แก้วอาหารไทย เพชรเม็ดงามแห่งย่านถนนตก

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 - 12:10 น.

ที่มา	คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม มติชนรายวัน
ผู้เขียน	ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิ์วัตน์ (ปิ่นโตเถาเล็ก)

ถ้าใครถามว่าปิ่นโตเถาเล็กมีความสุขเรื่องอาหารการกินมากที่สุดในตอนไหน สามารถตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลยว่า เมื่อยามที่ปิ่นโตเถาเล็กได้ไปซอกแซกชิมแล้วค้นพบร้านเล็กๆ ขวัญใจชุมชนในละแวกนั้น เป็นร้านมีคาแร็กเตอร์พิเศษ มีเอกลักษณ์ ร้านประเภทนี้ถ้ามองผิวเผินก็จะเดินผ่านเลยไป เพราะไม่มีอะไรสะดุดตา แต่หารู้ไม่ว่าทำอาหารได้อร่อยล้นเหลือ

อาทิตย์นี้ปิ่นโตเถาเล็กภูมิใจเสนอร้านเล็กๆ ขายกับข้าวอาหารไทยในย่านถนนตก มีชื่อว่า “แก้วอาหารไทย” ถ้าไม่มีคนแนะนำไม่มีทางรู้จักแน่นอน จึงขอขอบคุณน้องไกรเสริม โตทับเที่ยง มากๆ ที่ไปชิมอะไรอร่อยที่ไหนก็จะนึกถึงผมอยู่เสมอมา

แก้วอาหารไทยอยู่ในตึกแถวคูหาเดียวริมถนน “เจริญกรุง” ช่วงที่เรียกว่า “ถนนตก” ทางไปร้านนี้ไม่ยาก จากในเมืองวิ่งมาตาม “ถนนพระราม 3” เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา พอถึง“สี่แยกถนนตก” (ไม่ต้องขึ้นสะพานพระราม 3 ที่จะข้ามแม่น้ำไปฝั่งธนบุรี) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญกรุง เข้าไปเพียง 100 เมตร จะเห็นร้านแก้วอาหารไทยอยู่ในตึกแถวริมถนนทางขวามือ “ปากซอยเจริญกรุง 86” จุดสังเกตฝั่งตรงข้ามด้านซ้ายมือเป็นแรมป์หรือทางโค้งที่ขึ้นสะพานพระราม 3

จอดรถริมถนนได้เลย มีวันคู่วันคี่สลับฝั่งกัน อาจจะหาที่จอดยากหน่อย ส่วนผมนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปในที่จอดรถส่วนบุคคลในซอยข้างแรมป์ขึ้นสะพาน แล้วขอเขาจอดรถ เสียค่าจอด 40 บาท ลองถามดูนะครับเผื่อจอดได้ในช่องที่ไม่ได้จัดไว้สำหรับรถที่มีทะเบียนประจำ

ร้านนี้ขายกับข้าวตามสั่ง มีทั้งเมนูง่ายๆ และเมนู “ปลากะพง” หลากหลายเหมือนภัตตาคารใหญ่ๆ ทำได้ทั้งราดข้าวและเป็นกับข้าว สนนราคาถูกและดีมากๆ เมนูราดข้าวสนนราคาส่วนใหญ่ 40-45 บาท และกับข้าวหน้าตาดีจานโตมีตั้งแต่ 60-70-80-90 บาท จึงกลายเป็นขวัญใจของคนทำงานย่านนี้โดยปริยาย

ขาประจำจะเริ่มโทรสั่งอาหารไปกินที่ทำงานตั้งแต่ช่วงร้านยังไม่เปิดตอน 10 โมงเช้า ส่วนใครอยากมาชิมที่ร้านตอนเที่ยง ให้รีบโทรจองก่อนที่เบอร์ 08-9131-2095 ขอบอกว่าร้านนี้มี“เพียง 5 โต๊ะ”เท่านั้น ตอนใกล้เที่ยงถ้าโดนจองเต็มแล้ว เขาจะเลื่อนประตูเหล็กยืดมาปิดไว้ แสดงว่าเต็ม ขอแนะนำว่าถ้าไม่อยากเล่นเก้าอี้ดนตรีรอคิว ให้มา“หลังบ่ายโมง”ดีที่สุด และควรโทรจองก่อนด้วย

เจ้าของร้านแก้วอาหารไทย เป็นสองสามีภรรยา พื้นเพเป็นคนอุบลฯ ทำกันอยู่แค่นี้ คุณประสาน พูพวง สามี รับหน้าที่ทำกับข้าว ส่วนคุณแก้วภรรยาคอยเสิร์ฟและรับโทรศัพท์ เดิมเปิดร้านอยู่หน้าโรงแรมแม่น้ำที่เลยไปไม่ไกล นาน 6 ปี จึงย้ายมาอยู่ที่นี่ขึ้นปีที่ 3 แล้ว

อาหารร้านนี้รสชาติจัดจ้านถูกใจ ขอแนะนำ“แกงป่าหมูสับ”(60 บาท) น้ำแกงป่าเข้มข้นเผ็ดร้อนด้วยใบยี่หร่า นี่ขนาดเขานึกว่าผมกินเผ็ดมากไม่ได้ ยังอร่อยสะใจ ความจริงปิ่นโตเถาเล็กชอบกินเผ็ด ข้าวคำน้ำคำเลยนะจ๊ะ

เครื่องแกงป่ารับมาจากเจ้าประจำที่ซอยแสงจันทร์ ตรงข้ามวัดสุทธิฯ นำมาปรุงเพิ่ม เริ่มจากคั่วกระเทียมไทยและพริกขี้หนูสับละเอียด ใส่น้ำตาลมะพร้าว เคี่ยวจนหอม แล้วเติมน้ำ ใส่พริกแกงลงไปคั่วจนหอมอีกรอบ เครื่องแกงสูตรเด็ดนี้นำไปผัดเผ็ด ฉู่ฉี่ และทำห่อหมกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแกงป่าไก่นา แกงป่าปลากะพง และแกงป่าหมูป่าด้วย

ควรสั่งของมากินแกล้มแก้เผ็ด “หมูแดดเดียว”(60 บาท) ใช้เนื้อหมูสันคอนุ่มๆ หมักนาน 2 ชั่วโมงแล้วตากแดด ประกอบด้วยเครื่องปรุงมากมายทั้งรากผักชี เกลือ พริกไทยขาวและดำ น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลปี๊บ และแป้งทอดกรอบเล็กน้อย หมักจนมีรสมีชาติมากๆ อีกทั้งพวกเราเหลือบไปเห็น”ไข่เจียว”โต๊ะข้างๆ เจียวได้เหลืองหอมน่ากินมาก จึงสั่งมาเพิ่มอีกจาน

อีกเมนูง่ายๆ ที่ห้ามพลาดเลยคือ “ปีกไก่ทอด” (60 บาท) ชุบแป้งทอดบางๆ กรอบๆ เนื้อในนุ่มและมีรสชาติ โรยแป้งกับกระเทียมกรอบชิ้นเล็กๆ มาเต็มจาน แกล้มเพลินหมดจานในพริบตา สูตรนี้ปรุงไก่ด้วยรากผักชี กระเทียมไทย ซีอิ๊วขาว พริกไทยขาวและดำ น้ำตาล พอปรุงแล้วค่อยคลุกแป้งทีหลัง เคล็ดลับอีกอย่างอยู่ที่การทอด ต้องใช้ไฟกลาง พอกระเทียมกับแป้งลอยขึ้นมาให้ตักมาพักไว้เป็นเครื่องแกล้ม

ที่เด็ดสะระตี่มากๆ คือ “ยำกุ้งนมสด” (60 บาท) อร่อยครบรสเปรี้ยวเค็มหวานเผ็ดหอมมัน รับกุ้งทะเลจากเจ้าประจำที่สะพานสองวันละ 3 กิโลเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย ปรุงด้วยน้ำตาลปี๊บเคี่ยว น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำมันพริกเผา นมข้นจืด พริกขี้หนูสวนเม็ดใหญ่ กระเทียมจีน รากผักชี

ส่วนผัดผักก็มีหลายอย่าง พวกเราสั่ง “ผักบุ้งไฟแดงหมูกรอบ” (60 บาท) ที่นี่ผัดอร่อยกว่าร้านข้าวต้มเสียอีก ก้านผักบุ้งกรอบๆ ผสมกับใบนุ่มๆ รสเข้มข้น ถึงเครื่องพริกกระเทียมเต้าเจี้ยว รสชาติเค็มกำลังดี

เมนูปลาที่ร้านแก้วอาหารไทย เน้นแต่เนื้อปลากะพงเป็นชิ้นๆ ใหญ่ ทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งผัดพริกไทยดำ ผัดฉ่า ผัดผงกะหรี่ ผัดพริกแกง ผัดพริกเผา ผัดขึ้นฉ่าย ผัดเม็ดมะม่วง ฯลฯ เชิญเลือกได้ตามใจชอบ

แค่นี้เราก็อิ่มหนำสำราญกันแล้ว เจ้าของร้านบอกว่าคราวหน้าให้ลองเมนูอร่อยอีก 2 อย่าง “หมูแดดเดียวผัดกะเพรากรอบ” และ“ไข่เยี่ยวม้าผัดกะเพรากรอบ” รับรองว่าผมต้องกลับมาอีกแน่นอน เพราะว่า ข้ามา ข้าได้ชิม ข้าอิ่มอร่อยมีความสุขล้นเหลือกลับไป

ร้านแก้วอาหารไทยเปิดบริการตั้งแต่เที่ยงถึงทุ่มครึ่งในวันธรรมดา ส่วนวันเสาร์เปิดแค่ถึง 5 โมงเย็น วันอาทิตย์หยุดพักผ่อน 1 วัน อย่าลืมว่าควรโทรมาจองโต๊ะก่อนที่เบอร์ 08-9131-2095 นะจ๊ะ