เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน #โอกาสที่เท่าเทียม

เนื่องใน วันสิทธิเด็กสากล 20 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันครบรอบของการรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ยูนิเซฟเปิดตัวภาพยนตร์เนื่องในวันเด็กสากล เรื่อง “ดิ แอสแซสซิน 2” ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีนีม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และจัดเวทีสิทธิเด็ก โดยมีตัวแทนเด็กและเยาวชนกว่า 200 คน จากสภาเด็กและเยาวชนและเครือข่ายเยาวชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม และพิธีประกาศเจตนารมณ์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก ที่รัฐสภา

ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ คงเดช กี่สุขพันธ์ ผู้แทนองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย หรือยูนิเซฟ กล่าวว่า ทุกวันที่ 20 พฤศจิกายนถือเป็นวันเด็กสากล และวันสิทธิเด็กสากล เพื่อให้ระลึกถึงสิทธิที่เด็กควรได้รับตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งประเทศไทยได้ลงนามให้สัตยาบันเมื่อปี 2535

แต่แม้จะลงนามในสัตยาบันแล้ว แต่ใช่ว่าเด็กจะรู้ถึงสิทธิที่ตนมี

Advertisement

คงเดชเผยว่า เด็กในแต่ละพื้นที่ขอไทยพบเจอกับปัญหาที่แตกต่างกัน ที่เห็นได้ชัดคือเด็กไทยไม่รู้ว่าทุกคนเป็นสมาชิกสภาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ หรือไม่รู้ว่าหากพบกับความรุนแรง ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เรามีกฎหมายคุ้มครองเด็กที่คอยปกป้องเขาอยู่ นอกจากนี้จากการที่นำเด็กไปจัดประชุมสภาเด็กที่รัฐสภา เราได้เห็นเด็กจากภูมิภาคต่างๆ สะท้อนปัญหาของเขา เช่น เด็กชนเผ่า หรือลูกของแรงงานต่างด้าว ไม่มีสูติบัตรแม้จะเกิดเมืองไทย ทำให้เข้าไม่ถึงสิทธิทางการศึกษา

ซึ่งปัญหาเหล่านี้เด็กพร้อมจะสะท้อนปัญหาเสมอหากได้โอกาส

Advertisement

“สิ่งที่เราควรทำจึงควรมีช่องทางให้เด็กสะท้อนปัญหา และออกแบบทางออกสำหรับเขา ให้ไม่เชยเกินไป อย่างยูนิเซฟเราทำงานกับเด็กโดยตรง ก็เลือกทำเพจยู รีพอร์ต ที่เป็นโมเดลทั่วโลกทำกัน เพียงแค่เด็กกดไลค์ ลงทะเบียนผ่านเพจ เราจะส่งคำถามให้เด็กตอบผ่านทางแชต ทำให้ได้คำตอบชัดเจน ตอนนี้มีสมาชิกแล้วกว่า 3,000 คน ผลตอบรับ 50% ทำให้รู้ว่าเด็กอยากจะบอกเรื่องราวของเขา” คงเดชเผย

ขณะที่ตัวแทนเยาวชนอย่าง รวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ หัวหน้าสำนักสนับสนุนการลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ สถาบันยุวทัศน์ เผยถึงปัญหาของเด็กกิจกรรมว่า เด็กทุกคนมีพลังอยากจะลุกขึ้นมาทำอะไรหลายๆ อย่าง ติดที่ว่าเขายังไม่เห็นโอกาสของตัวเอง จากที่ทำงานมาเด็กต้องเข้าหาผู้ใหญ่ ไปเสนอสิ่งต่างๆ ให้เขาได้รู้ก่อนเสมอ รวมถึงมุมมอง ทัศนคติที่แตกต่างกัน ที่สำคัญคือเรื่องของเงินในการทำกิจกรรม เพราะเด็กๆไม่มีรายได้ หากต้องนำเงินตัวเองมาทำกิจกรรมก็ยากที่เด็กๆ จะลุกขึ้นมาทำ

“เป็นสิ่งที่อยากสะท้อนปัญหา และขอโอกาสในการเริ่มต้นทำเพื่อส่วนรวมของเด็กๆ” รวิศุทธ์กล่าว

รวิศุทธ์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image