อินดัส Indus ร้านอาหารอินเดียชั้นเลิศ จากทั่วทั้งดินแดนภารตะ : คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

เคบับ อี- มาลัยKebab

ร้านอาหารอินเดียประเภทไฟน์ไดนิ่งชั้นเลิศในกรุงเทพฯมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง นับเป็นจำนวนน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นและอิตาเลียน ปิ่นโตเถาเล็กเป็นคนที่ชอบอาหารอินเดียเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว มีร้านอินเดียอยู่เจ้าหนึ่งซึ่งเป็นร้านโปรดของผมมานาน โดดเด่นในเรื่องรสชาติและบรรยากาศกลิ่นอายแบบภารตะ เปิดมานาน 14 ปี ร้านนี้มีชื่อว่า อินดัส (Indus) อยู่ใน ซอยสุขุมวิท 26

อินดัส (Indus) ตั้งชื่อตาม อารยธรรมอินดัส (Indus Civilization) ในยุคสำริด (Bronze Age)เมื่อราว 5,000 ปีที่แล้ว ที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอินเดีย ซึ่งพวกเราชาวไทยรู้จักกันดีในชื่อว่า “อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ”

เคบับ อี มาลัย

มาอินดัสแล้วจะได้ลิ้มลอง อาหารอินเดียจากหลายรัฐทั่วประเทศทั้งตอนเหนือและตอนใต้ รวมทั้งอาหารของนิวเดลี เมืองหลวงด้วย เห็นเป็นอาหารอินเดียอุดมด้วยนมเนย แต่อินดัสนั้นคำนึงถึงสุขภาพ ด้วยการใช้น้ำมันรำข้าวในการปรุงอาหาร แทนที่จะใช้กี (Ghee) หรือเนยใส แต่ยังคงไว้ซึ่งความโอชะไม่เปลี่ยนแปลง

ร้านนี้ดูดีทุกมุมมอง มีมุมสวนสวยด้านนอก โรแมนติกได้หลายรูปแบบ ควรเดินชมให้ทั่วก่อน ว่าอยากนั่งในบรรยากาศแบบไหน อยากจัดเลี้ยงในห้องส่วนตัวก็มีเช่นกัน ส่วนเรื่องที่จอดรถนั้นจอดได้นับสิบคัน ถ้าเต็มแล้วยังมีบริการ Valet รับรถไปจอดบนตึกให้ด้วย

Advertisement

แค่เห็นประตูทางเข้าร้าน ก็เกิดความประทับใจหลงใหลไปกับประตูไม้แกะสลักลวดลายที่นำมาจากพระราชวังฤดูร้อนของมหาราชาแห่งราชสถาน เข้ากันดีกับผนังหินทรายและกลิ่นอายการตกแต่งข้างในร้านในสไตล์อินเดียตอนเหนือยุค 1960

ที่อินดัสมีทั้งเมนูอาหารอินเดียต่างๆ ที่สั่งเป็นจานๆ รวมถึงมีเมนูสำหรับชิมหรือ Tasting Menu เป็นคอร์สรวม 7 จาน และ 10 จาน ให้เลือกด้วย

แกงกะหรี่แพะสไตล์แคว้นแคชเมียร์ อินดัสโรกันจอช

ก่อนอื่นจะมีแผ่นแป้ง ปาปาดัม (Papadum) บางกรอบ กับเครื่องจิ้ม 4 อย่างมีทั้งที่ทำจากเสาวรส มะขาม สะระแหน่ (มิ้นต์) และหอมดอง มาให้กินเล่นฟรี

Advertisement

มาแล้วห้ามพลาด ของย่างในเตาถ่านพิเศษทันดูร์ (Tandoori) จานเด่นที่ใครมาต้องสั่งคือ เคบับ อี มาลัย (Kebab E Malai) (400 บาท++) หรือเรียก มาลัย กะบับ ก็ได้ ทำจากไก่ไร้กระดูกเนื้อนุ่มๆ หมักโยเกิร์ต ครีม ชีส ผักชี มะม่วงหิมพานต์ มะนาว และเครื่องเทศแล้วย่างด้วยเตาถ่าน เสิร์ฟกับแป้งปาปาดัมข้าวกล้อง

หรือจะสั่งของย่านจานรวม มิกซ์กริลล์ (Mixed Grill) (1,250 บาท++) ที่มีทั้ง ไก่เคบับ อี มาลัย ไก่ติกก้า (Chicken Tikka) หมักโยเกิร์ตกับยี่หร่า เนื้อแพะสับย่าง และปลากะพงย่าง

ขาแกะย่างสูตรอินดัสย่างไฟอ่อนนาน 7 ชั่วโมง

อีกเมนูของย่างยอดนิยมที่สั่งกันมากคือ ขาแกะย่างสูตรอินดัสย่างไฟอ่อนนาน 7 ชั่วโมง (Nawabi Raan) (990-1,690 บาท++) เนื้อนุ่มหอมอย่าบอกใคร ไม่มีกลิ่นสาบเลย เมนูนี้มาจากชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย

บร็อคโคลี่ย่างในเตาทันดูร์
หอยเชลล์พริกไทยดำ

ที่นี่มีแม้กระทั่งเมนูเคบับผักย่าง บร็อกโคลีหมักโยเกิร์ต ครีม ชีสและเครื่องเทศนาน 6 ชั่วโมงแล้วย่างในเตาทันดูร์ (Tandoori Creamy Broccoli) (360 บาท++) นับเป็นเมนูดังเช่นกัน หรือจะลองของทะเล หอยเชลล์ พริกไทยดำจี่บนกระทะ ราดซอสกระเทียมกับมะเขือเทศตากแห้ง

มีของย่างแล้วก็ต้องสั่งแกงต่างๆ เริ่มด้วยเมนูดังประจำร้าน บัตเตอร์ชิคเก้น (Butter Chicken) (390 บาท++) จากเมืองเดลี ไก่ย่างติกก้ารมควันเคี่ยวในน้ำเกรวี่มะเขือเทศ ใส่เนยกับครีมลงไปด้วย รสชาติเข้มข้นหอมมาก ขอบอกว่าแกงของอินเดียไม่ได้มีกลิ่นเครื่องเทศแรงเกินไปเลย

แกงกะหรี่กุ้ง
แป้งนาน และปาราท่า

ต่อด้วย แกงกะหรี่กุ้ง (Malabar Prawn curry) (490 บาท++) จากรัฐเกรละ หรือเคราล่า (Kerala) ดินแดนแห่งมะพร้าวทางตอนใต้ ใส่กะทิและมังคุดป่า แกงมีรสเปรี้ยวเล็กน้อยและเผ็ดๆ หอมๆ

แกงกะหรี่แพะสไตล์แคว้นแคชเมียร์ อินดัสโรกันจอช

นอกจากนี้ ห้ามพลาด แกงกะหรี่แพะสไตล์แคว้นแคชเมียร์ที่เรียกว่า อินดัสโรกันจอช (Indus Rogan Josh) (550 บาท++) เนื้อแพะนุ่มอร่อย ตัวแกงเข้มข้นแต่รสชาตินุ่มนวล

แกงพวกนี้ให้กินกับ แป้งนาน (Naan) ชิ้นหนาอบในเตาถ่าน ที่ชื่นชอบเป็นอันมากคือ แป้งนานใส่ชีส (160 บาท++) นุ่มหอมมันวิเศษสุด แล้วก็มี แป้งนานอบเนยกระเทียม (120 บาท++) ส่วนแป้งอีกแบบเรียกว่า ปาราท่า (Paratha) จะบางกว่า ทำจากแป้งโฮลวีททาน้ำมันรำข้าวแล้วย่าง

คาเลจี-เปา ซึ่งดัดแปลงมาจากอาหารริมทาง

คืนนั้นผมได้ลองจานพิเศษสำหรับที่จะมีเพิ่มเติมในเมนูปรับปรุงใหม่ คาเลจี เปา (Kaleji Pav) ซึ่งดัดแปลงมาจากอาหารริมทาง ทำเป็นตับไก่บดปาเต้วางบนขนมปังอบกรอบ ทาแยมมัลเบอรี่สด ไม่น่าเชื่อว่าคนอินเดียก็เรียกขนมปังก้อนกลมๆ ว่าเปาเช่นกัน

พุดดิ้งข้าว
กุหลาบยามุน

ปิดท้ายด้วยของหวานของอินเดีย มีรสหวานและหนักกลิ่นเครื่องเทศนิดหน่อย มีทั้ง กุหลาบยามุน (Gulab Jamun) ขนมก้อนกลมๆ ทำจากแป้งผสมนมทอด แช่ในน้ำเชื่อมกระวาน ลดความหวานด้วยการเทไอริชวิสกี้แล้วจุดไฟลุกท่วม อีกทั้งมี พุดดิ้งข้าว (Phirni) (140 บาท++) รสหวานๆ ใส่ถั่วและผลไม้แห้ง มีกลิ่นของแซฟฟรอนหรือหญ้าฝรั่นและกระวานเขียว เสิร์ฟในหม้อดินเผาแบบดั้งเดิม

ร้านอินดัสเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11 โมงครึ่งถึงบ่าย 2 โมงครึ่ง และ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม โทรจองได้ที่ 0-2258-4900 ใครที่ชิมอาหารชาติอื่นๆ มามากแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาลิ้มลองอาหารอินเดียอร่อยๆ กันบ้างนะจ๊ะ


ข้อมูล

อินดัส (Indus)

โดย คุณ Sid Sehgal

ที่ตั้ง 71 ซอยสุขุมวิท 26 ใกล้โรงแรมโฟร์วิงส์ ถ.สุขุมวิท คลองเตย กรุงเทพฯ 10110

โทร 0-2258-4900

เปิดบริการ 11.30-14.30 น. และ 18.00-23.00 น. ทุกวัน

แนะนำ เคบับ อี มาลัย (Kebab E Malai) ของย่านจานรวม (มิกซ์กริลล์) ขาแกะย่างสูตรอินดัส (Nawabi Raan) บร็อกโคลีย่างในเตาทันดูร์ (Tandoori Creamy Broccoli) บัตเตอร์ชิคเก้น (Butter Chicken) แกงกะหรี่กุ้ง (Malabar Prawn curry) แกงกะหรี่แพะอินดัสโรกันจอช (Indus Rogan Josh) แป้งนานใส่ชีส แป้งนานอบเนยกระเทียม คาเลจี เปา (Kaleji Pav)

เว็บไซต์ : www.indusbangkok.com

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image