นับตั้งแต่การประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่เหล่าบรรดาสาวงาม 95 ประเทศ ได้ร่วมทำกิจกรรมที่ประเทศไทย เหล่าแฟนนางงามก็ต่างมองหาตัวเก็ง ปักหลักเชียร์กันอย่างสนุกสนาน
และหนึ่งในสาวงามที่คนทั่วโลกจับตามอง ก็คงไม่พ้นเจ้าบ้าน อย่าง นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ที่ฉายแวว เตะตาแฟนนางงามเช่นกัน นอกจากนี้หลายคนยังมองว่า หลังจากที่ได้เริ่มทำกิจกรรมเก็บตัว นิ้ง-โศภิดา ดูกดดันน้อยลงนั้น ตัวแทนประเทศไทยเผยว่า สำหรับการเก็บตัวครั้งนี้ นิ้งก็ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา ที่ฝึกฝนมาตลอดปี ถือว่าเรามีโอกาสปล่อยของ ได้สนุกไปกับมัน เป็นตัวของตัวเอง ให้ความงามเผยแพร่สู่สังคมและจักรวาล ดังนั้นก็เลยสนุกสนานไปกับเพื่อนๆ ทั้ง 94 ประเทศ ที่เราจะได้รู้จักวัฒนธรรม ภาษาของเขา ซึ่งนิ้ง ก็ใช้เวลานี้คุยกับทุกคน รู้จักเขา และเผลอๆ อนาคตก็จะได้ไปเที่ยวบ้านเขาฟรีด้วย เพราะเรามีเพื่อนน่ารัก
โดยหลายคนก็ต่างจับตามองว่า นิ้ง ได้จับคู่กับตัวเก็ง อย่าง แทมาริน กรีน มิสยูนิเวิร์สแอฟริกาใต้ ซึ่งนิ้งบอกว่า สนิทมากที่สุดในกอง
“นิ้งสนิทกับรูมเมทมากที่สุด ก็คือ นางงามจาก แอฟริกาใต้ เราเป็นบัดดี้กัน อยู่ด้วยกันมาตลอด เรียกว่าได้เฮฮาปาร์ตี้ด้วยกัน จริงๆ เขาเรียนหมอ นิ้งก็รู้สึกดีมาก ถ้าเกิดนิ้งไม่สบายจะได้ถามเขา ที่สำคัญ คุณพ่อนิ้งเป็นหมอ ก็จะได้คุยเรื่องการแพทย์กัน เรียนรู้จากวัฒนธรรมของเขา อีกอย่างคือนิ้งเป็นคนที่ชอบแทร็กกิ้ง แอฟริกาก็ดังเรื่องเหมืองแร่ มีเส้นทางแทร็กกิ้งเยอะ อะไรแบบนี้ ก็ถือโอกาสนี้ในการเรียนรู้ประเทศของเขา วันหนึ่ง เผื่อจะได้ไป กับรูมเมทส่วนใหญ่ ก็คุยเรื่องความสวย และอาหารว่าอาหารอร่อยจัง แต่นอกจากสาวแอฟริกาใต้ ทุกคนก็มีเสน่ห์ สวย ทุกคนสวยอย่างที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้ ซึ่งทุกคนมีเอกลักษณ์ นิ้งอยากเรียนรู้จุดเด่นของทุกคน ในเวลาอันสั้น
โศภิดา ยังพูดถึงของฝากต่างๆ ว่า นิ้งก็มีพัด แต่ละประเทศ บวกกับพัดเมืองไทย ที่ให้ก็เหมือนเป็นสายลมแห่งความรัก ทุกคนได้ความรักกลับไป ว่าครั้งหนึ่งเขามาเมืองไทย มีความสุขขนาดไหน เขาได้รีเฟรซใหม่ และรักประเทศไทย กลับไปด้วยความสุข
กับความคาดหวังในการประกวดครั้งนี้ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เผยว่า นิ้งอยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เป็นของขวัญคริสต์มาส และปีใหม่ให้กับคนไทย เพราะรู้ว่าปีที่ผ่านมา เราเจอกับความโศกเศร้ามามากแล้ว อยากจะใช้เวลานี้ในการเฉลิมฉลองให้เต็มที่ ก็จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด
“สิ่งนี้ถือเป็นความฝันของนิ้ง ที่รอมา 23 ปี ตั้งแต่เกิดมา จำความได้ก็เวทีนี้เท่านั้น และนิ้งก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ภูมิใจมาก”
สำหรับชุดประจำชาติ ที่มีกระแสนั้น โศภิดาเผยว่า ก็จะมีการเปลี่ยนนิดหนึ่ง บริเวณส่วนหัว บอกได้เลยว่าทีมงานและดีไซเนอร์ ให้ความสำคัญกับชุดนี้ทุกคน ดังนั้น เขาก็จะปรับปรุงให้ ตอนนี้ก็ยังไม่เห็น หวังว่าจะโอเค และทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
นอกจากนี้ โศภิดา ยังเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีพระเมตตาออกแบบชุดให้กับนางงาม และนิ้งได้มีโอกาสสวมใส่ ชุดสีฟ้า ที่เป็นนกยูง สวยงามมาก นอกจากนี้เพื่อนๆทุกคนยังได้ใส่ชุดไทย ไม่ว่าชาติไหน เหมือนเป็นการเผยแผ่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จัก ว่าไม่ว่าชาติใดก็ใส่ได้สวยงาม ซึ่งนิ้งก็แนะนำผ้าไหมไทยให้ทุกคนรู้จัก
