ฉลองตรุษจีนด้วยอาหารจีนคลาสสิกมีระดับ “ภัตตาคารเชียงการีลา” คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

กุ้งมังกรเจ็ดสี ซาชิมิ หม้อไฟ

เทศกาลตรุษจีนปีนี้บรรยากาศคึกคัก ถือเป็นวันรวมญาติสำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนที่จะต้องออกมาเลี้ยงฉลองกันตามธรรมเนียม เพื่อให้เข้ากับกระแสย้อนยุคซึ่งร้านอาหารในตำนานกำลังกลับมาเป็นที่นิยม ปิ่นโตเถาเล็กจึงขอเชิญชวนแฟนๆ มาเลี้ยงฉลองกันที่สุดยอดภัตตาคารจีนอันเลื่องลือ ขายอาหารจีนเมนูคลาสสิกมีระดับ ชื่อว่า ภัตตาคารเชียงการีลา เดี๋ยวนี้มีทั้งหมด 4 สาขาคือ ริมถนนสีลม ซึ่งเปิดมานานถึง 46 ปี กับที่ใน ซอยธนิยะ (เปิดมา 38 ปี) ซึ่งเป็นสาขาที่พวกเรารวมทั้งลูกค้าขาประจำอีกมากมายชอบมาอุดหนุน อีกทั้งสาขา เยาวราช กับสาขาน้องใหม่เปิดมาไม่กี่ปีที่ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์

ส่วนสาขาธนิยะนี้มีที่จอดรถสะดวกสบายใน อาคารจอดรถญาดา ซึ่งอยู่ติดกับตัวภัตตาคารเลย หรือจะให้พนักงานที่ร้านนำรถไปจอดให้แทนก็ได้

ครอบครัวของเราคุ้นเคยกับคุณมานะ เจ้าของภัตตาคารเชียงการีลา และน้องบัญชาลูกชายของคุณมานะเป็นอันมาก มาที่นี่ผมจึงหลับตาสั่งได้สบาย ข้อดีของภัตตาคารระดับตำนานอย่างนี้ก็คือจะมีเมนูคลาสสิกที่อยู่คู่ร้านมานมนานซึ่งใครมาก็ต้องสั่งตลอด ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเมนูก็ขายดี รุ่นพ่อกินกันมาอย่างไร รุ่นลูกรุ่นหลานก็สั่งตามนั้นเช่นกัน

ใครมาเลี้ยงฉลองที่เชียงการีลาแล้วไม่ได้ลิ้มลอง กุ้งมังกร 7 สี (ขีดละ 400 บาท+ค่าบริการ 10%) เหมือนมาไม่ถึงร้านนะจ๊ะ มีขนาดตั้งแต่ 1-1.5-2 กิโล บางครั้งได้ตัวใหญ่มหึมาถึง 4 กิโลก็มีด้วย

Advertisement

เมนูขึ้นชื่อพิเศษสุดคือ กุ้งมังกรซาชิมิคู่กับหม้อไฟ แล่เนื้อกุ้งมังกรสดๆ วางบนน้ำแข็งใส่มาในเรือลำใหญ่ ประดับด้วยหัวกุ้งมังกรสวยงาม จะจิ้มกับซีอิ๊วญี่ปุ่นใส่วาซาบิหรือน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ดีทั้งนั้น เนื้อหวานสดจริงๆ จากนั้นพนักงานจะลวกกุ้งมังกรใส่ผักสดใน หม้อไฟ ชามแก้วยักษ์ที่มีน้ำซุป ตักแบ่งเป็นถ้วยๆ ให้ทุกคน

ซึ่งหัวกุ้งมังกรยักษ์นี้นำไปทำเมนูอื่นได้อีกหลายอย่าง (คิดค่าทำเพิ่ม 250-400 บาท+) ทั้ง ก๋วยเตี๋ยวคั่วหัวกุ้ง ข้าวต้ม ผัดหมี่ฮกเกี้ยน ผัดซอสเอ็กซ์โอ ผัดพริกเกลือ และ โจ๊ก

มีของแปลกยอดฮิตอีกอย่างคือ เลือดกุ้งมังกรสดๆ สีมอๆ นำมาผสมกับสไปรท์แล้วแบ่งใส่ถ้วยน้ำชาเล็กๆ ให้เรากิน เลือดจะกลายเป็นวุ้นรสเค็มๆ ควรลองชิมดูนะจ๊ะ

Advertisement
ปลาเก๋ามังกร
ของดีไม่เหมือนใคร เลือดกุ้งมังกรใส่สไปรท์

เมนูดังคู่กันอีกอย่างที่มาแล้วต้องชิมให้ได้ก็คือ ปลาเก๋ามังกร (ขีดละ 300 บาท+) จากทะเลอินโดนีเซียหนัก 100 กว่ากิโลขึ้นไป เนื้อดึ๋งๆ ในปากทั้งนุ่มทั้งมัน ต่างจากปลาอื่นมาก และยังมีอีกหนึ่งทีเด็ดคือ ตับปลาเก๋ามังกร (และหัวกับหนังปลา) นึ่งซีอิ๊ว รสชาติมันๆ หอมหวานอย่าบอกใคร ซึ่ง ต้องสั่งจองล่วงหน้าเป็นวันๆ นะจ๊ะ เพราะเป็นของหายาก

ไก่อบเกลือ
หมูหัน

อีกอย่างที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดคือ ไก่อบเกลือ ทั้งตัว ไก่บ้านเนื้อนุ่มๆ สับติดกระดูก หนังสีเหลืองมันๆ หอมๆ สุดสุด กินแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ (ตัวละ 1,200 บาท+) ไก่อบเกลือนี้เป็นเมนูพิเศษต้องโทรสั่งล่วงหน้า 1 วันเช่นกัน

เช่นเดียวกับหมูหันฮ่องกงที่กินทั้งเนื้อและหนังพร้อมกัน ก็ต้องจองล่วงหน้าเพราะใช้เวลาย่างนานถึง 2 ชั่วโมง เราเลยสั่ง หมูหัน ปกติ (2,000 บาท+/ตัว) ซึ่งทีเด็ดคือเนื้อหมูหันจะนำไป ย่างจิ้มแจ่ว ซึ่งจะนุ่มหอมเอามากๆ

ออร์เดิร์ฟร้อน 4 อย่าง
ติ่มซำกวางตุ้งต่างๆ
ปอเปี๊ยะกุ้ยหลินกับเกี๊ยวกุ้งกรอบไข่เค็ม

ส่วนออเดิร์ฟของกินเล่นมีทั้งร้อนและเย็น เราเลือก ออเดิร์ฟร้อน 4 อย่าง (980+) ขึ้นชื่อเรื่องจานใหญ่ยักษ์อลังการ เลือกได้หลากหลายเป็น 10 ชนิด เราสั่งลิ้นเป็ดพะโล้ หอมๆ มันๆ จิ้มน้ำจิ้มข้นๆ คล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ด กับ กระเพาะปลาผัดแห้ง ปลาเงินทอดกรอบ และกังป๋วยกับแป๊ะก๊วยคั่วพริกเกลือ

ถ้ามาตอนกลางวันก็มีติ่มซำกวางตุ้งให้เลือกมากมาย (ส่วนที่สาขาธัญญาพาร์คมีทั้งกลางวันและเย็น) ผมสั่ง ขนมจีบกุ้ง (140+) ฮะเก๋า (140+) ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง (100+) ซาลาเปาลาวา (70+) ส่วนของทอดมี เปาะเปี๊ยะกุ้ยหลิน เคลือบงาขาว (80+) สอดไส้กุ้งสุดยอดมาก กับ เกี๊ยวกุ้งกรอบไข่เค็ม (70+)

กุ้งแม่น้ำผัดซอสพริก

ต่อด้วยของดี กุ้งแม่น้ำผัดซอสพริก (ตัวละ 250+ ขนาด 4-5 ตัว/กิโล) รสเข้มข้น ความอร่อยอยู่ที่มันกุ้งเยิ้มๆ ข้างในกับซอสพริกเผาทำเอง คลุกกับข้าวสวยร้อนๆ เนื้อกุ้งแม่น้ำนุ่มกำลังดี

ข้าวอบฮ่องกง

ปิดท้ายด้วยของหายาก ข้าวอบฮ่องกง หรือหลาบเหมยฝ่าน (500-700-1,000+) ประกอบด้วยหลาบเฉิง หรือกุนเชียงเนื้อหมู และกุนเชียงตับแสนอร่อย หลาบหยกหรือหมูสามชั้นตากแห้ง และเป็ดตากลมหนาวรมควัน (จากฮ่องกง) พร้อมข้าวนึ่งราดน้ำซีอิ๊วปรุงหอมๆ มีน้ำซีอิ๊วให้เลือก 2 ชนิด เชิญสอบถามกันเอาเอง

ขนมเผือกทองคำหรือเกล็ดมังกร
พุทราจีนทอด
โอนี่แปะก้วยถ้วยกลางสีสันสดใส

ถึงอิ่มแสนอิ่มก็ต้องชิมของหวานให้ได้ ที่ชื่นชอบมากๆ คือ เผือกทองคำ (ชิ้นละ 30 บาท) หรือคนนิยมเรียกว่า เกล็ดมังกร ด้านนอกเคลือบด้วยเม็ดกวยจี๊ มีไส้เผือกกวนกับแป๊ะก๊วย กับ พุทราจีนทอด (200-300-400+) หรือจะสั่ง โอนี่แป๊ะก๊วย (120+) ทำเป็นถ้วยเล็กสีสันสดใสโปะด้วยแป๊ะก๊วย พุทราจีน เยลลี่ อีกทั้ง แคนตาลูปสาคูเย็น บัวลอยน้ำขิง สาคูเผือกบดร้อน ให้ถามพนักงานดีที่สุดเพราะมีให้เลือกจนลานตา

ถ้าจะสั่งเป็นชุดโต๊ะจีนก็มีให้เลือกหลากหลายราคาคุ้มค่าไม่แพง เซตยอดนิยมคือราคา 13,000 บาท+ ได้ครบทั้งกุ้งมังกร ปลาเก๋ามังกรและเป็ดปักกิ่ง (เพิ่มเป็น 13,800+ จากเป็ดปักกิ่ง เปลี่ยนเป็นหมูหัน) และชุด 17,500 บาท+ ซึ่งได้เป๋าฮื้อออสเตรเลียเจี๋ยนด้วย

นี่คือภัตตาคารในดวงใจของครอบครัวเรา มากี่ครั้งก็ไม่เคยผิดหวัง ขอแนะนำให้มาเป็นหมู่คณะเพราะอาหารที่นี่เขาจานใหญ่จริงๆ ตรุษจีนปีนี้อย่ารีรอรีบโทรไปจองที่สาขาธนิยะ โทร 0-2234-0861-4 ช่วงมื้อเที่ยงเปิด 11 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมง และมื้อเย็นเปิด 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม อย่าลืมโทรจองโต๊ะและเมนูพิเศษบางเมนูล่วงหน้า 1 วันนะจ๊ะ


ข้อมูลร้าน

ภัตตาคารเชียงการีลา

โดย คุณมานะ พจชมานะวงศ์

ที่ตั้ง 58/4-9 ซอยธนิยะ ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

สาขาธนิยะ 0-2234-0861-4

สาขาสีลม 0-2234-9147-9

สาขาเยาวราช 0-2224-5933

สาขาธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ 0-2108-6190-1

เปิดบริการ 11.00-14.00 น. และ 18.00-22.00 น. ทุกวัน (สาขาเยาวราชเปิดทั้งวัน) แนะนำ กุ้งมังกร 7 สีซาชิมิ-หม้อไฟ หัวกุ้งมังกรผัดก๋วยเตี๋ยว เลือดกุ้งมังกรผสมสไปรท์

ปลาเก๋ามังกรลวก ตับปลาเก๋ามังกร (และหนัง-หัวปลา) นึ่งซีอิ๊ว (ต้องจองล่วงหน้า) ไก่อบเกลือ (ต้องจองล่วงหน้า) หมูหัน เนื้อหมูนำไปย่างจิ้มแจ่ว ติ่มซำ (ห้ามพลาดเปาะเปี๊ยะกุ้ยหลิน) ออเดิร์ฟร้อน 4 อย่าง กุ้งแม่น้ำผัดซอสพริก ข้าวอบฮ่องกง ขนมเผือกทองคำ โอนี่แป๊ะก๊วย พุทราจีนทอด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image