สัมผัสคุณค่าแห่งยุคสมัย ‘4 ห้องนิทรรศการ’ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
สืบเนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย และมีความหมายที่สุดแก่ปวงชนชาวไทย
‘นิทรรศน์รัตนโกสินทร์’ ร่วมเทิดพระเกียรติและบันทึกประวัติศาสตร์ โดยจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิดจากพระปฐมบรมราชโองการที่ได้พระราชทานอารักขาแก่ประชาชนชาวไทย ความว่า
“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
นายปัทมนิธิ เสนาณรงค์ หัวหน้าฝ่ายบริหารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ กล่าวถึงอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ว่า ในอดีตอาคารแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน โดยมีเอกชนมาเช่าทำธุรกิจ ต่อมาเมื่อประมาณ 14-15 ปีที่แล้ว ทางสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้มีดำริว่าจะพัฒนาอาคารที่อยู่ริมถนนราชดำเนินให้ดูคู่ควรกับที่เป็นถนนหลักของกรุงเทพฯ ซึ่งมีการพัฒนาโดยการประชุมหารือว่าจะไม่ดำเนินการให้เอกชนมาเช่า และได้คิด วิเคราะห์ และประเมินออกมาเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้
“สมัยก่อนมีสงครามบ่อย จึงได้มีการสร้าง ‘ป้อมมหากาฬ’ ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 เนื่องจากมีพระราชประสงค์เอาไว้สำหรับสังเกตการณ์ราชศัตรูที่จะบุกเข้ามา นั่นหมายถึงว่าตรงนี้ คือ ‘ชายแดนของกรุงเทพฯ’ โดยได้มีคอนเซ็ปต์การทำพิพิธภัณฑ์เป็นประตูเข้าสู่กรุงเทพฯ ให้ประชาชน หรือนักท่องเที่ยว และเยาวชนมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ตั้งแต่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์จนถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย การจารึก และการบันทึก ได้นำมาสรุปและจัดแสดงที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ให้ผู้คนได้เห็น” นายปัทมนิธิกล่าว
ทั้งนี้ ได้มีการจัดห้องนิทรรศการใหม่ จำนวน 4 ห้อง โดยเริ่มต้นที่ห้องแรก ‘ห้องอุโมงค์กาลเวลา’ ซึ่งเปรียบได้กับ ‘ไทม์แมชชีน’ มีการบันทึกเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ของประเทศไทยตั้งแต่สมัยสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และเหตุการณ์สำคัญของโลก โดยในเหตุการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย คือ การเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตรงกับเหตุการณ์สำคัญของโลก คือ การระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการจัดแสดงแบบจำลองรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานให้กระทรวงสาธารณสุข ด้วยเทคนิค Hollow Display
ถัดมากับ ‘ห้องลือระบิลพระราชพิธี’ โดยมีการจัดแสดงพระราชพิธีเนื่องในรัชกาลที่ 10 เช่น พระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันสิ่งเหล่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีให้แก่ประชากรชาวไทย โดยภายในห้องจะเป็นแกลเลอรี่ และมีการสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยเทคนิค Slide Screen ซึ่งจะใช้กับพระราชพิธีที่สำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
จากนั้นมาร่วมรำลึกถึงรัชกาลที่ 9 กับ ‘ห้องดวงใจปวงประชา’ จัดแสดงพระราชประวัติของรัชกาลที่ 9 ใน ‘ต้นโพธิ์แห่งแผ่นดิน’ ด้วยเทคนิค Soft touch Interactive ที่ผู้ชมสัมผัสข้อความ จะปรากฏภาพเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพระราชประวัติช่วงนั้นๆ พร้อมกับนำเสนอพระราชกรณียกิจ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 24 โครงการ ใน ‘ใต้พระบรมโพธิสมภาร’ โดยจัดแสดงบนจอโค้งใช้ซอฟต์แวร์ Dataton Watchout
จากนั้นมีการเปิดวีดิทัศน์ ประกาศจากสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สวรรคต พร้อมประมวลภาพบรรยากาศของพสกนิกรชาวไทยที่รอส่งขบวนอัญเชิญพระบรมศพจากโรงพยาบาลศิริราชสู่พระบรมมหาราชวังใน ‘ฟ้าเสวยสวรรค์’ และมีการรวบรวมการกล่าวถึงรัชกาลที่ 9 ในแง่มุมต่างๆ ของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้นำระดับโลกใน ‘ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์’ และมีการออกแบบผนังห้องนิทรรศการเป็นการเดินทางสู่ ‘พระเมรุมาศ’ พร้อมเปิดวีดิทัศน์ประมวลภาพพระราชพิธีต่างๆ
จากนั้นเดินทางมาต่อที่ ‘ห้องนิทรรศการรัชกาลที่ 10’ ที่ได้มีการปรับสร้างนิทรรศการขึ้นมาใหม่ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกเป็นการนำเสนอพระราชประวัติผ่านภาพวาดบนกำแพงตั้งแต่เสด็จพระราชสมภพไปจนถึงการสืบสันตติวงศ์
ส่วนที่สองการนำเสนอพระราชกรณียกิจ ในการใช้เทคนิค Immersive Theatre ที่เปรียบภาพการทรงงานปิดทองหลังพระ เป็นเสมือนดวงดาวผ่านม่านหมอก และผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมกับนิทรรศการนี้ได้ โดยการใช้กล้องส่องไปยังท้องฟ้า เพื่อชมภาพเคลื่อนไหวการทรงงานต่างๆ
ในอีกมุมหนึ่งจะมีการลงรายละเอียดพระราชกรณียกิจนั้นๆ โดยบางพระราชกรณียกิจได้ต่อยอดจากในหลวง รัชกาลที่ 9 นำเสนอในรูปแบบ Interactive Information และ Model Display
‘นิทรรศน์รัตนโกสินทร์’ เปิดให้บริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. นอกจากนี้ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-13.30 น. ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nitasrattanakosin.com หรือสอบถามเข้าชมนิทรรศการ โทร 0-2621-0044
