น้ำมะพร้าว เกลือแร่ทางธรรมชาติ ดื่มให้เป็น ได้ประโยชน์กว่าที่คิด!
เป็นที่รับรู้กันว่า มะพร้าวเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ภายในมีน้ำบริสุทธิ์ หากรับประทานคงได้รับสารอาหารเหมือนผลไม้ทั่วไป แต่เดี๋ยวก่อน มะพร้าวมีความมหัศจรรย์มากกว่านั้น
เพราะประโยชน์ของน้ำมะพร้าว คือ มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ขาวนวลอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งมีผลต่อการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
ส่วนเนื้อมะพร้าวอ่อนและน้ำมันมะพร้าวอ่อน ยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น สำหรับร่างกายอย่างครบถ้วน อาทิ วิตามินซี วิตามินบี กรดอะมิโน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก และไขมัน ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ทั้งนี้ น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติ ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น แก้กระหายน้ำ ร่างกายดูดซึมได้ภายใน 5 นาที ช่วยดับร้อนในร่างกาย แก้ร้อนใน ช่วยล้างพิษ ขับพิษของเสียออกจากร่างกาย ช่วยปรับสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติ
น้ำมะพร้าวเป็นน้ำเกลือแร่ตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักกีฬา เพราะอุดมไปด้วยธาตุโพแทสเซียม ช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ภาวะความจำเสื่อมในสตรีวัยทอง เพราะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง น้ำมะพร้าวยังแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ด้วยการใช้มะนาว 1 ซีกบีบผสมกับน้ำมะพร้าวอ่อนแล้วดื่ม
แน่นอนขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้มีประโยชน์ แต่หากจะได้รับประโยชน์สูงสุด ต้องดื่มให้เป็น เริ่มที่ การดื่มน้ำมะพร้าวให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือ
-ดื่มน้ำมะพร้าวก่อนนอน ตรงนี้แม้ยังไม่มีผลวิจัยรองรับแน่ชัด แต่กูรูสายสุขภาพก็ต่างแนะนำว่า จริง เพราะการดื่มก่อนนอน จะช่วยฟื้นฟูและบำรุงร่างกายได้ดีในเวลาที่เรานอนหลับ ส่งผลให้ดูดซึมสารอาหารได้ดี ช่วยชะลอความแก่ บำรุงผิวพรรณให้สดใส ตื่นขึ้นมาผิวพรรณจะได้เด้ง เปล่งปลั่ง สดชื่น
-ดื่มช่วงท้องเสีย อ่อนเพลีย เพราะหากมีอาการท้องเสียจากอาหารเป็นพิษ ถ่ายท้องหลายรอบ จนรู้สึกอ่อนเพลีย การดื่มน้ำมะพร้าว สามารถทดแทนน้ำเกลือแร่ได้ ลดอาการขาดน้ำ ช่วยให้มีพลังงาน ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว เว้นหากเป็นหนักๆ ควรพบแพทย์จะดีที่สุด
-ดื่มชะลอความแก่ น้ำมะพร้าวสามารถดื่มได้ทุกวัน วันละไม่เกิน 1 ลูก และดื่มได้ทุกช่วงวัย โดยแนะนำให้เป็นน้ำมะพร้าวสด จะเวิร์กที่สุด
อย่างไรก็ตาม น้ำมะพร้าวแม้จะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังกับผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากแม้จะมีน้ำตาลน้อย แต่ในน้ำมะพร้าวก็มีคาร์โบไฮเดรต ซึ่งก็จะย่อยและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรดื่มเยอะ หรือบ่อยเกินไป แนะนำให้ดื่มไม่เกิน 1-2 ลูกต่อสัปดาห์
ส่วนผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากน้ำมะพร้าวมีสารที่ช่วยขับปัสสาวะ ถ้าร่างกายขับปัสสาวะบ่อยๆ หรือมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ผู้ป่วยโรคไตอาจหัวใจวายได้ แนะนำให้ดื่มไม่เกิน 1-2 ลูกต่อสัปดาห์
ข้อมูลจาก pharmacy.mahidol, medthai, sukkaphap-d
