แม้ผลการสำรวจของ “กรุงเทพโพล”ล่าสุดจะปรากฏออกมาว่าคะแนนและความนิยมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังนำโด่งอยู่ที่ ร้อยละ 15.1 เหนือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
แต่เมื่อถามว่าจะเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองใดมาบริหารประเทศ
คำตอบสูงสุดยังเป็นของพรรคเพื่อไทย
คะแนนและความนิยมในลักษณาการเช่นนี้ล้วนตรงกับการสำรวจของนิด้าโพล และสวนดุสิตโพล ขณะที่คะแนนและความนิยมของพรรคพลังประชารัฐเป็นรองแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์
ความเป็นจริงเช่นนี้จึงมากด้วยความละเอียดอ่อนยิ่งในทาง การเมือง
หากใครที่ติดตามในแต่ละเวทีดีเบตดูเหมือนว่าความเชื่อที่ว่า พล. อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีโอกาสจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีมีสูงอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ยอมรับว่าผลการเลือกตั้งคะแนนนำยังเป็นของพรรคเพื่อไทย
กรรมการบริหารของพรรคพลังประชารัฐเองก็ยอมรับกลายๆว่า คะแนนและความนิยมของพรรคตนเป็นรองพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์
แต่ก็ยังมั่นใจและยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ความมั่นใจเช่นนี้ “หวาดเสียว” อย่างยิ่ง
อาจเป็นความมั่นใจจากบทสรุปที่ว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 250 ส.ว.ที่ตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เพื่อมาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ความห่วงใยที่ว่า ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งก็จะมีปัญหา
จึงเป็นความห่วงใยที่พอจะมองเห็นว่า”ปัญหา”มาจากเหตุปัจจัยอะไร
มาจาก”รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
กับมาจากความไม่สามารถทำให้คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพรรคพลังประชารัฐเป็นอย่างเดียวกัน
