ที่มา | คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม |
---|---|
ผู้เขียน | ปิ่นโตเถาเล็ก |
อาทิตย์นี้ ปิ่นโตเถาเล็กภูมิใจนำเสนอ “ร้านอาหารทะไลสไตล์ไทยจีนกวางตุ้ง”ร้านเล็กๆ ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารทะเลจากทุกมุมโลก รับรองว่า“สดแปลกใหม่”ไม่ซ้ำใคร เหมาะสำหรับพาครอบครัวเพื่อนฝูงไปเลี้ยงฉลอง สร้างความตื่นตาตื่นใจได้อย่างไม่ธรรมดา ร้านนี้มีชื่อว่า “หลุยส์ ลีแมน (Louis Leeman)”
แค่เห็นชื่อร้านก็นึกว่าเจ้าของร้านคงต้องเป็นชาวฮ่องกงชาวสิงคโปร์ ความจริงเจ้าของร้านเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ชื่อ”คุณชิงชัย เอื้อครองธรรม” หรือคุณชิง ผู้ชื่นชอบในการกินจนต้องเปิดร้านของตัวเองนาน 2 ปีแล้ว คำว่าหลุยส์ ลีแมน มาจากชื่อจีนของคุณพ่อคุณชิง หลือโหลยเมี่ยง ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้าผลไม้นอก เลยจำเป็นต้องมีชื่อเรียกได้ง่ายสำหรับติดต่อธุรกิจ
ร้านหลุยส์ ลีแมน อยู่ในย่านเก่าของกรุงเทพฯแถว”สวนมะลิ ริมถนนยุคล 2″ ถ้ามาจากห้าแยกพลับพลาไชย มาตาม”ถนนหลวง” ผ่านวัดเทพศิรินทร์ พอถึง”แยกโรงพยาบาลกลาง”ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนยุคล 2 ร้านหลุยส์ ลีแมนจะอยู่ถัดจาก”สถานีดับเพลิงสวนมะลิ” ทางฝั่งซ้ายมือ หรือถ้าเข้าจากอีกด้าน มาจากฝั่งถนนบำรุงเมือง ร้านก็จะอยู่ทางด้านขวามือนะจ๊ะ
ตัวร้านเป็นตึกแถวเล็กๆ ตกแต่งในบรรยากาศชายทะเลโมเดิร์น ชั้นล่างมีของทะเลโชว์อยู่ในตู้กระจก ชั้น 2 และ 3 จุได้ชั้นละ 5 โต๊ะ ซึ่งชั้น 3 นั้นสามารถจัดเลี้ยงร้องเพลงคาราโอเกะได้ด้วย
ก่อนอื่นขอบอกว่าร้านหลุยส์ ลีแมนนั้นมีทั้งอาหารทะเลเมนูสนนราคาสบายกระเป๋า และของดีๆราคาแพงชนิดที่หากินร้านอื่นได้ยาก อยากมากินราดหน้าทะเลจานเดียว หรือสั่งเมนูอลังการแปลกใหม่ได้ทั้งนั้น
เริ่มกันด้วยของกินเล่น “แฮ่กึ๊น” ไส้กุ้งขาว กุ้งเป็นกุ้งเคี้ยวได้เต็มคำ เนื้อเด้งอร่อยมากๆ (200-400 บาท) และเมนูดูดีสุดสุด “หมั่นโถวจักรพรรดิ”(450 บาท) จานนี้ประยุกต์มาจากพายเป๋าฮื้อที่ฮ่องกง ประกอบด้วยหมั่นโถวกรอบนอกนุ่มในราดซอสซีอิ๊วหอมๆ ไม่หวานมาก โปะหน้าด้วยเป๋าฮื้อแอฟริกาใต้ตุ๋น ให้มา 2 ชิ้นต่อ 1 จาน ห้ามพลาดเลยนะจ๊ะทั้ง 2 เมนู
คั่นรายการด้วยผัดผักที่ไม่ค่อยเห็นในร้านไหน “ดอกชมจันทร์ผัดเห็ดหิมะ”(100 บาท) กรอบอร่อยมีรสขมนิดๆ ดอกชมจันทร์มีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ
วันนั้นโชคดีมีหอยสุดโปรดมาจาก”สเปน หอยไม้ไผ่หรือหอยหลอด (Razor Clam) นึ่งกระเทียมและซีอิ๊ว“(650 บาท) ใส่วุ้นเส้น หอยตัวยาวๆ นุ่มหนึบอร่อยแกล้มด้วยกระเทียมสดกับกระเทียมดองอีกต่างหากเข้ากันดี
ใครอยากกินปู ขอบอกว่ามาถูกร้านแล้วจ้า ที่นี่มีปูตัวยักษ์จากสารพัดแหล่งทุกมุมโลก เราสั่ง”ปูดำ หรือ Mud Crab จากประเทศเคนย่า” ตัวมหึมาหนัก 1.7 กิโล(ขีดละ 230 บาท) ก้ามใหญ่กว่าฝ่ามืออีก นำมาทำเมนูยอดนิยมของร้านนี้ “ปูทะเลผัดซอสไข่เค็ม”ซึ่งตัวซอสจะเคลือบอยู่ที่ชิ้นปูทุกอณู รสนุ่มนวลชวนให้กินไม่ยั้ง โดยวิธีทำนำปูชุบแป้งมันฮ่องกงและลงทอด และนำไข่แดงเค็มซึ่งต้มและปั่นละเอียดลงไปคลุกเคล้า จานนี้ครอบครัวเรากิน 4 คนยังเหลือเลย
เมนูผัดซอสไข่เค็มอีกอย่างที่ขึ้นชื่อของร้านหลุยส์ ลีแมนก็คือ “กุ้งลายเสือพันหมี่ผัดไข่เค็ม” (1 ตัว 450 บาท/2 ตัว 850 บาท) กุ้งขนาดใหญ่ 4 ตัว/กิโล กินคนละตัวก็อิ่มแปล้แล้ว
เห็นปูเคนย่าใหญ่ขนาดนั้นแล้ว เหนือฟ้ายังมีฟ้า ยังมีปูใหญ่ยักษ์อื่นๆ อีกอย่างเช่น “ปูคิงแคร้บยักษ์จากเกาะแทสเมเนีย ออสเตรเลีย (Tasmanian King Crab)” หนักเกือบ 4 กิโลกรัม(ขีดละ 750 บาท ตัวนี้คือที่แพงที่สุดในร้าน) ทำได้ 2 เมนู จะผัดพริกไทยดำก็ได้ หรือลอง“ปูรัสเซียนึ่ง”(ขีดละ 580 บาท) ตัวหนักเกือบ 3 กิโล หรือบางครั้งก็มีแม้กระทั่ง”ปูทะเลไทย”ด้วย
วันที่เราไปมีปลาแปลกๆ ที่แพงมากเพราะคนจีนเหมาไปทำอาหารที่เมืองจีนหมด มีชื่อว่าEmpurau ซึ่งคุณชิงชัยบอกว่าคือปลาหวังปู้เหลียว คล้ายปลาเวียน เป็นปลาน้ำจืดจากมาเลเซีย กินผลไม้เป็นอาหาร เนื้อจึงนุ่มมันอร่อยกว่ากินปลาหิมะอีก ซึ่งจะแล่เป็นชิ้นใหญ่นำมาทำ“ปลา Empurau นึ่งซีอิ๊ว”( 4 ขีด 7,200 บาท หรือกิโลละ 18,000 บาท) เมนูนี้ให้กินคู่กับก๋วยเตี๋ยว“เส้นใหญ่ที่ทอดเส้นจนกรอบนอกนุ่มใน” อร่อยสุดสุด ปลาอีกชนิดที่ลูกค้าชอบสั่ง คือ “ปลา Turbot ตัวแบนๆ นึ่งซีอิ๊ว”(ขีดละ 290 บาท) เป็นปลาโปรดของผมเลย
หรือถ้าชอบน้ำๆ ซดๆ ร้อนๆ ต้องสั่ง“เนื้อปลาเก๋าหม้อไฟ” ชุดละ 500 บาท) ลวกในน้ำซุปสมุนไพรจีน จิ้ม”น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวขิง”ที่ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำมันงา รากผักชี กระเทียม พริกขี้หนูสวน รสจัดจ้านหอมมาก หรือจะสั่ง“ปลาเต๋าเต้ยหม้อไฟ”(ขีดละ 190 บาท) เนื้อมันๆ อร่อยมาก
ปิดท้ายกันด้วยเมนูจานเดียวที่มากินเป็นมื้อกลางวันก็ได้ มีทั้ง“บะหมี่เป๊าะผัดซอส XO“(150-300 บาท) เส้นแบนๆ ใหญ่เคลือบซอส XO ทำเองไม่หวานมาก หรือจะสั่ง“ราดหน้าปลาเต้าซี่”(150 บาท) ราดหน้าที่นี่สั่งให้ทำเส้นได้ทั้งแบบเส้นธรรมดา เส้นคั่วกระทะจนไหม้ๆ หอมๆ และเส้นทอดจนกรอบเหมือนที่เรากิน อีกทั้งยังมี“ข้าวอบซีฟู้ดใส่กุ้งและเนื้อปลาเก๋า อบซอสเป๋าฮื้อเข้มข้น”(150 บาท) อย่าลืมสั่งของหวาน “สาคูแคนตาลูป”(50 บาท) ซึ่งนำไอศกรีมวานิลลามาปั่นรวมกับแคนตาลูปและนมข้นกลายเป็นหวานเย็น รองด้วยเม็ดสาคูสีชมพู
ยังมีของดีอีกมากมาย เช่นหอยเชลล์ยูเอสอบเนย หอยนางรมสด กุ้งล็อบสเตอร์แคนาดาผัดพริกมะนาวใส่พริกขี้หนูสด ปลาเงินทอด สเต๊กเป๋าฮื้อ
ร้านนี้จะมาคนเดียวหรือมาเลี้ยงฉลองกินของดีน่าตื่นตาตื่นใจเป็นหมู่คณะก็ย่อมได้ ถ้ามามื้อเย็นควรโทรมาจองก่อนที่ 0-2223-6911 และ 08-1812-1704 อีกทั้งตอนนี้มีร้านใหม่ที่”ซอยเพชรบุรี 38/1 (ซอยด้านหลังสุขุมวิท 39) ในอาคาร Citi Resort” อีกด้วยนะจ๊ะ
ข้อมูลร้าน
Louis Leeman
โดย คุณชิงชัย เอื้อครองธรรม
ที่ตั้ง 315 ถนนยุคล 2 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทร 0-2223-6911 08-1812-1704
เปิดบริการ 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. ทุกวัน
แนะนำ แฮ่กึ๊น หมั่นโถวจักรพรรดิ ดอกชมจันทร์ผัดเห็ดหิมะ หอยไม้ไผ่ (Razor Clam) นึ่งกระเทียม ปูเคนยาผัดซอสไข่เค็ม กุ้งลายเสือพันหมี่ผัดไข่เค็ม ปลา Empurau นึ่งซีอิ๊ว ปลาTurbot นึ่งซีอิ๊ว (กินคู่กับเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดกรอบๆ) เนื้อปลาเก๋าหม้อไฟ บะหมี่เป๊าะผัดซอส XO ข้าวอบซีฟู้ดใส่กุ้งและเนื้อปลาเก๋าอบซอสเป๋าฮื้อ สาคูแคนตาลูป
หมายเหตุ มีสาขาใหม่ที่ซอยเพชรบุรี 38/1 (ซอยด้านหลังสุขุมวิท 39) ในอาคาร Citi Resort