ กบฏเจ้าฟ้าเหม็น ซึ่งหนังสือเหล่านี้คงการันตีความเชี่ยวชาญพระราชประวัติพระเจ้าตากที่ปรามินทร์รอบรู้ได้อย่างไร้ข้อกังขา
MRT อิสรภาพ จากใต้ดินฝั่งธนสู่ความจริงฝั่งกรุง
เพื่อเติมเต็มแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวให้สนุก ทริปนี้เราจึงขอเริ่มจากสถานที่นัดหมายกันสักหน่อย นั่นคือ รถไฟฟ้า MRT สถานีอิสรภาพ สถานีใต้ดินสถานีแรกและสถานีเดียวที่ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี โดยอุโมงค์ของสถานีนี้ เป็นอุโมงค์เชื่อมสถานีสนามไชย และเป็นจุดลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีความลึกจากผิวน้ำถึงอุโมงค์ถึงราว 30 เมตร
เมื่อเป็นสถานีแห่งแรกและแห่งเดียวของฝั่งธนบุรี สถานีอิสรภาพจึงได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างงดงาม มีการนำ ‘หงส์’ สัญลักษณ์อันสวยงามและเป็นสิริมงคล ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร วัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นหนึ่งในสถานที่ไฮไลต์ภายในทริปนี้มาใช้เป็นองค์ประกอบหลัก
เราจะพบหงส์ภายในชั้นออกบัตรโดยสาร ผ่านการปรับรายละเอียดให้ลงตัวกับพื้นที่เสา ฉลุลายทับซ้อนกันจนเกิดเป็นมิติความลึกของลวดลาย ให้กลิ่นอายของความเป็นประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของพื้นที่
พระราชวังเดิม ร้อยเรื่องราวเหตุการณ์ฉากสุดท้ายกรุงธน
เพราะการศึกษาประวัติศาสตร์ให้สนุกและให้ภาพมากขึ้น อาจไม่ใช่เพียงการอ่านหนังสือหรือดูภาพถ่ายเพียงเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือการไปเยือนสถานที่จริง เพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวที่เรารับรู้เข้ากับสถานที่จริง เป็นที่มาของการเดินทางสู่ พระราชวังเดิม (พระราชวังกรุงธนบุรี) ที่เดินทางจาก MRT สถานีอิสรภาพไม่กี่อึดใจก็ถึง
พระราชวังเดิมเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เข้าชมยากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ เนื่องจากเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น คือในช่วงวันสถาปนาเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ แห่งกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร
พระราชวังเดิมเป็นพระราชวังแห่งเดียวที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อ พ.ศ. 2311 ภายในมีโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง ที่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ อาทิ ท้องพระโรงอายุกว่า 250 ปี ใช้เป็นที่ออกว่าราชการ และให้ขุนนางเข้าเฝ้า รวมทั้งใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญ
พิเศษไปอีกขั้น เพราะทริปนี้ ‘Happy Journal with BEM’ ได้จัดสเปเชียล ทอล์ก ‘กรุงธนบุรีของพระเจ้าตาก จากอยุธยา 500 ปี มาแล้ว’ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม ซึ่งผู้ที่จะมาเล่าประวัติศาสตร์สนุกๆ ให้เราฟังก็คือ คุณปรามินทร์ เครือทอง ที่จะมาเปิดประวัติศาสตร์สมัยพระเจ้าตากสินให้สนุกและน่าตื่นเต้นเสมือนการดูซีรีส์สุดเข้มข้น ที่อาจไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน
ภายในพระราชวังเดิมยังมีหมู่อาคารอื่นๆ ที่น่าสนใจ อย่าง พระตำหนักเก๋งคู่ พระที่นั่งขวาง ที่ประทับส่วนพระองค์ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สถานที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในท่าประทับยืนและทรงพระแสงดาบ ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของคนไทยมายาวนาน ศาลศีรษะปลาวาฬ เรือนเขียว และ ป้อมวิชัยประสิทธิ์ สถานที่สำคัญที่เคยใช้เป็นด่านเก็บภาษีปากเรือในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีหลักฐานว่า เป็นจุดประหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อีกด้วย
ยักษ์วัดแจ้ง พระปรางค์วัดอรุณ ไฮไลต์ประเทศไทย
ออกจากพระราชวังเดิมไม่ไกลนักก็จะถึง วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) อีกหนึ่งสัญลักษณ์อันสวยงามของประเทศไทย ที่คนทั่วโลกต่างยอมรับถึงความงดงาม
วัดอรุณสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดมะกอก และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘วัดแจ้ง’ อันเนื่องมาจากความเชื่อว่า “เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงมีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้งพอดี จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง”
มาถึงวัดนี้แล้ว รับรองว่าทุกคนจะได้ชมพระปรางค์วัดอรุณที่เป็นแลนด์มาร์กระดับโลก และร่วมกันตามหาว่า ยักษ์วัดอรุณที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลกับยักษ์วัดแจ้งนั้นอยู่ตรงไหน?
วัดหงส์ วัดสำคัญพระเจ้าตากสินมหาราช
ปิดท้ายทริปด้วยการเยี่ยมชม วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร อีกหนึ่งวัดสำคัญที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก หากแต่มีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่สงบเรียบร้อยครั้งสำคัญของกรุงธนบุรี
วัดหงส์สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเศรษฐีชาวจีนเป็นผู้สร้างด้วยแรงศรัทธา จึงเป็นวัดราษฏร ต่อมาเมื่อกรุงธนบุรีเป็นราชธานี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงรับวัดนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ และสถาปนาวัดนี้ให้เป็นวัดหลวงในท้ายที่สุด
ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของวัดหงส์ ภายในประกอบไปด้วยสถานที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฝั่งธนบุรี มีช่อฟ้าใบระกา ตกแต่งหน้าบันด้วยลวดลายสวยงาม ที่หน้าบันทั้งด้านหน้าและด้านหลังพระอุโบสถ มีพระนารายณ์ทรงหงส์อ่อนช้อยงดงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะอู่ทอง ผนังพระอุโบสถเขียนจิตรกรรมแสดงเรื่องราวพุทธประวัติ
ที่สำคัญ วัดแห่งนี้มีจิตรกรรมรัตนพิมพวงศ์ (ตำนานพระแก้วมรกต) เพียงชิ้นเดียวของงานช่างไทย จำนวน 57 ภาพ ประดับเหนือกรอบประตูหน้าต่าง
นอกจากนั้นยังมี ศาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราช ที่มีตำนานบอกเล่าสืบต่อกันว่า เป็นศาลพระเจ้าตากสินแห่งแรกในประเทศไทย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่เคารพสักการะ
ภายในยังมีสระน้ำมนต์ ที่กล่าวกันว่า พระเจ้าตากสินทรงมาสรงน้ำที่นี่เมื่อมีพิธีสำคัญของแผ่นดิน ที่กลางสระน้ำจะมีหินอาคมอยู่ เชื่อกันว่าผู้ใดที่มาอาบ-กิน จะได้ผลสัมฤทธิ์ดังที่อธิษฐานไว้ ให้ผู้ร่วมทริปได้ไปสักการะ
ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งที่ผู้ร่วมทริป ‘Happy Journey with BEM’ ทริปที่ 5 สถานีอิสรภาพ ‘ตามรอยพระเจ้าตากสิน เที่ยวฝั่งธน ยลฝั่งพระนคร’ จะได้พบภายในทริปนี้ แต่เชื่อได้เลยว่ายังมีอีกนับร้อยเรื่องราว ให้เราได้ร่วมกันรับบทนักพิสูจน์หลักฐาน ตามหาความน่าจะเป็นของเรื่องราวพระเจ้าตากสิน
หากอยากทราบว่าเรื่องราวต่างๆ จะเป็นอย่างไร รีบสมัครเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม ‘Happy Journey with BEM’ ในทริปสุดท้าย กันได้เลย โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ดังนั้นห้ามพลาด!!
ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ‘Happy Journey with BEM’ สถานีอิสรภาพ ‘ตามรอยพระเจ้าตากสิน เที่ยวฝั่งธน ยลฝั่งพระนคร’ สามารถติดตามรายละเอียดการเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก MRT Bangkok Metro หรือ http://bitly.ws/wHB7
| ‘Happy Journey with BEM’ โครงการดีๆ จาก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ร่วมกับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมจัดเต็มความสุขให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT จัดทริปที่ 5 สถานีอิสรภาพ ‘ตามรอยพระเจ้าตากสิน เที่ยวฝั่งธน ยลฝั่งพระนคร’ ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ เวลา 12.30 – 17.30 น.
. กระตุ้นการท่องเที่ยว จัดเต็มความสุขให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ด้วย 5 ทริป สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ฟรี! ตลอดปี 2565 ชวน ‘เที่ยว-แวะ-แชะ-ชิม’ เปิดมุมมองใหม่ สัมผัสประสบการณ์ประทับใจกับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ตามเส้นทางรถไฟฟ้า 5 สถานี ได้แก่ สถานีวัดมังกร สนามไชย สามย่าน หัวลำโพง และอิสรภาพ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น |
