นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 10 โครงการพระราชดำริ
ตลอดระยะเวลา 70 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท “สมเด็จพระบรมชนกนาถ” พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก่อเกิดเป็นพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่ประชาชนทราบและอาจไม่ทราบ
เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง (ศปร.) กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พลเอก สุวิทย์ เกตุศรี ผู้อำนวยการ ศปร. จัดแสดงนิทรรศการถาวร ห้อง ๙๐๔ ส่วนหนึ่งได้รวบรวมพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่รวม 10 โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาจัดแสดงให้ประชาชนได้อิ่มเอิบหัวใจ อีกทั้งน้อมนำพระราชประวัติ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระมหากรุณาธิคุณ มาให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้กัน ณ อาคารศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ถนนวิภาวดี-รังสิต (ฝั่งขาออก)
ก้าวเข้าไปในห้องนิทรรศการ จัดแสดงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า
“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
จากนั้นหันซ้าย ชมนิทรรศการแบ่งเป็น 6 โซน เริ่มที่โซนที่ 1 จัดแสดงพระราชประวัติ การศึกษา ในรูปแบบภาพวิดีโอให้ได้เห็นเหตุการณ์ในอดีตอย่างอิ่มเอมหัวใจ อีกทั้งมีการจัดแสดงภาพพิมพ์พระราชพิธีประวัติศาสตร์ ‘สยามมกุฎราชกุมาร’ ครั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ มีพระชนมายุครบ 20 พรรษา ทรงบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีสถาปนาขึ้นเป็นสยามมกุฎราชกุมารตามกฎมณเฑียรบาล เมื่อในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2515
เดินต่อไปโซนที่ 2 นิทรรศการ ธ ทรงเป็นจอมทัพไทย จัดแสดงในรูปแบบภาพพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์ทหาร 3 เหล่าทัพ ได้แก่ กองทัพเรือ กองทัพบก และกองทัพอากาศ อีกทั้งฉายวิดีโอให้ผู้ชมได้ย้อนถึงเหตุการณ์ในอดีตที่สะท้อนให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ อาทิ เหตุการณ์ ‘วีรกษัตริย์แห่งสมรภูมิบ้านหมากแข้ง’ เมื่อครั้นทรงดำรงตำแหน่ง ร้อยเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังฐานปฏิบัติการบ้านห้วยมุ่น
ทรงเยี่ยมทหาร ตำรวจ และราษฎรในพื้นที่ฐานปฏิบัติการ ของตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ลอบเข้าโจมตี ณ บ้านหมากแข้ง จังหวัดเลย และพระราชทานคำแนะนำ ยุทธวิธีด้านต่างๆ รวมทั้งทรงเป็นหัวหน้าชุดออกลาดตระเวนด้วยพระองค์เอง เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2519
ส่วนโซนที่ 3 นิทรรศการอัครศาสนูปถัมภก จัดแสดงในรูปแบบกำแพงจอวิดีโอ ตั้งแต่ทรงผนวช พระราชกรณียกิจด้านศาสนาต่างๆ โดยทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธมามกะ ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ.2509
โซนที่ 4 นิทรรศการทรงราชย์ จัดแสดงในรูปแบบกำแพงจอวิดีโอเช่นกัน นำเสนอเหตุการณ์และเกร็ดความรู้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ที่ทรงให้สืบสานพระราชพิธีโบราณ ทั้งพระราชพิธีเบื้องต้น เช่น การเตรียมน้ำอภิเษก การจารึกพระสุพรรณบัฏ เบื้องกลาง และเบื้องปลาย เช่น การเสด็จฯเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค การเสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
โซนที่ 5 นิทรรศการสืบสาน รักษา และต่อยอด จัดแสดงวิดีโอเหตุการณ์และพระบรมฉายาลักษณ์ขณะเสด็จฯไปทรงงาน 10 พระราชณียกิจ ที่คนไทยรู้และอาจไม่รู้มาก่อน รวบรวมไว้ในห้องวงกลมรูปไข่ กลางห้องนิทรรศการ มีดังนี้ 1.โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 2.โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 3.โครงการพัฒนาพื้นที่หมู่บ้านกูแบซีราอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 4.โครงการเกษตรวิชญา 5.โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ 6.โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน 7.จิตอาสาพระราชทาน 8.อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา 9.โครงการการประยุกต์ทฤษฎีใหม่สู่ โคก หนอง นา โมเดล และ 10.โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน
และโซนที่ 6 นิทรรศการสายธารแห่งพระเมตตา จัดแสดงวิดีโอ 4 บุคคล ที่ได้ใกล้ชิดการทรงงานและได้รับพระมหากรุณาธิคุณ อย่าง พลตรี วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก ที่มาเล่าทั้งน้ำตาซึมถึงพระราชบัณฑูรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงเรื่องราวของการช่วย 13 หมูป่า รวมถึงเรื่องราวของ สุมน มหิดุลย์ กระเป๋ารถเมล์สาย 511 คนหนึ่ง ที่พบกระเป๋าเงิน 1 ล้านบาท นำส่งคืนเจ้าของ เปิดใจแบบน้ำตาอาบแก้ม ซาบซึ้งภายหลังพระองค์พระราชทานกระเช้าเป็นกำลังใจ ทรงเห็นถึงการทำความดีของคนเล็กๆ คนหนึ่ง
ชมนิทรรศการ ๙๐๔ จนอิ่มเอมใจแล้ว สามารถเดินออกจากอาคารไปชมบ้านเศรษฐกิจพอเพียง นำเสนอแปลงเกษตรสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ ไว้เป็นแรงบันดาลใจนำกลับไปทำในพื้นที่ของตัวเอง แม้จะมีพื้นที่จำกัดก็ทำได้
สามารถเข้าชมนิทรรศการถาวร ห้อง ๙๐๔ ได้ทุกวัน ทั้งรูปแบบกลุ่ม ครอบครัว และบุคคล วันจันทร์ถึงศุกร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-17.00 น. ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ ต้องนัดล่วงหน้า โทร 0-2565-8466, 0-2565-8472 ณ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ถนนวิภาวดี-รังสิต (ฝั่งขาออก)
