เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าโวย โยงมั่วบุหรี่ไฟฟ้าทำเสี่ยงโควิด เตือนรับข่าวสารให้ครบถ้วน

เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลุ่มลาขาดควันยาสูบและแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” เปิดเผยว่า แพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศหลายรายได้ออกมาระบุแล้วว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอที่จะชี้ได้ว่าไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าทำให้ติดเชื้อโควิดมากขึ้น ล่าสุดองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอสเอฟดีเอ) ได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนเรื่องโควิด-19 กับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ดังนั้นเหตุผลที่กลุ่มต่อต้านบุหรี่อ้างว่าควันบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าแพร่เชื้อโควิดถือเป็นเรื่องไร้สาระ และไร้ความรับผิดชอบมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สังคมกำลังหวาดกลัวกับการระบาดของโรคนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่ายูเอสเอฟดีเอได้ปรับแก้จุดยืนเรื่องโควิด-19 กับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เมื่อเดือนที่ผ่านมา ยูเอสเอฟดีเอระบุว่าผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและผู้สูบบุหรี่ ที่มีอาการป่วยอื่นๆ อาจมีความเสี่ยงโรคโควิด-19 มากขึ้น แต่ล่าสุดยูเอสเอฟดีเอระบุว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าทำให้ปอดสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ แต่ว่าการสัมผัสเหล่านี้ เพิ่มความเสี่ยงของโรคโควิด-19 หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ

ข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายรายได้ออกมาให้ความเห็นว่าไม่มีหลักฐานชี้ชัดที่จะสรุปว่าควันบุหรี่และไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าช่วยกระจายเชื้อไวรัสได้ อาทิ นางโรซานนา โอ คอนนอร์ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England: PHE) ระบุถึงรายงานของ PHE ในปี 2018 ที่ยืนยันว่าไอของบุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่รอบข้าง และกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าสามารถติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจากการสัมผัสกับไอละอองของบุหรี่ไฟฟ้า ด้านนักวิชาการด้านการแพทย์ ดร.นีล เบโนวิตส์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณด้านแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก แย้งว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าควันบุหรี่และไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าช่วยกระจายเชื้อไวรัสได้ ยกเว้นกรณีผู้พ่นควันมีอาการไอและจามร่วมด้วย ขณะที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็สรุปเพียงว่าผู้สูบบุหรี่หรือผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการสัมผัสกับนิ้วที่คีบบุหรี่หรือการใช้บุหรี่ไฟฟ้าร่วมกัน

ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการประโคมข่าวจากกลุ่มต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและการสูบบุหรี่นั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสมากขึ้น รวมถึงเป็นตัวการในการแพร่เชื้อไวรัส ทั้งๆ ที่ยังไม่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างเพียงพอ สอดคล้องกับที่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่ชุดความรู้ถามตอบเกี่ยวกับโควิด-19 ว่า ยังไม่พบหลักฐานว่าติดต่อทางควันบุหรี่ได้

Advertisement

นายมาริษ กล่าวอีกว่า การห้ามให้บุหรี่ไฟฟ้าในไทยนั้นมีผู้ลักลอบใช้อยู่เป็นจำนวนมากและไม่สามารถการันตีว่าจะช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนได้ นอกจากนี้ การแบนยังบังคับให้คนที่เลิกสูบบุหรี่ไปแล้ว และหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อลดอันตรายจากควัน ต้องกลับไปสูบบุหรี่ตามเดิม ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะมีการปราบปรามแต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ในวิกฤตของสุขภาพเช่นนี้ ประเทศไทยควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าให้ดี เพราะมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมากว่าบุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยคนเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงและประเทศไทยสามารถเรียนรู้จากประเทศต่างๆ ที่มีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image