| ผู้เขียน | จันทรพร กุลโชติ |
|---|
เอ่ยชื่อ “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” ยุคนี้ น้อยคนจะไม่รู้จัก
“บิ๊กสีกากี” ผู้มีบทบาทขับเคลื่อนเหตุการณ์สำคัญ คุมหลายคดีใหญ่ในบ้านเมือง
เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ที่มีบทบาทโดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่ง ตลอดห้วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวเป็นเจ้าของนามเรียกขาน “พิทักษ์ 3” ที่คนในวงการสีกากีพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่ง!!
ตั้งแต่เป็น รองผบ.ตร. รับบทหนักกำกับดูแลงานด้านความมั่นคง หน้างานสำคัญในยุค คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) เคยกำกับดูแลหน้างานปราบปรามผู้มีอิทธิพล ปราบปรามการค้ามนุษย์ และปัจจุบันคุมงานด้านกิจการพิเศษ รับผิดชอบงานจราจรในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จึงทำให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นตัวจักรสำคัญ สั่งการสืบสวนสอบสวน สางคดีใหญ่ๆ
“ทำให้สิ้นกระแสความ และว่ากันไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง” เป็นเหมือนวรรคทอง คำสำคัญประจำตัว ของ “บิ๊กสีกากีผู้นี้”
อีกภาพหนึ่งเป็นมือกฎหมาย กูรูด้านการสอบสวนคนหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.นี้
เมื่อการชุมนุมของกลุ่มทางการเมืองตั้งเค้า ความเคลื่อนไหวของแนวร่วมต้านรัฐบาลก่อตัว จะเห็น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ออกนำทัพขึงกฎหมายรับมือทุกครั้งไป คล้ายเป็นมือทำงานคนสำคัญของรัฐบาลคสช. ในการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่กำลังก่อตัวครั้งนี้ก็เช่นกัน!!
ด้วยบทหนัก รับผิดชอบคดีใหญ่ บางเรื่องกระทบความมั่นคง อ่อนไหวทางการเมือง อยู่ท่ามกลางผู้เห็นต่างอุดมการณ์ความเชื่อ หลายเรื่องอ่อนไหวต่อความรู้สึกของคนในสังคม เช่น คดีเสือดำของบิ๊กอิตาเลียนไทย คดีค้ากามน้ำเพียงดิน คดีระเบิดหลายจุดในจังหวัดภาคใต้ คดีเครือข่ายวัดพระธรรมกายฯ การติดตามตัวอดีตนายกรัฐมนตรีฯ หลายครั้ง กระแสตอบรับจากสังคม จึงมิได้มีเพียงดอกไม้ หลายคราที่ได้รับก้อนอิฐ
“มติชน” สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ล้วงลึกตัวตน เรื่องราวชีวิต แนวคิด มุมมองด้านความมั่นคง มุมมองต่อองค์กรตำรวจ ที่ยังไม่มีใครรู้
พล.ต.อ.ศรีวราห์ มีชื่อเล่นว่า “ปู” เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 19 เพิ่งได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาวสาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติประจำปี 2560 รับรางวัลไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่(นรต.) 35 เส้นทางสายสีกากี รับตำแหน่งแรก รองสารวัตรทางหลวง ที่สถานีตำรวจทางหลวงประตูน้ำพระอินทร์ เป็นสารวัตรที่กองตำรวจป่าไม้ ผู้กำกับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นผู้บังคับการตำรวจสื่อสาร ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ตำรวจป่าไม้) ผู้บังคับการตำรวจ 191 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และปัจจุบันเป็นรองผบ.ตร.ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ
“บิ๊กปู” เล่าว่า ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้การฯเรือดำน้ำตั้งแต่เด็ก แต่เพราะ “คุณย่า” อยากให้เป็นตำรวจ จึงเลือกเส้นทางนี้
“เป็นตำรวจเพราะคุณย่าสั่ง ผมอยากเป็นทหารเรือ แต่ในบ้าน ญาติ พี่ น้อง มีครบหมดแล้ว บก เรือ อากาศ แต่ยังไม่มีตำรวจ คุณย่าเลยสั่ง ในตระกูลรังสิพราหมณกุล คุณย่าเล็กเป็นคนสำคัญที่สุด เมื่อเป็นแล้วก็ชอบเพราะทำให้ย่าพอใจ ผมก็ภูมิใจ เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ผมเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีปู่เป็นพราหมณ์ พระมหาราชครูในวังหลวง จึงมีสิ่งค้ำอยู่ว่าตระกูลเรามาอย่างนี้ อย่าไปทำอะไรไม่ดีนะ ผมก็สอนลูกชาย ลูกสาวของผมอย่าไปทำอะไรไม่ดีนะ..”
“พ่อผมเป็นวิศวกร ท่านสอนว่าให้ทำงานไปตามอำนาจหน้าที่ ผมบรรจุเป็นรองสารวัตรทางหลวงประตูน้ำพระอินทร์ ที่นั่นได้ประสบการณ์ เรื่องงานจราจร การทำคดี สมัยนั้นมีโจรกรีดผ้าใบรถบรรทุก พวกคนร้ายจะปิดไฟขับรถกระบะตามประกบรถ 10 ล้อ แล้วเอาไม้พาด ปีนขึ้นไปกรีดผ้าใบ ลักเอาทรัพย์สินบนรถ 10 ล้อ ใส่รถกระบะ ขโมยขณะที่รถกำลังวิ่ง นายเขาก็สอนเวลาเราตามจับ เราก็ปิดไฟตามจับ สังเกตุให้เป็น ตอนนั้นจับได้เยอะ ปะทะก็มี เป็นหมวดใหม่ๆ ได้ทำงาน เป็นพระต้องสวดเป็นตำรวจต้องจับนั่นประทับใจที่สุดแล้ว ได้จับโจร จับผู้ร้าย”
“ผมจบมาทำงานสัปดาห์แรกไปจับรถบรรทุกน้ำหนักเกินของคุณนายภรรยาผู้การฯตำรวจท่านหนึ่ง เป็น 100 คันเลย พอเราจับ ทหาร 200 นาย มาล้อมด่าน ไม่ให้เราจับ พล.ต.อ.อัยยรัช เวสสะโกศล (อดีต รอง ผบ.ตร.) ผกก.ทางหลวงในตอนนั้น ถูกเรียกไปพบผู้การท่านนั้นด่วน สักพักมีคำสั่ง จับให้หมด ฟ้องให้หมด”
พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่าว่า มี พล.ต.อ.อัยยรัช เป็นต้นแบบ
“พล.ต.อ.อัยยรัช ท่านคือครูของผม ท่านสอนว่าตำรวจต้องทำได้ทุกหน้างาน สืบสวน สอบสวน งานป้องกัน ปราบปราบรามม ผมอ่อนบ้างคืองานอำนวยการ สำหรับด้านกฎหมายผมไม่ได้เก่งที่สุด มีคนรู้กฎหมายเยอะกว่าผม ผมก็ต้องหารือเขา ผมจบมาปี 2525 เป็นรองสารวัตรทางหลวง พล.ต.อ.อัยยรัช เป็นผกก.ทางหลวง ได้ท่านเป็นครูบาอาจารย์สอนสั่ง การปฏิบัติของผมที่ผ่านมา เอามาจากที่ท่านเคยสอนทั้งนั้น ผมไม่เคยคิดอะไรใหม่ได้เอง ท่านสอนให้ปฏิบัติ มีพล.ต.อ.สมชาย วาณิชเสนี พล.ต.อ.สมชาย มิลินทางกูร สอนงานสืบสวน ด้านสอบสวน มี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ พล.ต.อ.ไพบูลย์ อาริยวัฒน์ เป็นครู ท่านเก่งด้านกฎหมาย ผมเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในการทำสำนวนและจากผู้ที่มีความรู้ในระดับตร. ช่วยชี้แนะ”
เมื่อถามว่า ใครๆก็บอกเป็นคนของ คสช.และถูกวางตัวให้ดูงานด้านความมั่นคง พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่า ใครก็ ทำได้ อย่าเรียกว่าวางตัวเลย
“ท่านผบ.ตร.ไม่ว่าผบ.ตร.สมยศ (พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ผบ.ตร.จักรทิพย์(พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา) ท่านเห็นว่าผมพอทำงานเรื่องสอบสวนได้ ท่านก็มอบหมายไม่ได้มีอะไรพิเศษ ถ้าใช้คำว่าวางตัวมันจะทำงานได้หรือไม่ไม่เป็นไร (หัวเราะ) แต่นี่เขามอบงานที่เห็นว่าทำได้มา ก็น่าจะเพราะได้รับความไว้วางใจ 2 ผบ.ตร.แล้ว ที่เห็นว่าผมพอมีความรู้ด้านนี้”
บิ๊กปู ยอมรับว่า ทำคดีใหญ่ๆมากมาย เสียงตอบรับจากประชาชนมีทั้งด้านบวกและด้านลบ และบางครั้งก็ถูกโจมตีในโลกโซเชียล
“มุมมองของชาวบ้านมีทั้งบวกและลบแต่เราก็ยืนยันทำอะไรตามกฎหมายและระเบียบที่มีอยู่ เพราะว่าเราดูแลกติกาบ้านเมืองกับคนทั้งประเทศ จำเป็นต้องรักษากติกาให้ตรงไปตรงมา ไม่ว่าสถานการณ์ไหนกติกาก็ไม่ต่างกัน กฎหมายก็เหมือนกัน ไม่มีอะไรต่าง เพียงแต่คุณจะรักษากติกาหรือไม่”
“พ่อผมบอกว่า ไม่เป็นตำรวจไม่อดตายหรอกลูก พ่อสอนผมมาตั้งแต่เป็น ร.ต.ต. ว่า ให้ทำตามกฎหมายและระเบียบ มันจะเจออุปสรรคอะไรก็ว่ากันไป อย่าไปทำอะไรผิด แล้วถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วไปเจอตอ ก็อย่าคิดอะไรมาก เราเดินหน้าได้อย่างเดียว ตามกฎหมายและระเบียบ”
“ผมมีหน้าที่ดูแลกติกาทั้งประเทศ จำเป็นต้องรักษากติกาไว้ ส่วนความเข้าใจของโลกโซเชียลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”
เมื่อถามว่าหวั่นไหวกับกระแสสังคมแรงๆที่บางครั้ง ไม่ไว้ใจ ถึงขั้นทำแคมเปญ “ไม่เอาศรีวราห์” บ้างหรือไม่
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ตอบในทันที ว่า ยินดีรับความเห็น
“ไม่ให้ผมทำผมก็สบาย ไม่ต้องรับผิดชอบ (หัวเราะอารมณ์ดี) ผมยิ่งชอบเลย ถ้าผู้บังคับบัญชาบอก เฮ้ย! ศรีวราห์ไม่ต้องทำแล้ว ผมจะหัวเราะ ฮิเลย โอ้โหพ้นเวรพ้นกรรมไปได้ (หัวเราะ) ต้องขอบคุณโซเชียลเลย นี่คือความคิดผม ถ้าเขามาบอกว่าไม่ให้ทำเพราะโซเชียลบอกไม่เอาคุณ ผมนี่ขอบคุณเลยกราบขอบพระคุณ อย่างสูงเลย”
“ไม่ใช่ไม่อยากทำงาน ไม่มีปัญหาอะไร ก็เราทำงานตามเนื้อผ้าให้ดีที่สุดตามกฎหมายและระเบียบ ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่าไปทำนอกกติกา”
กับคำถามว่าที่ ผลงานมากมาย รับผิดชอบงานใหญ่ งานสำคัญ ในวงการตำรวจวิจารณ์ว่าเพราะเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ถูกวางตัวเป็นผู้นำคนต่อไป
บิ๊กปู ตอบเหมือนเช่นทุกครั้ง ว่า จะได้เป็นผบ.ตร.หรือไม่ อยู่ที่ผู้บังคับบัญชา
“ผมว่าไม่ใช่เรื่องวางตัว เป็นผบ.ตร.หรือไม่ อยู่ที่ผู้บังคับบัญชาพิจารณา เราไปแต่งตั้งตัวเองไม่ได้ คาดหวังตัวเองไม่ได้”
“โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่เคยสอนว่าจบมาแล้วคุณต้องเป็นนั่นเป็นนี่ ไม่เคยมีสัญญาว่าจบแล้วคุณจะได้ตำแหน่ง หรืออยู่ที่นั่นที่นี่ โรงเรียนไม่เคยสอน ผมไม่คิดอะไร พร้อมจะปฏิบัติตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการ ส่วนการทำงานอย่างที่เรียนไปแล้ว พ่อผมบอกว่าไม่เป็นตำรวจเราก็ไม่อดตาย ผมแค่ทำงานให้ดีที่สุด เท่าที่เรามีอำนาจหน้าที่ เพื่อไม่ให้เสียหายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเรา”
เมื่อถามว่า เรื่องการเมืองภายในองค์กรมีข่าวลือถึงรองศรีวราห์ตลอด เรื่องสัญญารับตำแหน่งผบ.ตร.ต่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ นรต.รุ่นน้อง?
บิ๊กปู บอกว่า ข่าวลือก็ข่าวลือทำอะไรเราไม่ได้หรอก เราก็ทำงานไป
“เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา ที่จะพิจารณา ผมหรือ ผบ.ตร.พิจารณาตัวเองไม่ได้ ที่ทำตอนนี้ ทำตามกฎระเบียบที่เขียนไว้ ผบ.ตร.มีหน้าที่อะไร รองผบ.ตร.มีหน้าที่อะไร ทุกคนก็ทำไปตามนั้น”
“ผมยืนยัน ผมกับผบ.ตร.รักกันดี ไม่ได้มีอะไรตามกระแส แก่งแย่งกันไม่มีหรอก ไปถามท่าน ท่านก็คงไม่มีเหมือนกัน ผมยืนยันว่าท่านตอบว่าไม่มี ทุกคนช่วยกันทำงาน เพื่อประชาชน เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเพื่อรัฐบาล ผมกับผบ.ตร.จักรทิพย์ เราทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เป็นพ.ต.ท.ที่กองปราบแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาทำงานด้วยกัน”
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ใครๆก็กล่าวถึงว่าบิ๊กปูเป็น “น้องรัก”
“อ๋อ เราก็ทำงานไปตามหน้าที่ แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งการให้ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ ส่วนใครจะมองว่าอะไรอย่างไร ก็เป็นสิทธิของคนมอง แต่ผมเรียนว่าผมทำไปตามอำนาจหน้าที่ ที่มีอยู่” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว และว่าการรายงานตรงบิ๊กป้อมเป็นเรื่องรูทีน
“ไม่เท่าแต่ผม รองผบ.ตร.ทุกคนรายงานได้ แต่ปกติเราจะรายงานผ่านผบ.ตร. เว้นแต่ผู้บังคับบัญชาเรียกไปสอบถามตรง ก่อนไปรายงานท่านเราจะรายงาน ผบ.ตร.ก่อน ว่าจะไปรายงานเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่มีเรื่องออฟไซท์ เป็นข้าราชการแต่งเครื่องแบบ มียศ ไปทำอย่างนั้นไม่ได้ ต้องทำตามกฎและระเบียบ”
ก่อนไขที่มาของ นิยาม “น้องรักบิ๊กป้อม” ว่า เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปี ก่อน
“ก็ผมรับใช้ท่านมาพอสมควร ทำงานกับท่าน ตั้งแต่ปี 2551 สมัยผมเป็นผบก.191 ตอนนั้นท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมั้ง ได้ทำงานกับท่านเรื่องม็อบ งานเกี่ยวพันกัน”
ถามว่าภาพจำตอนเป็น พล.ต.ต.ศรีวราห์ เป็นผบก.191 นำกำลังทลายที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์คนเสื้อแดง ทำให้ถูกมองว่าเป็นคนของรัฐบาลในตอนนั้น จนมาถึงคสช.ในตอนนี้ หรือไม่
บิ๊กปูยิ้มกว้าง และว่า “ผมเป็นตำรวจ มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย รักษากติกา ถ้าไปศึกษาให้ดี อิมพีเรียลของเสื้อแดงผมก็จับ พันธมิตรปิดสนามบินผมก็จับ ผมทั้งจับทั้งทำสำนวนทั้ง 2 สำนวนเลย ใครจะจำผมตอนทำอะไร มันแล้วแต่กระแส แล้วแต่มุมมอง แต่ในกฎหมายไม่มีเสื้อเหลือง เสื้อแดง รวยหรือจน ทำผิดหรือไม่ทำผิด เราแค่รักษากติการับใช้กฎหมายไป”
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยอมรับว่า ตัวเองเป็นคนเข้มงวดกับตำรวจด้วยกัน
“ผมเข้มงวดกฎหมายและระเบียบ ตราบใดที่คุณเป็นตำรวจต้องอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ถ้าคุณไม่แม่นกฎหมายและระเบียบ ผมถามว่าคุณจะไปอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนอย่างไร ผมยืนยันนะ จนกว่าผมจะเกษียณฯ ผมจะเป็นแบบอย่างให้ตำรวจเห็นว่าคุณต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบ ผมจะเป็นแบบนี้เคร่งครัดแบบนี้ ถือว่าเป็นการสอนผู้ใต้บังคับบัญชาไปในตัว คุณเป็นตำรวจคุณสมควรทำตัวแบบนี้ เพราะทุกเรื่องคือความสงบสุขของประชาชนทั้งสิ้น ผมไม่เคยไปทำอะไรนอกแบบให้ประชาชนเดือดร้อน โดยรวมนะ โจร คนที่ไม่ชอบใจอาจเดือดร้อน แต่ประชาชนโดยรวมได้รับประโยชน์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ ไม่ทำอะไรนอกกฎหมายบ้านเมือง”
เป็นรองผบ.ตร.ที่ คุมความมั่นคงต่อเนื่องมาหลายปี จะไม่ถามเรื่องความมั่นคง คงไม่ได้ “บิ๊กปู” ยอมรับว่า เรื่องที่ห่วงกังวลมากที่สุด คือปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้
“มันลุกลาม งานความมั่นคงคือป้องกัน ป้องกันไม่ใช้เกิด ป้องกันให้เข้มแข็ง ทุกวันนี้ คสช.ใช้กำลังพลไปจำนวนมากในงานป้องกัน ซึ่งชาวบ้านไม่ทราบ เราเปิดเผยไม่ได้ ยืนยันว่า รัฐบาลใช้กำลังเยอะมาก เราทำงานหนักในการดูแลด้านความมั่นคงให้กับพี่น้องประชาชน”
“จะสงบหรือไม่มันต้องอาศัยเวลาตามสมควร แต่เขาก็พยายามแก้อยู่ แต่เพราะมันเป็นเรื่องความเชื่ออาจผสมโรงเรื่องผลประโยชน์ ความเชื่อเรื่องแบ่งแยกดินแดนศาสนา ลัทธิ ความเชื่อว่าถ้าฆ่าตายแล้วไปสวรรค์ สรุปเพราะความเชื่อไม่เหมือนกัน” พล.ต.อ.ศรีวราห์ อธิบายต่อว่า ยังมีเรื่องยาเสพติด ค้าอาวุธ มีผลประโยชน์แอบแฝง เดินมาอย่างนี้ตั้งแต่ปี 2547
“จะตอบว่าขยายตัวหรือไม่ตอบลำบาก แต่ที่แน่ๆยังไม่หยุด ตลอดกว่า 10 ปีก็แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง โดยในปีหลังๆการบังคับใช้กฎหมาย ออกหมายจับ ศาลลงโทษในอัตราส่วนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนปี 2557”
“ให้ประชาชนสบายใจได้ ว่ายังไงฝ่ายรัฐบาล คสช. กำชับป้องกันดูแลให้ประชาชนมีความสุขที่สุดเท่าที่ทำได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ที่ต้องกังวล เพราะนี่คือชีวิตเลือดเนื้อประชาชน เราสวมเครื่องแบบอยู่เราต้องทำ”
เมื่อถามถึงความมั่นคงทางการเมืองตั้งแต่ปี 2557
พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่า สำหรับตำรวจไม่มีปัญหาอะไร เพราะว่าทั้งหมดอยู่ภายใต้บังคับของคำสั่ง คสช.ที่ 3 /2558 อยู่แล้ว และการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
“ผมไม่รังเกียจที่จะเคลื่อนไหว แต่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและอย่าไปชักศึกเข้าบ้าน หรือเปิดช่องให้เขาตี การชุมนุมเป็นเป็นสิทธิตามรัฐธรรนูญ การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิของคนไทยทั้งประเทศ แต่ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย และอย่าไปเปิดช่องให้มือที่ 3 มาฉวยโอกาส”
“ผมบอกไปแล้วว่ารัฐบาล ใช้คนจำนวนมากในการดูแลความมั่นคง เราเห็นอยู่แล้ว ไม่เห็นได้ไง ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ทุกคนเป็นประชาชนพยายามทำเพื่อส่วนรวมแล้วกัน อย่าไปทำอะไรแอบแฝงเรื่องส่วนตัว”
“ถ้าไม่มีคำสั่งคสช. การบังคับใช้กฎหมายก็จะยากขึ้น แต่ไม่หวั่นหรอก กฎหมายมุมอื่นยังมีอยู่ ตอนนี้ตำรวจมีทหารเป็นเพื่อนดำเนินการ ตำรวจเรามีพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะในการควบคุม แต่ถ้าเรามีคำสั่งคสช. ก็เหมือนมีกองทัพเป็นเพื่อนในการดำเนินการ กองทัพมีงบปรนะมาณมากกว่าตำรวจเยอะ”
“ใครจะเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวไป เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต่องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย คนที่มีฐานะเป็นแกนนำต้องดูอย่าเปิดช่องให้เขาตี ถ้าชุมนุม ก. แต่คนอื่นเอาไปใช้ในมุม ข. ไม่ถูกวัตถุประสงค์ของท่าน พึงระมัดระวังไว้ด้วยเพราะท่านกำลังนำคนกลุ่มหนึ่งมาสู่ความขัดแย้ง”
“ที่ดำเนินคดีแกนนำ เพราะกฎหมายบอกอยู่แล้ว เจอความผิดซึ่งหน้าให้จับ ถ้าไม่ผิดซึ่งหน้า หรือต้องรอการสอบสวน ก็ต้องทำโดยเร็วมิชักช้า การดำเนินคดีไม่ได้รีบอะไร เป็นไปตามกฎหมาย”
เมื่อถามถึงการเลือกตั้ง ตามโรดแมปในต้นปี 2562
รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคงบอกว่า ไม่ขอพูดเรื่องโรดแมป แต่มองว่า ประเทศไทยพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง
“ผมว่าพร้อมนะครับ สถานการณ์ความมั่นคง ในปี 2562 ผมว่าโอเค แต่จะมีหรือไม่ มันเป็นความเห็นต่าง แต่เรื่องมีอาวุธจะใช้ยิงกัน ฆ่ากันน่าจะลดลง ถึงแม้ว่าทางสืบสวนจะมีกลุ่มคนที่มีอาวุธที่เรายังจับไม่ได้อีกส่วนหนึ่ง ผมตอบไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไร แต่เขาคือมือที่ 3 ที่จะสร้างความวุ่นวาย เป็นกลุ่มอำนาจเดิมที่เรามีฐานข้อมูลอยู่ ตอบไม่ได้ว่ากลุ่มไหน แต่เป็นกลุ่มก่อเหตุเดิมๆตามแผนประทุษกรรม เพราะในแผนไม่มีเสื้อเหลืองเสื้อแดง”
“อย่าซ่องสุมอาวุธ เราพบแหล่งสุม แหล่งฝึกที่ไหนเราก็ไปจับกุม บังคับไม่ให้มีอาวุธเป็นหลัก คุณจะมีการชุมนุม ไม่มีคันธงปืน ก็ไม่เสียหาย ไม่เผาไม่ทำลายกันก็ไม่เท่าไหร่ ตราบใดมีอาวุธนั่นคือจราจล สงครามกลางเมือง มันไม่ใช่รัฐธรรมนูญ มีน้ำมัน มีอาวุธ แบบนี้ไม่ใช่การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ผู้ชุมนุมเข้าใจกฎหมายด้วยเพราะตำรวจฝ่ายปกครองมีหน้าที่ดูแลความสงบสุข ของพี่น้องประชาชนให้มีความสุขในชาติให้มากที่สุด”
คุยกับ รองผบ.ตร. หากไม่ถามเรื่อง ปฏิรูปตำรวจ ก็คงตกกระแส “บิ๊กปู” แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า
“ผมยังไม่ทราบว่าเขาจะปฏิรูปไปทางไหน แต่ผมยืนยันระบบเดิมมันใช่ได้อยู่แล้ว มันอยู่ที่ตัวบุคคล อยู่ที่รัฐบาล จะเห็นความสำคัญของตัวบุคคลแค่ไหนอย่างไร คิดจะปฏิรูปให้สวยหรูยังไง ก็แล้วแต่ แต่ถ้าผู้ปฏิบัติไม่เอาด้วยมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร แล้วที่ผมรับราชการมา 30 กว่าปี ผมว่ากฎระเบียบที่มีอยู่ตอนนี้มันโอเคแล้ว รับได้ปฏิบัติได้ อย่างเช่นจะปฏิรูปงานสอบสวนหากเอาออกจากการตำรวจ นี่ผมไม่เห็นด้วยอย่างร้ายแรง ถ้าทำ คุณกำลังทำผิดอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติ ผมพูดแบบนี้มาครึ่งปี เพราะงานสอบสวนคือส่วนหนึ่งของงานป้องกัน ปราบปราม 90เปอร์เซ็นต์ของการจับกุมเอาผิดคนร้าย มาจากการสืบสวนและสอบสวน การปฏิรูปตำรวจต้องทำให้เขากินดีอยู่ดีก่อน เงินประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวนได้เท่าไหร่ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ อัยการทำหน้าที่ใกล้เคียงกัน แล้วค่าตอนแทนหละ ตำรวจได้รับไม่เท่าที่ควร ไม่เป็นไปตามที่สากลควรจะเป็น”
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทิ้งท้ายว่า ทำงานหลายด้าน รับผิดชอบเรื่องหนัก ก็ไม่เหนื่อย สิ้นเดือนกันยายน 2562 ก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ตอนนี้เมื่อผู้บังคับบัญชามอบหมายก็ทำได้ ตามที่ความรู้ความสามารถมี
เป็นหลายคำถาม หลากคำตอบจาก “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่สะท้อนตัวตน เห็นความคิด เปิดมุมมอง ให้ได้รู้จักนายตำรวจผู้นี้มากยิ่งขึ้น!?
