หมอแอมป์ แนะ 5 วิธีชะลอวัยตามหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต เลี่ยงสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 เช็กโรคมากับความชรา
ส่งต่อสุขภาพดี นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ หรือ หมอแอมป์ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ RoyalLife Wellness Clinic และโรงพยาบาลกรุงเทพอุดร จัดงาน RoyalLife Health Talk ส่งมอบความรู้และแนวทางการดูแลสุขภาพ ภายใต้หลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) เดินหน้าสร้างคอมมูนิตี้สุขภาพดีทั่วไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อุดร
** เมื่อโลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของสังคมผู้สูงอายุ
ในปัจจุบัน โลกของเรากำลังเผชิญหน้ากับการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงประเทศไทยที่ก้าวเข้าสู่ช่วงสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งเป็นสภาวะที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 20%
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้สังคมผู้สูงอายุเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลกอย่างมีนัยะสำคัญ คือความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยยืดอายุขัยของมนุษย์ (Lifespan) ให้ยืนยาวขึ้นกว่าในอดีต โดยในช่วงระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2562 อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโลกเพิ่มขึ้นจาก 66.8 ปี เป็น 73.4 ปี หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 6.6 ปี
แต่ในขณะเดียวกัน อายุขัยสุขภาพ (Health Span) หรือระยะเวลาที่ร่างกายและจิตใจยังคงสมบูรณ์แข็งแรง กลับเฉลี่ยอยู่ที่ 63.7 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อกระบวนการชรา หรือกระบวนการแก่ เป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การป้องกัน “โรคที่มากับความชรา” โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง Non-Communicable Diseases (NCDs) อย่าง เช่นโรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน เครียด โรคมะเร็ง และโรคอื่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักถึง
ด้วยเหตุนี้การแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) จึงกลายมาเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญของผู้คนทั่วโลก เพื่อการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
“เวชศาสตร์วิถีชีวิต” (Lifestyle Medicine) หัวใจสำคัญ สู่การมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
หลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต หรือ Lifestyle Medicine คือศาสตร์ทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการสร้างรากฐานของสุขภาพที่ยั่งยืน โดยเป็นการดูแลสุขภาพตั้งแต่ต้นทางผ่านการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพ
ซึ่งหลักการของการแพทย์ เวชศาสตร์วิถีชีวิต เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติด รวมถึงการดูแลจิตใจและอารมณ์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและยั่งยืนให้กับผู้คนในทุกช่วงวัย
เคล็ดลับชะลอวัย ห่างไกลโรคตามแบบฉบับ “หมอแอมป์”
นอกจากนี้ นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ หรือ หมอแอมป์ ยังได้เผยถึงเคล็ดลับของการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต ดังนี้
ห้ามอ้วน: เพราะความอ้วนไม่ใช่แค่เรื่องของบุคลิกภาพภายนอก แต่ยังเป็นสัญญาณของความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว โดย ณ ปัจจุบัน ประชากรชาวไทยกำลังเผชิญกับปัญหาโรคอ้วนและน้ำหนักเกินสูงถึง 3% การหันมาดูแลสุขภาพและควบคุมโรคอ้วนจึงกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนควรหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน ยังเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเมื่อโลกของเราตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด โดยมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากถึง 7 เท่า
นอนหลับวันละ 8 ชั่วโมง: การพักผ่อนถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหากต้องการส่งเสริมสุขภาพ โดยควรนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม และนอนหลับพักผ่อนให้ครบ 8 ชั่วโมงต่อวัน
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน และทำเป็นประจำ 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงมากขึ้น สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน และโรค NCDs อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลีกเลี่ยงสารอันตราย: บุหรี่ แอลกอฮอล์ และฝุ่น PM 2.5 ถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 ดังนั้น การลด ละ เลิก หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเหล่านี้ สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้
ลดความเครียด ผ่อนคลายจิตใจ: ความเครียดถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่สามารถก่อมะเร็งได้ ดังนั้น หากต้องการมีสุขภาพที่ดีและยั่งยืน การลดความเครียดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง