เดินหน้าสร้างเด็กดี เรื่องราวของ ‘Day Care นมแม่’ หน้าต่างแห่งโอกาส วาดอนาคตเด็กไทย

เดินหน้าสร้างเด็กดี เรื่องราวของ ‘Day Care นมแม่’ หน้าต่างแห่งโอกาส วาดอนาคตเด็กไทย

‘เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า’
‘เด็กคืออนาคตของชาติ’
หรืออีกหนึ่งประโยคสุดคลาสสิก ‘เด็กคือผ้าขาวแสนบริสุทธิ์’

‘สถาบันครอบครัว’ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลเด็กให้เติบโตไปเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงในสังคม โดยเฉพาะการดูแลเด็กที่มีช่วงอายุต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าจุดไหนคือสิ่งที่ยาก เลี้ยงเด็กก็คงเหมือนกันหรือเปล่า…แต่แท้ที่จริงแล้ว เด็กในช่วง 3 ปีแรก เป็นช่วงวัยที่มีความมหัศจรรย์ในการสร้างรากฐานความมั่นคงทางด้านนิสัย และชีวิตในอนาคตมากที่สุด พูดให้เข้าใจง่ายคือ ‘ทำตอนเด็กง่ายกว่าตอนโต’ การจะพัฒนาเด็กให้เติบโตอย่างมั่นคง แข็งแรง สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็กเล็กในวัยนี้คือ อาหารที่เหมาะสมต่อวัยอย่าง ‘นมแม่’ และนำมาสอดประสาน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย ซึ่งจะสามารถเติมเต็มช่องว่างการดูแล และพัฒนาเด็กไทยให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ

นมแม่สำคัญอย่างไร ‘ศ.คลินิก พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร’ ผู้จัดโครงการสร้างสุขภาวะเด็กไทยด้วยนมแม่ฯ และประธานคณะทำงานพัฒนาสวนเด็กสุนทราเวช เล่าว่า “ข้อมูลตามวิชาการยืนยันว่าถ้าลูกได้ดื่มนมแม่ ลูกมีโอกาสฉลาด และยิ่งได้กินมากยิ่งมีโอกาสฉลาดมาก วิธีสนับสนุน ที่เด็กจะสามารถกินนมแม่ได้ครบ 6 เดือน แม้คุณแม่จะไม่ได้ดูแลลูกด้วยตนเองก็ตาม คำตอบคือ มี Day Care คุณภาพ ใกล้บ้านหรือในที่ทำงาน”
มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย พร้อมผลักดัน “Day Care นมแม่” สู่การสร้างเสริมพัฒนาการเด็กไทยที่มีอายุระหว่าง 3 เดือน ถึง 3 ปี ผ่านการเลี้ยงดูคู่เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ จับมือกรมอนามัย และแพทย์ พยาบาล ขับเคลื่อนต้นแบบสถานพัฒนาเด็กเล็ก ที่เน้นนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน

Advertisement
สวนเด็กสุทธาเวช โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

สำหรับ Day Care ต้นแบบ ที่มีโอกาสแลนดิ้งถึงขอนแก่น บึ่งรถไปมหาสารคาม เพื่อสำรวจ Day Care นำร่อง “สถานที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กรมอนามัย และสวนเด็กสุทธาเวช โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม” ทั้งสองแห่งนี้เป็น Day Care คุณภาพที่พร้อมจะเป็นต้นแบบในการขยายผลการดูแลเด็กเล็กโดยเน้นในเรื่องของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน และการเลี้ยงดูคู่เรียนรู้ที่เหมาะสมกับพัฒนาการเด็ก

สถานที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น
สถานที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น

‘ปิติพร เบญจจินดา’ พยาบาลวิชาชีพ และหัวหน้าศูนย์สวนเด็กสุทธาเวช เผยเรื่องราวความท้าทายในการดูแลเด็กในช่วงวัยนี้ว่าสิ่งแรกคือ ‘ผู้ปกครอง’ เพราะการจะทำให้เข้าใจในหลักสูตรการเรียนการสอน เป็นเรื่องที่ท้าทายมากกว่าความยากในการดูแลเด็กเล็ก จึงมีการจัดหลักสูตรให้ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรม ‘โรงเรียนพ่อแม่’ เพื่อสร้างเสริมความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง
“ผู้ปกครองจะต้องเข้ากิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่กับเราอยู่เป็นระยะ เพื่อที่จะได้รู้ว่าทำไมเราถึงต้องให้เด็กลากกระเป๋าเข้าโรงเรียนด้วยตัวเอง ทำไมถึงให้เด็กทำทุกอย่าง เพราะว่าเราต้องเปิดให้เด็กพึ่งพาตัวเองได้ เพื่อให้เด็กรู้ว่าเขามีศักยภาพที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการสื่อสารกับผู้ปกครองก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ท้าทาย คือเราจะทำอย่างไรให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในกระบวนการฝึกเด็ก ดังนั้น อยู่ที่บ้านจะต้องเชื่อมโยงกัน เช่น เด็กกินข้าวด้วยตัวเอง และพอกลับไปถึงบ้านก็ต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้ทำ”

สวนเด็กสุทธาเวช โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

นอกจากความท้าทายในเรื่องผู้ปกครองแล้ว ‘ครูพี่เลี้ยง’ ก็เป็นเรื่องสุดท้าทายที่เธอยกให้เป็นอันดับหนึ่ง
ปิติพรเผยว่า แม้เราจะได้ครูปฐมวัยมา แต่ส่วนใหญ่จะถูกสอนมาแบบครูอนุบาล คือเด็กในช่วงอายุ 3-5 ปี ซึ่งเด็กที่อายุต่ำกว่าอย่างศูนย์ของเรา จะต้องให้ครูของเราจัดกิจกรรมตามความสนใจของเด็ก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เด็ก 50 คนมานั่งล้อมวงทำกิจกรรมเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นครูต้องปรับทัศนคติของตัวเอง ต้องเข้าใจก่อนว่าเด็กมีความสนใจเป็นรายบุคคล ครูต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็กที่วัยต่ำกว่าสามขวบ

Advertisement

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ที่หลายคนอาจกังวลเรื่องผลกระทบว่าเด็กใกล้ชิดกับครูพี่เลี้ยงมากเกินไป จนในที่สุดจะห่างเหินกับผู้ปกครอง ในฐานะครูพี่เลี้ยง เธอยืนยันว่า “ไม่กระทบ”
“ความสัมพันธ์ของครอบครัวบอกเลยว่าสำคัญอันดับหนึ่ง เด็กอยู่กับเราแค่ 8 ชั่วโมง ส่วน 6 ชั่วโมงอยู่กับที่บ้าน และร่วมช่วยกันส่งเสริมศักยภาพลูกของตัวเอง จะทำให้ศักยภาพของเด็กเพิ่มมากขึ้น และอีกอย่างหนึ่งคือเรามีนโยบาย ไม่ได้แยกจากผู้ปกครอง เรามีห้องเด็กเล็ก คุณแม่สามารถเข้ามาให้นมลูก สะดวกช่วงเวลาไหนสามารถนัดกับครูพี่เลี้ยงได้เลย ซึ่งเด็กก็จะได้รู้สึกคุ้นเคยกับผู้ปกครอง”

สวนเด็กสุทธาเวช โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

“เรามีพื้นที่สำหรับผู้ปกครอง สามารถเข้ามาทำกิจกรรมกับลูกได้ เราจะมีการสื่อสารระหว่างครูประจำชั้น และผู้ปกครองเสมอ ผ่านไลน์บ้าง หรือสมุดบันทึกพัฒนาการ” และที่สำคัญ การจะเป็น Day care นมแม่ที่สมบูรณ์ นมแม่คือปัจจัยหลักในการพิจารณาเพื่อรับเด็กเข้ามาดูแล คุณแม่จะต้องเรียนรู้การเก็บนม ปั๊มนม เพื่อเตรียมตัวสำหรับการส่งลูกเข้าเรียน

‘พญ.ศิริพร กัญชนะ’ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้มูลนิธิศูนย์นมแม่ได้สร้างกลุ่ม Day Care ต้นแบบขึ้นมาจำนวน 7 แห่ง เพื่อเป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำเพื่อขายผลให้กับองค์กรส่วนภูมิภาค และได้ร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมไปถึงความพยายามที่จะขับเคลื่อนกฎหมายลาคลอดให้เพิ่มเป็น 6 เดือน เพื่อสนับสนุนให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ

พร้อมกับความหวังว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนนี้ รัฐบาลจะเห็นประโยชน์ และเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง ให้กับอนาคตของชาติ บรรลุวิสัยทัศน์ Day Care คุณภาพ ใกล้บ้านทั่วประเทศ ที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพเด็กให้แข็งแกร่งทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ นำมาซึ่งอนาคตแสนมหัศจรรย์ของสังคม นี่คือสิ่งที่อยากจะขอ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image