‘โหรฟองสนาน’ ชี้ 4 ราศี เตรียมรับมือพระเสาร์จร (7) ย้ายราศี ส่งกำลังให้ผลเต็มที่

“ฟองสนาน จามรจันทร์” โพสต์ข้อความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 307 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ เตรียมรับมือพระเสาร์จร (7) ย้ายราศี

รูปจักรราศีเมษ – มีน
พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีธนูระหว่าง 1 ธันวาคม 2560 – 1 มีนาคม 2563
พระเสาร์จร (7) จะย้ายจากราศีธนูเข้าไปเดินในราศีมังกรระหว่าง 1 มีนาคม 2563 – มีนาคม 2566 – ส่งกำลังให้ผลเต็มที่ต่อราศีมังกร – มีน – กรกฎ และตุลย์

กลุ่มดาวในดวงเดิมที่สถิตในราศีมังกร – มีน – กรกฎ และตุลย์ แล้วเพิ่มผลด้านร้ายจากพระเสาร์จร (7) ที่มังกรคือ
พระอาทิตย์ดวงเดิม (๑)
พระจันทร์ดวงเดิม (๒)
พระอังคารดวงเดิม (๓)
พระศุกร์ดวงเดิม (๖)
พระเสาร์ดวงเดิม (๗)

กลุ่มดาวในดวงเดิมที่สถิตในราศีมังกร-มีน-กรกฎและตุลย์แล้วส่งผลด้านดีจากพระเสาร์จร (7) ที่มังกรคือ
พระพุธดวงเดิม (๔)
พฤหัสบดีดวงเดิม (๕)
พระราหูดวงเดิม (๘)

Advertisement

แม่หมอสมัครเล่นตอนนี้จะได้เริ่มจาระไนเรื่องพระเสาร์จร (7) ที่กำหนดจะลาจากราศีธนูที่เริ่มเข้าไปเดินตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2560 ย้ายไปเดินในราศีมังกรตั้งแต่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป และจะอยู่ที่มังกรยาวนานสองปีครึ่ง – 1 มีนาคม 2566 (ในระหว่างนั้นมีเดินผิดปกติ-ข้ามราศี)

ในทางโหราศาสตร์พระเสาร์เป็นหัวหน้าดาวร้าย – เป็นตัวทุกข์ – เทพเจ้าแห่งความระทมที่หลายคนพากันขยาด อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ได้เขียนบรรยายอาการของพระเสาร์ไว้ในหนังสือโหราศาสตร์ ปริทรรศน์ว่าเป็น – การกระทำด้วยความลำเค็ญ แม้จะลำบากทุกข์ยากอย่างสุดแสนก็จำเป็นจะต้องฝ่าฟันกระทำไป ความมุมุ่งในการประกอบการงานอย่างชนิดใจจดใจจ่อนี้จึงทำให้กลายเป็นผู้สันโดษ จิตใจเงียบขรึมเหี่ยวแห้ง และเป็นสิ่งที่ให้ความชักช้า เพราะเหตุที่ดาวเสาร์เป็นดาวที่เกี่ยวกับความเหนื่อยยาก ท่านโบราณาจาริย์จึงให้คำจำกัดความว่า …ทายโทษทายทุกข์ให้ทายเสาร์…

จากข้อความวรรคนี้สรุปโดยย่ออาการของพระเสาร์คือ

1.เป็นตัวทุกข์ อยู่ที่ไหนทุกข์ที่นั่น แต่ลำบากแค่ไหนก็ต้องกัดฟันสู้และฝ่าฟันไป

2.เป็นตัวแทนความสันโดษ ขรึม เหี่ยวแห้ง พูดง่ายๆ คืออารมณ์ขี้ทุกข์ รักคนยาก รักแล้วรักเลย เกลียดแล้วเกลียดเลย ฝังจิตฝังใจ

3.ความชักช้า-ล่าช้า เป็นเพราะในบรรดาดาวที่มองเห็นด้วยตาเปล่าทั้งหมดนั้นพระเสาร์จะเดินช้าที่สุดโดยใช้เวลาเดินในแต่ละราศีสองปีครึ่ง ฉะนั้น เมื่อจะเดินครบรอบจักรราศีทั้งสิบสองราศีจะใช้เวลาสามสิบปี

อย่างไรก็ตาม หลักโหรนั้นไม่มีดาวอะไรดีทั้งหมดหรือร้ายทั้งหมดเพราะมันผิดธรรมชาติ โดยด้านดีของพระเสาร์นั้นอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร บรรยายไว้ว่า….แสดงถึงความคิดลึกซึ้ง มักข้องอยู่ในความระแวงและระวังมัธยัสถ์ใช้จ่าย ความสามารถในการปกครอง การจัดระเบียบ ความมักใหญ่ใฝ่สูง ความสามารถในการดำรงชีวิตสาธารณชน… ซึ่งสรุปออกมาคือ

1.รู้จักคิด เป็นนักคิดนักวางแผนก่อนทำ ไม่ทำอะไรแบบมุทะลุ (อาการของพระอังคาร) แต่ก็ต้องระวังอาการช้าที่จะส่งผลให้พลาดโอกาสดีๆ ของชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย

2.เมื่อคิด-วางแผนดีแล้วพระเสาร์จะให้ความเก่งเรื่องการบริหารจัดการ ฉะนั้น นักบริหารชั้นเยี่ยมทั้งหลายพระเสาร์มักจะเด่นในดวงชะตา แถมยังอดทน อึด ทนแรงกดดันได้อย่างเหลือเชื่อ คนที่มีพระเสาร์เด่นในดวงชะตาจึงเหมาะสำหรับการทำงานใหญ่ๆ ที่แบกภาระ-แรงกดดันหนัก

3.เห็นค่าหรือรู้จักใช้บริหารจัดการเรื่องเงิน บางคนเข้าข่ายขี้เหนียว ใช้ชีวิตต่ำกว่ามาตรฐานรายได้ สามารถอดทนอดออมและต่อยอดเงินและทรัพย์สินได้ดี จึงเป็นดาวที่ให้ผลลำบากช่วงเริ่มต้นในการลงมือทำ แต่เมื่อสบายแล้วมักจะไม่กลับไปลำบากอีก

4.สามารถจัดระเบียบเรื่องต่างๆ ได้ดีรวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับสาธารณะ

กล่าวสรุปโดยรวมโดยทั่วไป (มีเกณฑ์ผันแปร) พระเสาร์คือตัวทุกข์ แต่เป็นทุกข์ของคนจริงที่พร้อมจะต่อสู้ฟันฝ่า เพราะถึงอย่างไรคนเราก็มีทุกข์เป็นธรรมดาอยู่แล้วเหมือนมีสุขหรือกลางๆ ไม่ทุกข์ไม่สุข

การที่พระเสาร์จรจะเข้าไปเดินอยู่ในราศีมังกรระหว่าง 1 มีนาคม 2563 – 1 มีนาคม 2566 นั้น มีผลต่อท่านที่เกิดทุกลัคนาราศี แตกต่างกันไปตามเรื่องราว แม้ส่วนใหญ่จะออกแนวร้าย แต่ก็มีบางราศีที่พระเสาร์จรจะให้คุณงามความดีแต่ก็จะเป็นแบบทุกข์ลาภ คือทุกข์แล้วได้ หรือลาภทุกข์คือได้แล้วทุกข์ เพราะพระเสาร์ไม่ให้อะไรง่ายๆ กว่าจะได้อะไรก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนไขว่คว้า จนบางครั้งแทบจะถอดใจโยนผ้าขาวยอมแพ้ก็มี แต่เมื่อให้คุณก็จะให้แบบใหญ่โตชนิดสะใจ

เพราะอาการเดินช้าการให้คุณหรือโทษจากพระเสาร์จะเป็นไปอย่างนิ่มๆ ค่อยเป็นค่อยไป และไม่จำเป็นต้องเกิดเรื่องร้ายตลอดเวลาทั้งสองปีครึ่ง เพียงแต่การได้รู้อะไรล่วงหน้าจะได้ไม่ทำให้แปลกใจ และเตรียมรับมือไว้

เฉพาะเจาะจงลงไปอีกถึงพวกท่านที่ผูกดวงชะตาเป็น-ดูดาวดวงเดิมเป็นตามที่เคยแนะนำมาก่อนหน้านี้ หากพวกท่านมีดาวที่ออกแนวเป็นศัตรูกับพระเสาร์อันประกอบด้วยพระอาทิตย์ดวงเดิม (๑) – พระจันทร์ดวงเดิม (๒) – พระอังคารดวงเดิม (๓) และศุกร์ดวงเดิม (๖) และแม้แต่พระเสาร์ดวงเดิม (๗) สถิตรออยู่ในราศีมังกรและหรือมีนและหรือกรกฎและหรือตุลย์ที่ได้พลังฤทธิ์โยคจากพระเสาร์จรที่มังกรซ้ำเข้ามาเต็มที่สมควรที่จะระวังตัวไว้ล่วงหน้ามากๆ เพราะอาจเกิดอาการชีวิตทุกข์เหมือนซาเล้งคว่ำได้ไม่ช่วงใดก็ช่วงหนึ่งในสองปีครึ่งนี้

ส่วนพวกท่านที่โชคดีมีดาวอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้อิทธิพลจากพระเสาร์จรแล้วเป็นคุณกับชะตาอันประกอบด้วยพระพุธดวงเดิม (๔) – พระพฤหัสบดีดวงเดิม (๕) – พระราหูดวงเดิม (๘) สถิตรออยู่ในราศีมังกร หรือและมีน หรือและกรกฎ หรือและตุลย์ ผลจะมีด้านดีออกมาด้วยเป็นแบบทุกข์ลาภ หรือลาภทุกข์

แต่หากท่านใดมีดาวรองรับพระเสาร์จรในราศีดังกล่าวทั้งร้ายและดี ผลคือเรื่องร้ายก็ร้าย ดีก็ดีไม่ตัดรอนกัน

และแม้ว่าชีวิตพวกท่านจะมีดาวจรหลายดวงร่วมให้คุณ-โทษกับดวงชะตา ไม่ได้มีแต่พระเสาร์จรดวงเดียวรวมทั้งต้องพิจารณาหลักทักษาจรด้วย แต่ตอนต่อไปจะได้เริ่มต้นจาระไนผลของพระเสาร์จรที่เข้าไปเดินในราศีมังกรต่อท่านที่เกิดทุกลัคนาราศี ตอนละหนึ่งราศีเพื่อให้ทราบต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image