เครือมติชนจัดยิ่งใหญ่ ศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล ‘๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์’ 23-24 มิ.ย.นี้

เครือมติชนจัดยิ่งใหญ่ ศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล ‘๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์’ 23-24 มิ.ย.นี้

เครือมติชน ผนึกกำลังจัดงานใหญ่ สโมสรศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล ‘๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์’ เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติ วันสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จัดเต็ม 6 ไฮไลต์ ระดมนักวิชาการเบอร์ต้นมากสุดขึ้นเวทีทอล์ก, นิทรรศการ ‘เปิดกรุ’ ของหายากยุค 2475 เยอะสุดระดับประเทศ, เทศกาลหนังสือการเมืองจาก 8 สนพ. ชื่อดัง, วอล์กกิ้ง ทริป ย้อนวันย่ำรุ่งประชาธิปไตย, เพลิดเพลินกับปาร์ตี้ย้อนยุค ‘บรรเลงรมย์’ โดย โฉมฉาย อรุณฉาน พร้อมเสิร์ฟเมนูเด็ดยุคสร้างชาติ ร่วมงานฟรี 23-24 มิถุนายนนี้ ที่มติชนอคาเดมี

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการจัดงาน สโมสรศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล ‘๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์’ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายนนี้ ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ว่า เครือมติชนให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรม มาโดยตลอด

Advertisement

 

 

ไม่ว่าจะเป็นพ็อกเก็ตบุ๊กของสำนักพิมพ์มติชน, การจัดวอล์กกิ้ง ทัวร์ ของศูนย์ข้อมูลมติชน (MIC) , ทัวร์รายการต่างๆ ของมติชนอคาเดมี, รายการขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว, โปรเจ็กต์ ‘ทอดน่องท่องฟ้า’ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทยสมายล์ ร่วมกับ ทัวร์เอื้องหลวง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นำรายการ ขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว เปิดให้ผู้โดยสารรับชมบนเครื่องบินไทยสมายล์ ตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมา รวมถึง Knowledge Book Fair เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม และอีเวนต์เสวนา อย่าง สโมสรศิลปวัฒนธรรม

Advertisement

ล่าสุด ในวาระครบรอบ ‘91 ปี 24 มิถุนา’ จะเป็นครั้งแรกที่สื่อในเครือ ได้แก่ ศิลปวัฒนธรรม สำนักพิมพ์มติชน, ศูนย์ข้อมูลมติชน (MIC) และเส้นทางเศรษฐี ร่วมกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ คือ สโมสรศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล ‘๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์’ 2 วันเต็ม ตั้งแต่ 23-24 มิถุนายนนี้

“ย้อนกลับไปในปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงปี 2564 สำนักพิมพ์มติชนตีพิมพ์หนังสือชุด 2475 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี จนเมื่อปี 2565 เราจัดงาน 90 ปี 2475 อภิวัฒน์สยาม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้รับความสนใจล้นหลาม มีผู้เข้าร่วมฟังปาฐกถาพิเศษ, เสวนาวิชาการ และวอล์กกิ้ง ทัวร์เป็นจำนวนมาก ถือเป็นหนึ่งในงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุด นอกจากนั้น ยังทดลองจัดนิทรรศการส่วนเล็กๆ ชื่อว่า ศิลปะ สถาปัตยกรรม สิ่งพิมพ์ คณะราษฎร ในงาน สมานมิตรฯ Return เปิดโกดังหนังสือดี เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จอีกเช่นกัน นำมาสู่การจัดงานใหญ่ในปีนี้ที่มีบรรยากาศทางการเมืองเหมาะสม สำนึกในความเป็นชาติเบ่งบาน จะเห็นได้จากงานวันชาติที่ถูกจัดขึ้นหลายงานในช่วง 23-24 มิถุนายนนี้” น.ส.ปานบัวกล่าว

 

 

สำหรับไฮไลต์ของงาน น.ส.ปานบัวกล่าวว่า งานนี้เป็นการรวมตัวของนักวิชาการแถวหน้าของไทยที่มาร่วมเวที ‘เสวนา ศิลปวัฒนธรรมสเปเชียล’ โดย ศิลปวัฒนธรรม และ Book Talk โดย สำนักพิมพ์มติชน รวมถึง 9 เวที หลากหลายมิติ นอกจากนี้ ยังมี นิทรรศการ ‘เปิดกรุ’ ของสะสมหายาก ยุค 2475 กว่า 250 ชิ้น ที่ไม่เคยจัดแสดงมาก่อน เช่น ขันเงินที่ระลึกงานฉลองรัฐธรรมนูญ ปี 2476, เข็มกลัดที่ระลึกงานฉลองรัฐธรรมนูญ ปี 2476, เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และเข็มกลัดลายพานรัฐธรรมนูญ ที่แจกให้ผู้ปราบกบฏบวรเดช ปี 2476, เหรียญที่ระลึกเปิดอนุสรณ์รัฐธรรมนูญ จังหวัดสุรินทร์ 10 ธันวาคม 2476, กระดุมที่ระลึกงานวันชาติ ปี 2482-2485, กระดุมที่ระลึกรวมไทย 2483 (เรียกร้องดินแดน), ภาพถ่าย, สื่อสิ่งพิมพ์ และโปสเตอร์ เป็นต้น

“งานนี้ยังมีเทศกาลหนังสือการเมือง ‘๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์’ ซึ่งถือเป็นเทศกาลหนังสือการเมืองครั้งแรก โดยสำนักพิมพ์มติชน และ 7 เพื่อนสำนักพิมพ์ คือ สำนักพิมพ์แสงดาว, มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, สำนักพิมพ์ต้นฉบับ, สำนักพิมพ์ยิปซี, สำนักพิมพ์สารคดี-เมืองโบราณ, สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน และสำนักพิมพ์สมมติ มีหนังสือให้เลือกมากมาย ทั้งหนังสือใหม่ หนังสือเก่า หนังสือหายาก หนังสือคลาสสิก เนื้อหาครอบคลุมทุกมิติประเด็นการเมือง

 

“อีกหนึ่งไฮไลต์คือ คอนเสิร์ต ‘บรรเลงรมย์’ โดย คุณโฉมฉาย อรุณฉาน รวมถึงรับชมภาพยนตร์ประวัติศาสตร์อย่างพระเจ้าช้างเผือก และชิมเมนูอาหารยุคสร้างชาติที่คัดสรรโดยเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ อยากชวนทุกคนมาร่วมสัมผัสบรรยากาศการเฉลิมฉลองวันชาติไปด้วยกัน” น.ส.ปานบัวกล่าว
ด้าน นายสุพจน์ แจ้งเร็ว บรรณาธิการนิตยสารศิลปวัฒนธรรม กล่าวว่า เราจัดสโมสรศิลปวัฒนธรรมต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2557 มีการเสวนาในหัวข้อต่างๆ ทุกเดือน เป็นงานเล็กๆ ราว 2-3 ชั่วโมง แต่มีเว้นวรรคไปบ้างในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับปีนี้ เป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองมีความเปลี่ยนแปลง จึงมีการจัดงานใหญ่ในชื่อ ‘สโมสรศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล’ โดยถือโอกาสวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 จัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน

“เราเลือกวันประชาธิปไตย 24 มิถุนายน ซึ่งมีความสำคัญ ถามว่าทำไมเป็นสเปเชียล ประการแรกเพราะเป็นงานใหญ่ต่อเนื่อง 2 วัน และอีกประการเป็นการจัดงานร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักพิมพ์มติชน, ศูนย์ข้อมูลมติชน (MIC), เส้นทางเศรษฐี และอื่นๆ กิจกรรมในงานมีทั้งเสวนาทางวิชาการหลากหลายประเด็น เช่น กำเนิดและสิ้นสุดวันชาติ 24 มิถุนายนโดย ผศ. ดร.ณัฐพล ใจจริง และ ผศ. ดร.ศรัญญู เทพสงเคราะห์ เป็นต้น มีการจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ในยุค 2475 มาให้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็น สิ่งพิมพ์ เหรียญตรา และภาพโปสเตอร์ รวมถึงรายการอื่นๆ ที่หาชมยาก รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘พระเจ้าช้างเผือก’ ที่อาจารย์ปรีดี พนมยงค์สร้าง เราก็เอามาฉายในงานนี้ด้วย”

 

นอกจากนี้ ยังมีการขับร้องบทเพลงและบรรเลงดนตรี โดยเฉพาะเพลงในช่วงหลัง 2475 เป็นต้นมา ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดนตรีไทยเริ่มเปลี่ยนมาเป็นดนตรีสากล มีพระเจนดุริยางค์ เกิดวงดนตรีกรมโฆษณาการ ภาพยนตร์เสียง จึงนำเพลงยุคนั้นที่สะท้อนสังคม เป็นความบันเทิงในยุคนั้น มาให้ฟังแบบได้อารมณ์ ไฮไลต์คือช่วง 17.30 น. เป็นต้นไป ของวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่ง โฉมฉาย อรุณฉาน จะมาร้องเพลง แต่ก่อนหน้านั้นราว 1 ชั่วโมง โฉมฉายจะขึ้นเวทีกับบูรพา อารัมภีร โดยเป็นการพูดคุย เล่าเรื่องเพลงและดนตรีหลัง 2475 ว่ามีความเป็นมาอย่างไร

“ถามว่าทำไมต้องเป็นคุณโฉมฉาย เพราะท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ จบปริญญาเอก อยู่วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ มีความรู้เรื่องเพลงเหล่านี้มาก จะหาคนที่ทั้งร้องได้และเล่าได้ด้วยข้อมูลความรู้จริงๆ นั้นไม่ง่าย แม้เป็นคนในสมัยหลัง แต่เพลงเหล่านี้สืบทอดกันมา นักร้องวงกรมประชาสัมพันธ์ร้องกันได้ และยังทราบที่มาที่ไป รวมถึงความหมายและประวัติ”

นายสุพจน์กล่าวด้วยว่า งานนี้จะช่วยฉายภาพสังคมไทยในยุคนั้นว่าเขาอยู่อย่างไร กินอย่างไร รสนิยม ภาพยนตร์ ดนตรี เป็นอย่างไร นับเป็นงานที่มีความหมายทั้งต่อการรับรู้ และการเรียนรู้ มีทั้งความบันเทิง และสาระข้อเท็จจริง ซึ่งหลายสิ่งเราอาจไม่เคยเห็น ไม่เคยทราบมาก่อน

 

“สโมสรศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล ในครั้งนี้ ไม่ใช่งานย้อนยุคในทางวิชาการเท่านั้น แต่เป็นประวัติศาสตร์สังคม อยากให้มากันเยอะๆ นอกจากเสวนา เพลง ดนตรี และนิทรรศการ ยังมีหนังสือที่น่าสนใจให้เลือกซื้อด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มของสำนักพิมพ์มติชนและในเครือ รวมถึงบูธสำนักพิมพ์พันธมิตร และนิตยสารศิลปวัฒนธรรมฉบับเก่าๆ ที่หายาก เราก็จะนำออกมาจำหน่ายด้วย” นายสุพจน์กล่าว

นายมณฑล ประภากรเกียรติ ผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน กล่าวถึงที่มาของธีม ‘เทศกาลหนังสือการเมือง ๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์’ โดย สำนักพิมพ์มติชน ร่วมกับอีก 7 เพื่อนสำนักพิมพ์ ว่า เทศกาลหนังสือการเมืองฯ นอกจากจะเป็น ‘มาร์เก็ต เพลส’ แล้ว ยังเป็นคอมมูนิตี้ที่เพื่อนสำนักพิมพ์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และนักอ่านกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มาเจอกัน

“นักอ่านมาเจอสำนักพิมพ์ เจอคนทำหนังสือตัวจริง หรือนักอ่านมาเจอนักเขียนที่ติดตามมาตลอด พอเป็นคอมมูนิตี้เราเลยใส่คอนเซ็ปต์เข้าไปด้วย เดือนนี้เป็นเดือนมิถุนายน เป็นเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 91 ปีแล้ว เป็นเดือนแห่งประวัติศาสตร์การเมืองที่สำคัญของประเทศไทยด้วยซ้ำ เราเลยอยากจัดการรวมตัวของบุคคล กลุ่มคนที่สนใจในการศึกษาเรื่องเดียวกันให้มาพูดคุยกัน เพราะนอกจากการซื้อ-ขายแล้ว ยังได้อะไรมากกว่านั้นเยอะ มาพูดคุย ศึกษา มาพบเจอ แลกเปลี่ยนความเห็นกัน เราจึงเลือกจัดงานเทศกาลหนังสือการเมือง ในเดือนสำคัญเดือนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย

“กล้าพูดเลยว่า 2 วันนี้เป็นวันที่เรารวมนักวิชาการ นักเขียน ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเมืองมาเยอะที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศก็ว่าได้ ซึ่งจะมาแลกเปลี่ยนประเด็นที่สำคัญๆ กัน”

 

นายมณฑลกล่าวว่า นอกจากผู้ร่วมงานจะได้รับความรู้เรื่องวันชาติในอดีตว่ามีความเป็นมาอย่างไร และสำคัญอย่างไรกับสังคมไทย ยังจะได้สัมผัสกับกิจกรรมอีกหลากหลาย เช่น อาหารที่เกี่ยวกับคอนเซ็ปต์การเฉลิมฉลองวันชาติในช่วงนั้น มีกิจกรรมฉายภาพยนตร์ ฯลฯ เพราะการเรียนรู้เกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ หรือแม้กระทั่งเรื่องนิทรรศการของสะสมที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะไม่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแน่นอน

“ของสะสมพวกนี้เป็นของสะสมส่วนตัวของนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ยุคคณะราษฎร ไม่ว่าจะเป็น ผศ. ดร.ณัฐพล ใจจริง, คุณนริศ จรัสจรรยาวงศ์, ผศ. ดร.ศรัญญู เทพสงเคราะห์ และคุณอัครชัย อังศุโภไคย ที่จะนำมาจัดแสดงให้ทุกคนชมกันอย่างใกล้ชิด จากที่เก็บเป็นสมบัติส่วนตัวอยู่ที่บ้าน ตลอด 2 วันของการจัดงาน ทุกคนจะได้เห็นหลักฐานยุคนั้นว่ามีอะไรบ้าง และสิ่งของเหล่านี้สะท้อนความคิดและอุดมการณ์ยุคนั้นอย่างไร เป็นมิวเซียมที่อยู่นอกมิวเซียมอีกที เชื่อว่าหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ไปพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศก็ไม่มี”

ด้าน น.ส.กรชุลี เสนะเวส บรรณาธิการเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ระบุว่า เรื่องวัฒนธรรมการกินยุค 2475 และเส้นทางเศรษฐี มีจุดเชื่อมโยงกันในเรื่องอาหาร วัฒนธรรมการกินอาหารในไทยมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โดยครั้งนี้จะเน้นไปที่ยุค 2475 ซึ่งเป็นยุคสร้างชาติ ที่แน่นอนว่าวัฒนธรรมการกินไม่เหมือนปัจจุบัน แต่จะมีเมนูที่ถูกส่งต่อกันมาในยุคนี้ ที่เห็นได้ชัดคือ ‘ก๋วยเตี๋ยว’ เป็นอาหารที่เส้นทางเศรษฐีให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถือเป็นอาหารสร้างชาติในยุคของรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ส่งเสริมให้คนไทยหันมาบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพพลานามัย

 

“ยุคนั้น รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยง ไม่ว่าจะเลี้ยงหมู ไก่ไข่ เป็ด ปลา เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบต่อยอดเป็นอาหาร อย่างก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย ที่มีโภชนาการครบเช่นเดียวกัน เราจึงคัดเลือกเมนูและร้านอาหารมาให้ทุกคนที่ร่วมงานได้ชิมและได้ทำความรู้จักกับรูปแบบอาหารในยุคนั้น ที่นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีความเข้าใจว่าส่งต่อมาจนถึงยุคปัจจุบันได้อย่างไรด้วย”

น.ส.กรชุลี เผยว่า งานนี้ ได้คัดร้านเด็ดมาถึง 8 ร้าน เป็นร้านดังระดับตำนาน รวมเอาเมนูยุคสร้างชาติมาไว้ในงานเดียว ไฮไลต์เด่นๆ เมนูแรก คือ ผัดไทย นำร้านเด็ดอย่าง ‘ผัดไทยโบราณเจ๊นิด ซึ่งเคยมาสอนถ่ายทอดอาชีพที่มติชนอคาเดมี มาออกร้าน เจ้านี้ขายมานาน อยู่ริมคลองบางกอกน้อย ความพิเศษคือเป็นผัดไทยโบราณที่ใส่หมู สูตรสมัยก่อนจะใช้เส้นเล็ก หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ปรุงด้วยซอสมะขามเปียก โรยด้วยกากหมูเจียว ที่สำคัญต้องใส่กุ้งแห้ง นอกจากนี้ ยังมีก๋วยเตี๋ยวร้าน ‘เจริญพุงโภชนา’ เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูเจ้าดังตั้งอยู่บนถนนจันทน์ เคล็ดลับความอร่อยเด็ดอยู่ที่สูตรต้มยำ ที่ดึงคนเข้าร้านอย่างเนืองแน่น
นอกจากอาหารแล้วก็ยังมีขนมหวาน เช่น ‘D.K. เบเกอรี่’ ซึ่งเป็นเบเกอรี่เจ้าแรกๆ ในไทย ตั้งอยู่ใกล้วัดแขก สีลม เปิดมากว่า 70 ปี พูดให้เห็นภาพคือเปิดมาตั้งแต่ยุคที่ยังมีรถรางวิ่ง จนตอนนี้ก็ยังขายอยู่ ถือเป็นร้านเก่าแก่อยู่คู่ถนนสีลมมานาน เมนูเด็ดๆ ที่นำมาขายในงานคือขนมปังไส้สังขยาใบเตย ขนมปังไส้สังขยารสดั้งเดิม รวมถึงเมนูใหม่ที่ปรับตามยุคสมัยโดยทายาทรุ่น 3 ยังมีร้านขนมไทยที่ต่อคิวยาวมากในซอยอารีย์คือร้าน ‘ยายทำให้หลานขาย’ ที่คัดเอาขนมไทยหากินได้ยากมาให้ทุกคนได้อร่อยกัน

“เรายังมีร้านไอศกรีมบ้านแพ้ว เจ้าดังจากตลาดนัดจตุจักรที่เปิดขายมากว่า 10 ปี เป็นไอศกรีมกะทิ รอบนี้เราชวนมาด้วย เขารู้สึกว่าคอนเซ็ปต์ของงานดีก็เลยอยากมาขาย จุดเด่นคือมีท็อปปิ้งให้เลือกมากมาย แต่ตัวเด็ดคือไอศกรีมกะทิสูตรเฉพาะของร้าน ยังมีร้านน้ำลำไย ฟูนัน ที่ตอนนี้น้ำลำไยเป็นกระแสอยู่ เนื้อลำไยทะลักออกมา อย่างงานที่แล้วคือ Upskill Thailand 2023 ‘ถึงรสถึงชาติ’ จัดโดยเครือมติชน ร้านนี้ก็ขายดีมาก ชวนมารอบนี้เขาตอบตกลงทันทีเพราะเดือนที่แล้วขายดีจริงๆ

“อยากให้ทุกคนที่มางานได้ทั้งสาระความรู้ ความเพลิดเพลิน ความสนุกสนาน มารับรส ลองอาหารยุคสร้างชาติว่าจะเด็ดประมาณไหน จะมีเซกชั่น เมนูสร้างชาติ ราษฎรยุค 2475 สมมติว่าฟังจนอินจากตรงนั้นแล้วก็สามารถออกมาชิมผัดไทยโบราณต่อได้ด้วย” บรรณาธิการเส้นทางเศรษฐีออนไลน์เผย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งาน สโมสรศิลปวัฒนธรรม สเปเชียล “๒๔ มิถุนาฯ วันมหาศรีสวัสดิ์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน เวลา 10.00-20.00 น. ที่มติชนอคาเดมี ถ.เทศบาลนิมิตใต้ ซ.12 ประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว ข.จตุจักร กรุงเทพฯ เข้าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสารสาธารณะ และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สถานีวัดเสมียนนารี สอบถามโทร. 0-2954-3977-84

ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกกรรมสามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ http://www.matichonevent.com/24june/ และติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก Silpawattanatham – ศิลปวัฒนธรรม และเว็บไซต์ www.silpa-mag.com

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image