ตะลุยกิน ‘ไต้หวัน’ มัดรวม 9 ร้าน ทั้งโลคัล-มิชลิน เอาใจเหล่านักชิม

ตะลุยกิน ‘ไต้หวัน’ มัดรวม 9 ร้าน ทั้งโลคัล-มิชลิน เอาใจเหล่านักชิม

หนีห่าว สวัสดีเดือนพฤศจิกายน ไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 เดือนที่ลมหนาวเริ่มคืบคลานเข้ามา พร้อมกับบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ซึ่งเหมาะเหลือเกินกับการพักผ่อน หย่อนใจ กางแผนที่ปักหมุดหาสถานที่ท่องเที่ยวฉ่ำๆ สักหนึ่งแมตช์

ก่อนเคาต์ดาวน์สิ้นปีนี้ โดยหมุดหมายยอดฮิตหนีไม่พ้นพันธมิตรชานมอย่าง “ไต้หวัน” เมืองที่เป็นดั่งสวรรค์ของนักกิน ดินแดนแห่งต้นกำเนิดชานมไข่มุก เพราะนอกจากค่าเงินจะใกล้เคียงกับเงินไทย ทำให้นักช้อป นักกิน ไม่จำเป็นจะต้องคิดคำนวณเงินให้ปวดเฮด กลุ้มฮาร์ตแล้วนั้น ค่าครองชีพยังถูกแสนถูก เดินทางสะดวก สามารถขึ้นรถ ลงเรือ ไปเหนือ ล่องใต้ ได้ทั่วทั้งเมือง เพราะระบบขนส่งสาธารณะที่โซกู๊ดแบบสุดๆ อีกทั้งใช้เวลาบินจากประเทศไทยเพียงแค่สามชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ชนิดที่ บินเร็ว ถึงเร็ว ม่วนจอยได้ทันที

ADVERTISMENT

ซึ่งทริปนี้ จะพาเหล่านักกินไปตะลุยร้านเด็ด ร้านดัง ร้านลับ ร้านมิชลิน ร้านโลคัล ทั้งนอกเมือง ในเมือง ที่ไต้หวันแบบจุกๆ ท่ามกลางสายลมหนาวที่โชยมาเบาๆ และฝนพรำในเดือนพฤศจิกายน

ADVERTISMENT

หลังแลนดิ้งสนามบินเถาหยวน ลากกระเป๋าเช็กอินโรงแรม ออกเดินทางเติมอาหารให้กระเพาะโดยเริ่มทริปที่ Xing Fu Tang ร้านชานมไข่มุกชื่อดังย่าน ซีเหมินติง ที่คนต่อคิวยาวเหยียดตั้งแต่เช้าถึงค่ำ บอกเลยว่าหลังจากได้ชิมก็เข้าใจทำไมแถวถึงยาวหลายตลบ ด้วยรสชาติหอม หวานพอดี บวกกับไข่มุกที่มีรสสัมผัสหนึบหนับ เข้ากันได้ดีกับความละมุนของรสชาติชานม

 

ย่านซีเหมินติง

เดินถัดมาอีกซอยจะเจอกับร้าน บะหมี่อาจง ร้านบะหมี่หอยนางรมที่ขึ้นแท่นเป็น favorite ของนักท่องเที่ยวที่ต้องมาลิ้มลอง ด้วยน้ำซุปที่ถูกเคี่ยวจนเหนียวข้น เส้นหมี่จะแตกต่างออกไป รสสัมผัสคล้ายเส้นหมี่ผสมกับวุ้นเส้น รสชาติคล้ายคลึงกับกระเพาะปลาของไทย แต่โดยรวมแล้วอร่อยนัว ถูกปากแน่นอน นอกจากนั้น ร้านยังเปิดเช้า และปิดค่ำ ตอบโจทย์สำหรับใครที่หิวก็สามารถเลี้ยวเข้ามาซื้อสักถ้วยแอ้มๆ ก่อนไปเที่ยวต่อ

หลังจากลิ้มลองเมนูฮอตฮิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขยับมายังร้านที่ขายอาหารโลคัลของไต้หวันที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ อย่าง Wang’s Broth ข้าวหมูสามชั้นตุ๋น ซึ่งเป็นเมนูที่สามารถหากินได้ทั่วไปในไต้หวัน จะมีลักษณะเป็นข้าวราดด้วยหมูสามชั้นตุ๋นพะโล้ รสชาติเข้มข้น รับประทานคู่กับผัดผักน้ำมันหอยจะช่วยผสานรสชาติให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

แม้จะกินอิ่ม แต่ตายังไม่หลับ ไปกันต่อกับการตะลุยกิน ตลาดกลางคืน ที่เรียกได้ว่ามีทั่วทุกหนทุกแห่งในไต้หวัน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหล่านักชิมจากทั่วทุกมุมโลกต่างมารวมตัวกันเพื่อค้นหาของอร่อยในยามราตรี โดยเมนูยอดนิยมที่สุด ไปกี่ครั้งก็ต้องตรงแน่วไปต่อแถวกินเสมอ คือเมนู “เห็ดย่าง” อาหารทานเล่นที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดกลางคืนทุกแห่ง

โดยเป็นการนำ “เห็ดออรินจิ” นำมาย่างบนเตาถ่าน และเคลือบด้วยซอสสูตรพิเศษ นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ และโรยด้วยผงรสชาติที่ชื่นชอบ อาทิ ผงสาหร่าย พริกเกลือ ไปจนถึง สไปซี่ ซึ่งอาจจะมองว่าเห็ดย่างเป็นเมนูที่แสนธรรมดา แต่รสชาติเหนือจินตนาการแบบสุดๆ ใครมีโอกาสไปอย่าลืมไปลองให้แฟ่ด!

อีกเมนูที่เดินผ่านไปไม่ได้เลย เพราะกลิ่นหอมเย้ายวนเกิน อย่างร้านขนมซูเฟล่ ณ ตลาดกลางคืนเหราเหอ ที่มีคุณลุงยืนทำให้ดูแบบสดๆ ออเดอร์ต่อออเดอร์ โดยจะมีให้เลือกหลายรสชาติด้วยกัน ตั้งแต่รสชาติสุดคลาสสิกอย่าง ไข่มุกบราวน์ชูการ์ ช็อกโกแลต ไปจนถึง ชาเขียวมัทฉะ แต่สิ่งที่ดีงามมากกว่าความอร่อย และหน้าตาที่น่ารับประทานคือ ราคาเป็นมิตรมากกกกก

หลังเติมอาหารให้กระเพาะทั้งของคาว และของหวานจนฉ่ำอุราแล้ว เลี้ยวไปซื้อ น้ำวุ้นกบ ซึ่งเป็นวุ้นที่ทำมาจากเมล็ดผลไม้ อ้ายหยู้ ที่เติบโตในบริเวณตอนกลางของไต้หวัน โดยมีสรรพคุณแก้ร้อนใน มีไฟเบอร์ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย และมีฤทธิ์เย็นดับกระหายได้อย่างยอดเยี่ยม

วุ้นกบ

หลังตะลุยกินตลาดกลางคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช้าวันถัดมา ปักหมุดมื้อแรกของวันที่ร้าน Zhouji Meat Porridge ร้านหมูกรอบในตำนาน ใกล้กับ วัดหลงซาน วัดชื่อดังที่เหล่านักรักต่างมาไหว้ขอพรเรื่องความรัก โดยร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 60 ปี ซึ่งเมนูของทางร้านจะมีหลากหลายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หมูกรอบ เครื่องใน แก้มหมู ไก่ต้ม โดยแต่ละเมนูจะรับประทานคู่กับข้าวต้มหมูร้อนๆ เสริมสร้างพลังใจให้แก่เช้าวันใหม่ได้เป็นอย่างดี

วัดหลงซาน

แต่เมนูที่เด็ดสะระตี่ เลื่องชื่อลือชาที่สุดคือ “หมูกรอบ” มาร้านนี้ทั้งที ต้องจิ้มสั่งด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นหมูกรอบที่กรอบกำลังดี เนื้อฉ่ำ จิ้มกับซอสเต้าเจี้ยวยิ่งเพิ่มความอยากอาหารมากขึ้นไปอีก ซึ่งไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเป็นตำนาน

Zhouji Meat Porridge ร้านหมูกรอบในตำนาน

นอกจากข้าวต้ม หมูกรอบอันโด่งดังแล้ว อีกเมนูอาหารเช้าโลคัลอย่าง ฟ่านถวน ที่คนไต้หวันนิยมกินกันเป็นอาหารเช้า เหมือนกับที่คนไทยกินข้าวเหนียวหมูปิ้งฉันนั้น โดยฟ่านถวนจะมีลักษณะเป็นข้าวที่ถูกม้วนเป็นก้อนยาว มีไส้ข้างในที่อุดมไปด้วยอาหารต่างๆ ตามออเดอร์ ตั้งแต่ไส้กรอก ไข่พะโล้ ไปจนถึง ปาท่องโก๋ ที่แม้จะถูกรวมมาอยู่ด้วยกันแบบงงๆ แต่รสชาติดีอย่าบอกใคร อีกทั้งยังก้อนเบิ้มมาก ขอเตือนไว้ก่อนว่าทานคนเดียวอาจจะไม่ไหว

ฟ่านถวน

ต่อมา พาขยับออกไปตะลุยกินนอกเมืองสักหน่อย โดยเมืองที่เดินทางไปนั้นคือ เมืองจีหลง เมืองที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับไทเป ใช้เวลาเดินทางโดยนั่งรถไฟฟ้าแค่ 40 นาทีเท่านั้น ซึ่งนครจีหลงนั้นเป็นเมืองที่โดดเด่นในเรื่องของการประมง อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องฝนตกชุก จนได้ฉายาว่า ท่าเรือสายฝน เดินทางมาเมืองท่าทั้งที จะพลาดอาหารทะเลได้ยังไง

ซึ่งหลังจากที่ลัดเลาะหุบเขา ผ่านท่าเรือสีรุ้ง มุ่งหน้ามาฝากท้องที่ ตลาด Renai ณ ร้านข้าวหน้าทะเล ที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของตลาด โดยเมนูของร้านเป็นเมนูอาหารทะเล มีทั้งเมนูเส้น และเมนูข้าว แต่เมนูที่ขายดีที่สุดคือเมนู ข้าวหน้าหอยนางรม ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟหอยนางรมให้แบบไม่มีกั๊ก โปะด้วยไข่ดาวเยิ้มๆ รับประทานคู่กับน้ำมันพริกเพิ่มความหอม และเผ็ดร้อน ด้วยความสดของหอยนางรม ประกอบกับข้าวสวยร้อนๆ กินท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำ บอกเลยว่าขอติดฝนกินข้าวหน้าหอยนางรมตลอดไป

ข้าวหน้าทะเล

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ “ส่วนหนึ่ง” เท่านั้น ไต้หวันยังมีร้านอาหารเริ่ดๆ ปังๆ อีกมากมาย ที่รอให้เหล่านักชิมเดินทางไปลิ้มลอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image